In Thailand

ผู้ว่าฯสุราษฎร์ฯลงพื้นที่วิภาวดีเพื่อรับฟัง ปัญหาชาวบ้านในพื้นที่นำสู่การแก้ไข



สุราษฏร์ธานี-ผู้ว่าฯ สุราษฎร์ฯ เดินสายลงพื้นที่อำเภอวิภาวดีตามโครงการบำบัดทุกข์บำรุงสุข เพื่อรับฟังปัญหาจากชาวบ้านในพื้นที่นำไปสู่การแก้ไข

วันนี้ (15 พ.ย.66) นายเจษฎา จิตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี พร้อมด้วย หัวหน้าส่วนราชการ  ลงพื้นที่อำเภอวิภาวดี จังหวัดสุราษฎร์ธานี ตามโครงการบำบัดทุกข์บำรุงสุข  เพื่อรับฟัง ปัญหาจากส่วนราชการ ผู้นำท้องที่ท้องถิ่นและชาวบ้านในพื้นที่ เพื่อเก็บรวบรวมข้อมูลเชิงลึก นำไปสู่การแก้ปัญหาอย่างเป็นรูปธรรม โดยมีนายนพดล ขาวมะลิ นายอำเภอวิภาวดี พร้อมด้วย  ผู้นำท้องที่ ท้องถิ่น ร่วมต้อนรับและให้ข้อมูลตลอดการลงพื้นที่

กิจกรรมเริ่มจากการประชุมมอบนโยบายและแนวทางปฏิบัติราชการ “บำบัดทุกข์ บำรุงสุข” แก่หัวหน้าส่วนราชการ กำนันผู้ใหญ่บ้าน ณ ที่ว่าการอำเภอวิภาวดี ต.ตะกุกเหนือ อ.วิภาวดี จ.สุราษฎร์ธานี โดยผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้เน้นย้ำ ให้ทุกภาคส่วนในพื้นที่ ทำงานด้วยความรักความสามัคคี หลีกเลี่ยงความขัดแย้ง และย้ำเรื่องปัญหายาเสพติดที่จะต้องร่วมกันแก้ปัญหาอย่างจริงจัง เพื่อป้องกันบุตรหลานจากพิษภัยของยาเสพติด 

จากนั้นได้เดินทางไป บริเวณสะพานสิริกฤตตานุกูลหรือสะพานบ้านท่านหญิงเพื่อหารือแนวทางในการแก้ปัญหา น้ำท่วมและภัยแล้งของอำเภอวิภาวดี โดยปัญหาหลักของพื้นที่คือปัญหาการขาดน้ำในการทำการเกษตรเนื่องจากพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่สำหรับการทำสวนปาล์ม สวนยาง และสวนทุเรียน ซึ่งเวลาหน้าแล้ง น้ำจะไม่เพียงพอต่อการทำการเกษตร ทั้งนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานีได้ให้ข้อเสนอแนะในการทำฝายกั้นน้ำเพื่อกักเก็บน้ำไว้ใช้ช่วงหน้าแล้ง จากนั้นได้เดินทางไปยัง ศูนย์ศิลปาชีพบ้านท่านหญิง หมู่ที่ 1 ตำบลตะกุกเหนือ อำเภอวิภาวดี จังหวัดสุราษฎร์ธานี ในการหารือแนวทางการช่วยเหลือ เพื่อฟื้นฟูอาชีพการปลูกหม่อนเลี้ยงไหม และทอผ้าไหมให้แก่สมาชิกศูนย์ศิลปาชีพบ้านท่านหญิง รวมถึงการใช้ทักษะอาชีพและพัฒนาทักษะการทอผ้าไหม ทั้งนี้ยังส่งเสริมการให้ความรู้ความเข้าใจแก่ราษฎรในพื้นที่ในเรื่องผลิตภัณฑ์หม่อนไหม

ก่อนเดินทางไปยัง หมู่ที่ 11 บ้านคลองปาว ตำบลตะกุกใต้ และรับฟังปัญหาจากชาวบ้านชุมชนบ้านคลองหลอบ เพื่อหารือแนวทางการแก้ปัญหาโครงการ การก่อสร้างอ่างเก็บน้ำวิภาวดี เพื่อกักเก็บน้ำไว้ใช้ในหน้าแล้ง แต่การก่อสร้างส่งผลกระทบต่อชาวบ้านในพื้นที่ ในด้านที่ดินที่ใช้ก่อสร้าง มีผลกระทบต่อที่ดินทำกินของชาวบ้าน ในการนี้ผู้ว่าฯได้ร่วมหารือร่วมกับหัวหน้าส่วนและประชาชนในพื้นที่ในการแก้ปัญหา เพื่อที่จะส่งผลกระทบต่อชาวบ้านในพื้นที่น้อยที่สุด.