Think In Truth
โป๊ะแตก!'ซุ้มแก๊งคอลเซ็นเตอร์' ใต้อุ้งมือ 'ตระกูลหมิง'ที่เล้าก์ก่าย...โดย พินิจ จันทร
ในช่วงที่ผ่านมาเชื่อได้ว่าคนไทยทั่วทุกภูมิภาคคงได้รับสายจากแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่โทรมาหลอกเอาเงินสารพัดรูปแบบ นอกจากได้สร้างผลกระทบและปัญหามากมายทั้งสูญเสียเงินทองรวมกันนับพันล้านบาทแล้วหลายคนถึงขั้นฆ่าตัวตาย ถึงแม้ว่าจะได้หาทางป้องกันปราบปราม แต่ก็เป็นไปได้ยากเนื่องจากแก๊งคอลเซ็นเตอร์ทั้งหมดอยู่นอกราชอาณาจักร ต้องไปขอความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านไม่ว่าจะเป็นกัมพูชา พม่าและสปป.ลาว เป็นต้น
ล่าสุดเมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2566 ได้เกิดเหตุการณ์สู้รบกันบริเวณชายแดนเมียนมาติด สป.จีน ระหว่างกองกำลังพันธมิตรชนกลุ่มน้อย 3 กลุ่มที่เรียกตัวเองว่าThree Brotherhood Alliance(กลุ่มพันธมิตรสามภราดรภาพ) ประกอบด้วยกองทัพโกกั้ง หรือ MNDAA กองทัพปลดปล่อยแห่งชาติตะอางหรือ TNLA และกองทัพยะไข่ หรือ AA ซึ่งบุกเข้าโจมตีและยึดฐานที่มั่นของทหารเมียนมา ภายในเขตปกครองตนเองโกกั้ง รัฐฉานตอนเหนือและพื้นที่ใกล้เคียงหรือปฏิบัติการ 1027ต่อเนื่องมาจนถึงเดือนพฤศจิกายน 2566
ทั้งนี้หากมีความแตกต่างจากการปะทะกันระหว่างทหารเมียนมากับชนกลุ่มน้อยในอดีต เพราะไม่เกี่ยวข้องกับสนธิสัญญาปางโหลง ที่พม่า เคยตกลงกันชนกลุ่มน้อย เมื่อปี 2490 และไม่เกี่ยวกับประชาธิปไตยหรือเอกราช เหมือนเขตกะเหรี่ยงหรือคะยา แต่เป็นสงครามการแก้แค้น แย่งชิงอำนาจการปกครอง และผลประโยชน์ เป็นที่ตั้งกลุ่ม Three Brotherhood Alliance
สำหรับในการปฏิบัติการครั้งนี้ สามารถยึดได้หลายเมือง ยึดอาวุธยุทโธปกรณ์และเชลยศึกได้เป็นจำนวนมาก ทำให้ด่านพรมแดนระหว่างจีน-เมียนมา โดยเฉพาะจุดการค้าใหญ่ที่เมืองหมู่เจ้-รุ่ยลี่ จำเป็นต้องปิดตัวลง มีผู้ลี้ภัยสงคราออกจากนอกพื้นที่ไปเป็นจำนวนมาก หนึ่งในกลุ่มผู้ลี้ภัยมีคนไทยอยู่หลายร้อยคน ส่วนหนึ่งหลบหนีเข้าไปในเขตปกครองของว้าและถูกทหารว้าพาตัวส่งต่อไปให้กับทหารเมียนมา และส่งกลับไทยจำนวน 41 คนและอีกเกือบ 300 คน ได้ถูกส่งตัวกลับมาไทยเมื่อไม่นานมานี้
จินนี่ ซึ่งเป็นยูทูบเบอร์ชื่อดังและเป็นลูกหลานอดีตทหารจีนคณะชาติ (กองพล 93) ที่เคลื่อนไหวในภาคเหนือของประเทศไทยในอดีต ซึ่งเกิดและทำงานในประเทศไทยแต่ได้ย้ายไปอยู่กับสามีที่สหรัฐอเมริกา ได้เผยแพร่มุมมองและข่าวสารเกี่ยวกับไทย จีน ไต้หวัน รัฐฉาน ฯลฯ ผ่าน“ชีวิตในอเมริกา By J Channel”อย่างต่อเนื่อง ได้เผยแพร่คลิปความยาวประมาณ 09.05 นาที อธิบายถึงสาเหตุที่กองกำลังพันธมิตรได้ลุกขึ้นมาต่อสู้กับทหารรัฐบาลเมียนมาด้วย
จินนี่ระบุว่ามีข่าวสารที่ปรากฏในประเทศจีนทุกวัน แต่ไม่เคยเห็นรายงานข่าวนี้ในประเทศไทย โดยสื่อจีนรายงานว่าสาเหตุของการสู้รบเกิดจากคนใน 4 ตระกูลดัง คือ ตระกูลไป๋ ตระกูลหลิว ตระกูลเว่ยและตระกูลหลิว (ชื่อซ้ำกัน) ได้ยึดอำนาจการปกครองไปจากผู้ปกครองเดิมคือนายเผิง จา เชิง ซึ่งได้เสียชีวิตเมื่อปี 2565 และส่งต่ออำนาจให้กับบุตรชายคือนาย “เผิงเต๋อ เหยิน”หรือ “เผิง หย่ง เซิ่น
เนื่องจากนายเผิง จา เชิง ต้องการเปลี่ยนพื้นที่โกกั้งให้เป็นธุรกิจสีขาวและส่งเสริมการท่องเที่ยว จึงทำให้คนใน 4 ตระกูลดังซึ่งก็เป็นลูกน้องเก่าของนายเผิง จา เชิง ได้หันไปร่วมมือกับทหารเมียนมาบุกเข้ายึดอำนาจได้ในที่สุด คนใน 4 ตระกูลดังยังเป็นพันธมิตรกับคนในตระกูลหมิงที่ประกอบธุรกิจสีเทาในเขตโกกั้งด้วย และเมื่อร่วมกันยึดอำนาจได้จึงทำให้นายเผิง จาเชิง และนายหง เต๋อ เหยิน พากองกำลังไปตั้งฐานอยู่ในป่าเขาแทน
ต่อมาทางการจีนได้ขอความร่วมมือไปยังประเทศไทย / เมียนมา / สปป.ลาว และกัมพูชา ปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์อย่างหนัก เพราะส่งผลกระทบต่อชาวจีนที่ถูกหลอกไปทำงาน ซึ่งพบว่าท่าขี้เหล็ก และเมียวดี ประเทศเมียนมา เป็นแหล่งใหญ่ให้ความร่วมมือในการปราบปรามดีมากจนช่วยชาวจีนที่ถูกหลอกกลับประเทศได้ถึง 3,000-4,000 คน
แต่ปรากฏว่าในเขตปกครองตนเองโกกั้งที่ปกครองโดย 4 ตระกูลดังและมีความสัมพันธ์กับคนในตระกูลหมิงไม่ให้ความร่วมมือทำให้ทางการจีนส่งสายลับตำรวจเข้าไปในเขตดังกล่าว 4 คน และพบการเคลื่อนย้ายเหยื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์ไปจุดหนึ่งด้วย ทำให้สายลับที่แฝงตัวในกลุ่มเหยื่อได้แสดงตัวว่ามาจากทางการจีนและขอให้ยุติการเคลื่อนย้าย สุดท้ายสายลับทั้ง 4 คน กลับถูกฆ่าฝังทั้งเป็นด้วย
สื่อท้องถิ่นในเมียนมารายงานว่า หมิงเสฺวี่ยชาง ใช้ปืนปลิดชีพตัวเองเมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 2566 เพราะไม่ต้องการให้ตำรวจจีนคุมตัวไปดำเนินคดีในสาธารณรัฐประชาชนจีน
สื่อท้องถิ่นในเมียนมารายงานว่า หมิงเสฺวี่ยชาง ใช้ปืนปลิดชีพตัวเองเมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 2566 เพราะไม่ต้องการให้ตำรวจจีนคุมตัวไปดำเนินคดีในสาธารณรัฐประชาชนจีน
ข่าวสารจากประเทศจีนยังระบุอีกว่าด้วยเหตุนี้จึงทำให้นายหง เต๋อ เหยิน ได้ขึ้นเป็นผู้นำกลุ่มพันธมิตรและขันอาสานำกำลังเข้าไปปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ให้กับทางการจีน โดยนำกำลังบุกเข้าไปในเขตปกครองตนเองโกกั้งตั้งแต่เดือนตุลาคม-พฤศจิกายน 2566 เพื่อหวังจะแย่งชิงอำนาจคืน ปัจจุบันการต่อสู้ยังคงมีอยู่และทางการจีนได้ประกาศให้รางวัลหมายจับผู้นำของตระกูลหมิงและครอบครัวเป็นเงินจำนวน 100,000-500,000 หยวนด้วย
โกก้างคือชาวฮั่น หรือชาวจีน อาศัยอยู่ในมณฑลยูนนาน เป็นลูกหลานขุนศึกตระกูลหยาง สมัยอังกฤษยึดเมียนมา ได้ขีดเส้นพรมแดนใหม่ แบ่งเป็นเมียนมา-จีน แผ่นดินชาวโกก้าง ถูกผนวกเข้ากับประเทศเมียนมาเมื่อจีนแผ่นดินใหญ่กลายเป็นคอมมิวนิสต์ เหมาเจ๋อตง สนับสนุนพรรคคอมมิวนิสต์พม่า ทำให้สหายเผิงจา เซิง ตั้งกองทัพปลดปล่อยประชาชนโกก้าง โดยทหารปลดแอกจีน ร่วมทหารโกก้าง ยึดเมืองโก สร้างเขตปลดปล่อย ในรัฐฉานเหนือ
ปี 2532 กองทัพปลดปล่อยประชาชนโกก้าง ได้ทำสัญญาหยุดยิงกับรัฐบาลทหารเมียนมา พร้อมตั้งเป็นเขตปกครองพิเศษที่ 1 มีเมืองเล้าก์ก่าย เป็นเมืองหลวง และเปลี่ยนชื่อกองทัพใหม่ว่า กองทัพสัมพันธมิตรชาติประชาธิปไตยพม่า(MNDAA)ต่อมาเผิงจา เซิง ได้พัฒนาเขตปกครองตนเองจนเจริญรุ่งเรือง จากสนามรบกลางหุบเขา กลายเป็นเมืองทันสมัย มีตึกสูงเสียดฟ้า
ปี 2552 ไป๋ สั่วเฉิง รองประธานสภาโกก้าง สมคบทหารเมียนมายึดเล้าก์ก่าย เผิงจา เซิง พาพลพรรคหนีข้ามพรมแดนเข้าเมืองจีน
ปี 2560 เผิงจา เซิงป่วยหนัก เสียชีวิตที่นครคุนหมิง มณฑลยูนนาน สหายเผิงต้าซุน ลูกชายขึ้นเป็นผู้นำกองทัพโกก้าง(MNDAA) ทำการสู้รบกับทหารเมียนมา
เผิงต้าซุน ผู้นำกองทัพโกก้าง(คนปัจจุบัน)
ระยะหลัง เมืองเล้าก์ก่าย เขตปกครองตนเองโกก้าง ภายใต้การปกครองของกลุ่มโกก้างที่สวามิภักดิ์เมียนมา หรือกองกำลังพิทักษ์ชายแดน (BGF)ที่ 1006 ได้กลายเป็นเมืองอบายมุขเมื่อกลุ่มจีนเทาเข้ามาตั้งฐานอาชญากรรมไซเบอร์ อยู่ในเมืองเล้าก์ก่าย หลอกลวงคนจีนในแผ่นใหญ่ ในรูปแบบต่างๆ ผ่านระบบอินเทอร์เน็ต ทางการจีนได้ส่งข้อมูลมายังรัฐบาลทหารของพล.อ.อาวุโสมินอ่องหล่าย ( ประธานสภาบริหารภาครัฐ หรือ SAC ผู้นำรัฐเผด็จการเมียนมา) ให้ช่วยปราบปรามจับกุมแก๊งจีนเทา หากแต่ “มินอ่องหล่าย” ไม่สนองนโยบายปราบจีนเทา เพราะว่ากองทัพเมียนมา และกองกำลังรักษาชายแดน( BGF) มีเอี่ยวกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ กาสิโน และยาเสพติด
พล.อ.อาวุโส มินอ่องหล่าย
อย่างที่ทราบกัน “มินอ่องหล่าย” ไม่ต้องการปราบจีนเทา เพราะได้ประโยชน์จากกองกำลังพิทักษ์ชายแดน (BGF) ที่คุมพื้นที่ชายแดนเมียนมา-จีน รวมถึงเขตปกครองตนเองโกก้าง
อย่างไรก็ตาม เมื่อปลายเดือนตุลาคม 2566 ที่ผ่านมา รัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงสาธารณะของจีนไปเยือนเนปิดอว์ เพื่อเจรจากับรัฐบาลมินอ่องหล่ายจนได้ข้อสรุปว่า เมียนมาไฟเขียวให้ทางการจีน ส่งตำรวจเข้าไปในเขตปกครองตนเองโกก้างได้
สำหรับเมืองเล้าก์ก่ายอยู่ในเขตปกครองตนเองโกก้าง ตกอยู่ใต้อิทธิพลจีนเทา ความมั่งคั่งจากอาชญากรรมไซเบอร์ ส่งผลให้เล้าก์ก่ายเติบโตแบบก้าวกระโดดปักกิ่งจึงมีนโยบาบปราบจีนเทา ทั้งในเขตปกครองตนเองโกก้างและเขตปกครองตนเองว้า(เฉพาะที่เขตว้า ปรากฏว่า กลุ่มว้าแดงให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี)
สำหรับ4 อาชญากรตระกูลหมิง ที่ทางการจีนขึ้นบัญชีดำคือหมิงเสฺวี่ยชาง สมาชิกสภาบริหารปกครองตนเองโกก้าง / หมิงกัวผิง หรือหมิง เสี่ยวผิง ผู้นำกองกำลังพิทักษ์ชายแดน(BGF) /หมิงจื้อหลานและหมิงเจิ้นเจิ้น
ปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในเล้าก์ก่าย กลายเป็นหนามยอกอกจีน และจังหวะนี้เอง กองทัพโกก้าง(MNDAA) จึงฉวยโอกาสเปิดยุทธการถล่มทหารเมียนมาและทหาร BGF
จากการรายงานข่าวแจ้งว่า เป้าหมายของกองทัพโกก้างคือ ยึดเมืองเล้าก์ก่าย เมื่อวันที่18 พฤษภาคม2566 ที่ผ่านมา ได้ทำการกวาดล้างแก๊งคอลเซ็นเตอร์ซึ่งมีคนไทยเกี่ยวข้องกับธุรกิจจีนเทา 293 คน (มีคนไทย 41 คนที่ตกเป็นเหยื่อการค้ามนุษย์) และโดยเฉพาะธุรกิจผิดกฎหมายของตระกูลหมิง บ้านใหญ่โกก้าง แห่งเมืองเล้าก์ก่าย
กลุ่มคนไทยหนีตายออกจากเมืองเล้าก์ก่าย
ว่ากันว่า ปฏิบัติการทางทหารของกองทัพโกก้างเที่ยวนี้ คล้ายได้รับไฟเขียวจากจีน ให้ช่วยกวาดล้างกลุ่มจีนเทาซึ่งพล.อ.อาวุโส มินอ่องหล่าย รู้อยู่แก่ใจว่า จีนแอบสนับสนุนกองทัพโกก้าง ทั้งอาวุธยุทธภัณฑ์ รวมถึงให้อาศัยในแผ่นดินจีน
หลังจากกลุ่มพันธมิตรสามพี่น้อง โกก้างตะอางและอาระกันเปิดยุทธการ 1027 ยึดพื้นที่ได้ 8 เมืองในรัฐฉานเหนือ โดยอ้างว่า ต้องการกวาดล้างแก๊งจีนเทา ปราบปรามอาชญากรรมไซเบอร์ ทางด้าน พล.อ.อาวุโส มินอ่องหล่าย ก็อยู่นิ่งไม่ได้เพราะสูญเสียที่มั่นทางทหารไปเกือบ 100 แห่งในรัฐฉานเหนือ จึงมีคำสั่งปลด อู มฺยิ้น ส่วย ออกจากประ ธานสภาบริหารเขตปกครองตนเองโกก้าง เขตพิเศษที่ 1 แห่งรัฐฉาน พร้อมกันนั้น สภาบริหารแห่งรัฐ ได้แต่งตั้ง พลจัตวา ทุน ทุน มฺยิ้น ให้เป็นรักษาการประธานสภาบริหารเขตปกครองตนเองโกก้าง เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2566
ก่อนหน้านั้น สถานีโทรทัศน์ MRTV ของทหารเมียนมา ได้เผยแพร่คำประกาศของสำนักงานความมั่นคงสาธารณะเหวินโจว มณฑลเจ้อเจียง สาธารณรัฐประชาชนจีน ที่ออกหมายจับ 4 ผู้ต้องหาระดับหัวหน้าแก๊งอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ประกอบด้วย มิงเสฺวี่ยชาง (Ming Xuechang) อดีต สส.รัฐสภาเมียนมา สังกัดพรรค USDP ของทหารเมียนมา และอดีตสมาชิกสภาบริหารเขตปกครองตนเองโกก้าง / หมิงกัวผิง (Ming Guoping) หรือ หมิง เสี่ยวผิง (Ming Xiaoping) ผู้นำกองกำลังพิทักษ์ชายแดน (BGF) หรือกองกำลังโกก้าง สายมินอ่องหล่ายรวมถึงผู้หญิงจีนอีก 2 คนคือ หมิงจื้อหลาน (Ming Julan) และ หมิงเจิ้นเจิ้น (Ming Zhenzhen)
ต่อจากนี้ก็ต้องจับตาดูว่าแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่ถูกทลายลงจะฟื้นคืนชีพขึ้นมาได้อีกหรือไม.