In Global
อัลไลแอนซ์ฟอร์กู๊ดประชุมธุรกิจ-การกุศล รวมตัวมหาเศรษฐีในโลกคิดเชิงบวก
สิงคโปร์, 16 พ.ย. 2566 การประชุมธุรกิจและการกุศล (Business and Philanthropy Forum) ประจำปี 2566 ซึ่งจัดโดยอัลไลแอนซ์ ฟอร์ กู๊ด (Alliance For Good) หรือเอเอฟจี (AFG) ที่สิงคโปร์ ระหว่างวันที่ 9-10 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ประสบความสำเร็จในการรวมตัวผู้นำธุรกิจครอบครัวและนักการกุศลรุ่นใหม่ที่ทรงอิทธิพลที่สุดในโลก เพื่อส่งเสริมการผสมผสานระหว่างความมั่งคั่งและความใจบุญเพื่ออนาคตที่สดใส
เอเอฟจีเปิดตัวโครงการริเริ่ม "วิสัยทัศน์เอเชีย: ความมั่งคั่งและความมุ่งหมาย" (Asia Vision: Wealth and Purpose)ในระหว่างการประชุมครั้งนี้ โดยสนับสนุนธุรกิจครอบครัวและสำนักงานธุรกิจครอบครัวให้เป็นพลังสร้างความดี ผู้นำธุรกิจกว่า 500 รายให้คำมั่นที่จะมีส่วนร่วมกับผู้นำองค์กรไม่แสวงผลกำไรและกิจการเพื่อสังคมในปีหน้าเพื่อขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงที่มีความหมาย
แขกผู้ทรงเกียรติ นางโจเซฟีน เตียว (Josephine Teo) รัฐมนตรีกระทรวงการสื่อสารและสารสนเทศ ประเทศสิงคโปร์ กล่าวปาฐกถาพิเศษเกี่ยวกับปัญญาประดิษฐ์เพื่อสาธารณประโยชน์ โดยมุ่งเน้นไปที่การใช้การมีส่วนร่วมของปัญญาประดิษฐ์ ผลกระทบ และอนาคตของเรา การอภิปรายแบบกลุ่มจะมุ่งเน้นหัวข้อที่ล้ำสมัย เช่น ธุรกิจครอบครัวและสำนักงานธุรกิจครอบครัวที่เป็นพลังสร้างความดี และการสร้างนิเวศทางศิลปะของเอเชีย การประชุมนี้ยังสนับสนุนให้ธุรกิจเอกชนร่วมมือกันและมีส่วนร่วมอย่างมีประสิทธิภาพในการเผชิญกับความท้าทายทางภูมิรัฐศาสตร์
ไค-ฟู ลี (Kai-Fu Lee) ผู้บุกเบิกด้านเอไอ (AI) กล่าวบรรยายและมีส่วนร่วมในการอภิปรายกลุ่มเรื่องการใช้ปัญญาประดิษฐ์เพื่ออนาคตที่ดีกว่า (Artificial Intelligence for a Better Future) โดยคุณไค-ฟู กล่าวว่า "เอไอจะเข้ามาพลิกโฉมทุกธุรกิจด้วยวิธีที่เหนือจินตนาการ และจะกลายเป็นตัวเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตที่น่าทึ่งที่สุด ดังนั้น ยุคนี้จึงขึ้นอยู่กับเราจริง ๆ"
ผู้เข้าร่วมงานที่มีชื่อเสียง ได้แก่ บุคคลสำคัญด้านการกุศล เช่น เบนจามิน ฟก (Benjamin Fok) ผู้อำนวยการมูลนิธิฟกอิ๋งถัง (Fok Ying Tung Foundation), สเตฟาน เมสเซอร์ (Stefan Messer) ประธานคณะกรรมการจากบริษัทเมสเซอร์ กรุ๊ป (Messer Group), เจ้าหญิงทีเรโล โมโลตเลจี (Tirelo Molotlegi) แห่งราชวงศ์บาโฟเคง (Royal Bafokeng Nation) แอฟริกา, บาสมา อัลซามิล (Basma Alzamil) จากครอบครัวอัล ซามิล แห่งซาอุดีอาระเบีย, ลอว์เรนซ์ เหลียน (Laurence Lien) ผู้ร่วมก่อตั้งและซีอีโอผู้ก่อตั้งจากเอเชีย ฟิแลนโทรฟี เซอร์เคิล (Asia Philanthropy Circle), เบอร์รี ลิเบอร์แมน (Berry Liberman) ผู้ร่วมก่อตั้งและผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์จากบริษัท สมอลล์ ไจแอนต์ส (Small Giants) และตัวแทนจากลิเบอร์แมน แฟมิลี (Liberman Family) ของออสเตรเลีย บุคคลสำคัญอื่น ๆ ในสาขาเอไอได้แก่ ดาเชง เตา (Dacheng Tao) ศาสตราจารย์ด้านวิทยาการคอมพิวเตอร์ที่มหาวิทยาลัยซิดนีย์ และผู้วิจัยจากสถาบันวิทยาศาสตร์แห่งออสเตรเลีย (Australian Academy of Science) และอคาเดเมีย ยูโรเปีย (Academia Europaea) และเมียว ชุน หยาน (Miao Chun Yan) ประธานคณะวิทยาการคอมพิวเตอร์และวิศวกรรมศาสตร์ ประธานอธิการบดีสาขาวิทยาการคอมพิวเตอร์ คณะวิทยาการคอมพิวเตอร์และวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีนันยาง
เจ้าหญิงทีเรโล โมโลตเลจี ทรงกล่าวสุนทรพจน์ในหัวข้อ "การกุศลของราชวงศ์และการลงทุนเพื่อสร้างผลกระทบเชิงบวก" (Royal Family Philanthropy and Impact Investment) โดยเพิ่มมุมมองที่ไม่เหมือนใครให้กับการอภิปรายในงานประชุม
เพื่อสืบสานต่อจากการประชุมก่อนหน้านี้ เอเอฟจีระดมทุนได้มากกว่า 650,000 ดอลลาร์สิงคโปร์สำหรับสถานีบริการด้านโรคหลอดเลือดสมอง (Stroke Support Station) ซึ่งเน้นย้ำความทุ่มเทในการสร้างโลกที่ดีกว่าสำหรับทุกคน
เอเอฟจีแสดงความขอบคุณต่อพันธมิตรและผู้สนับสนุน ได้แก่ พันธมิตรผู้ก่อตั้งอย่างมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีนันยาง, ผู้สนับสนุนระดับแพลตินัมอย่างไฮไลต์ (Highlight) และติงหวา (Tinghua), ผู้สนับสนุนระดับไดมอนด์อย่างเกรต อีสเทิร์น (Great Eastern) และเกรต อีสเทิร์น ไฟแนนเชียล แอดไวเซอร์ส (Great Eastern Financial Advisers), ผู้สนับสนุนระดับซิลเวอร์อย่างอีตัน โซลูชันส์ (Eton Solutions), โก โกลบอล เจม (Go Global Gem) และมูลนิธิการกุศลเอดรีม (Adream Charitable Foundation) ไปจนถึงพันธมิตรอย่างสถาบันวิจัยเชิงกลยุทธ์เว่ยซิน (Weixin Strategic Research Institute) และมูลนิธิไบต์แดนซ์ (ByteDance Foundation)
อัลไลแอนซ์ ฟอร์ กู๊ด (เอเอฟจี) ยังคงอุทิศตนเพื่อใช้ประโยชน์จากความมั่งคั่งอย่างมีเป้าหมาย สร้างโลกที่ความมั่งคั่งมาบรรจบกับเป้าหมายและสวัสดิการได้อย่างลงตัว หนึ่งวันก่อนงานสัมมนาในวันที่ 8 พฤศจิกายน โครงการผู้นำการกุศลรุ่นใหม่ (Next Generation Philanthropy Leaders Fellowship Program) ได้รวบรวมผู้นำรุ่นต่อไปจากธุรกิจครอบครัวและสำนักงานธุรกิจครอบครัวชั้นนำกว่า 25 รายมาเข้าร่วมมาสเตอร์คลาสและการฝึกอบรมโดยผู้ฝึกสอนที่เชี่ยวชาญเป็นเวลาหนึ่งวัน โปรแกรมที่จัดก่อนการประชุมนี้จะเตรียมความพร้อมสำหรับการอภิปรายเชิงลึกในระหว่างการประชุมต่อไป
ดังที่นายเบนจามิน ฟก กล่าวในคำกล่าวเปิดงาน การเดินทางสู่ความเจริญรุ่งเรืองที่ขับเคลื่อนด้วยเป้าหมายนี้ "เริ่มต้นที่สิงคโปร์ ประเทศที่สร้างและเติมเต็มความฝันอันสูงส่ง ปาฏิหาริย์ของสิงคโปร์จะยังคงดำเนินต่อไป"
เอเอฟจีตั้งเป้าจัดงานกิจกรรมต่าง ๆ ที่จะนำไปสู่การประชุมในปี 2567 ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 3-4 พฤศจิกายน 2567 ณ ประเทศสิงคโปร์