In Thailand
เขื่อนลำปาวกาฬสินธุ์ส่งน้ำช่วยเกษตรกร พื้นที่ปลูกพืชช่วงฤดูแล้ง3แสนไร่
กาฬสินธุ์-เขื่อนลำปาว จังหวัดกาฬสินธุ์ส่งน้ำช่วยเหลือเกษตรกรพื้นที่ปลูกพืชในช่วงฤดูแล้งกว่า 3 แสนไร่ โดยเริ่มส่งน้ำตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2566ที่ผ่านมา ตามมติคณะกรรมการจัดการชลประทานหรือ JMC ด้านผอ.โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำปาวย้ำปริมาณน้ำเพียงพอ พร้อมขอทุกภาคส่วนร่วมกันใช้น้ำอย่างประหยัด คุ้มค่า และเอื้อเฟื้อแบ่งปัน เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมทั่วถึง และเกิดประโยชน์สูงสุด
วันที่ 4 ธันวาคม 2566 นายสำรวย อินพิทักษ์ ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำปาวหรือเขื่อนลำปาว เปิดเผยว่า ปัจจุบันเขื่อนลำปาวมีปริมาณน้ำอยู่ที่ 1,926 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ 97% จากความจุกักเก็บ 1,980 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งมีประมาณน้ำเพียงพอต่อการบริหารจัดการน้ำฤดูแล้ง และเพียงพอต่อการใช้น้ำในทุกกิจกรรม
นายสำรวย กล่าวว่า ตามที่มีการประชุมคณะกรรมการจัดการชลประทาน (JMC) โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำปาว เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2566 ที่ผ่านมา ทางคณะกรรมการฯมีมติเห็นชอบร่วมกันในแนวทางการจัดการน้ำในช่วงฤดูแล้งปี 2566/2567 ให้สอดคลองกับปริมาณน้ำต้นทุน และมาตรการการบริหารจัดการน้ำในช่วงฤดูแล้ง ตามสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ที่ได้นำเสนอและคณะรัฐมนตรีเห็นชอบตามนโยบายดังกล่าว จึงมีมติในการบริหารจัดการน้ำในช่วงฤดูแล้ง
โดยเริ่มส่งน้ำในวันที่ 1 ธันวาคม 2566 ที่ผ่านมา ปัจจุบันส่งน้ำเข้าคลองส่งน้ำเฉลี่ยวันละ 0.71 ล้านลูกบาศก์เมตร ระบายน้ำผ่านอาคารระบายน้ำลงลำน้ำเดิมช่วยพื้นที่ด้านท้าย และรักษาระบบนิเวศวันละ 0.95 และจะสิ้นสุดการส่งน้ำประมาณวันที่ 31 มีนาคม 2567 ทั้งนี้ได้กำหนดพื้นที่ส่งเสริมการเพราะปลูกพืชฤดูแล้งปี 2566/2567 ในพื้นที่ 300,000 ไร่ อย่างไรก็ตามฝากถึงพื้นที่ที่รับน้ำไม่สะดวกเกินศักยภาพการส่งน้ำ พื้นที่ที่มีความเสี่ยงต่อการขาดแคลนน้ำ ขอให้พิจารณาปลูกพืชทางเลือกและหลากหลาย เพื่อลดความเสี่ยงของผลผลิตที่อาจจะเสียหายจากการได้รับน้ำไม่เพียงพอ รวมทั้งเป็นการพักดิน บำรุงดินเพื่อใช้ปลูกข้าวนาปีต่อไป
นายสำรวย กล่าวอีกว่า สำหรับในช่วงนี้ได้ขอความร่วมมือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และเกษตรกรผู้ใช้น้ำให้ทำความสะอาดคู คลอง เพื่อเตรียมรับน้ำ และให้คลองรับน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมขอให้ผู้ใช้น้ำทุกภาคส่วนร่วมกันใช้น้ำอย่างประหยัด คุ้มค่า และเอื้อเฟื้อแบ่งปัน เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมทั่วถึง รวมทั้งใช้น้ำให้เกิดประโยชน์สูงสุด