In News
'ไทย-ฮ่องกง'ให้จ่ายเงินผ่านQR Code ข้ามพรมแดนหนุนท่องเที่ยวในภูมิภาค
กรุงเทพฯ-โฆษกรัฐบาลเผย ไทย - ฮ่องกง เปิดระบบจ่ายเงินผ่าน QR Code ข้ามพรมแดน ส่งเสริมเทคโนโลยีและนวัตกรรมทางการเงิน พร้อมสนับสนุนการท่องเที่ยวระหว่างกันในภูมิภาค
วันนี้ (6 ธันวาคม 2566) นายสัตวแพทย์ชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และธนาคารกลางฮ่องกง (Hong Kong Monetary Authority: HKMA) ได้เปิดให้บริการระบบชำระเงินข้ามพรมแดนผ่าน QR Code แล้ว ตั้งแต่วันที่ 4 ธันวาคม 2566 เป็นต้นไป ผ่านการเชื่อมระบบ QR ของไทย (Thai QR code) กับระบบ FPS QR ของฮ่องกง (Hong Kong Faster Payment System QR) ซึ่งจะอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้เดินทางหรือลูกค้า สามารถชำระเงินผ่านร้านค้าได้อย่างรวดเร็ว ปลอดภัย และเข้าถึงง่าย สะท้อนความสำเร็จ และความเท่าทันในการส่งเสริมเทคโนโลยีและนวัตกรรมทางการเงินของไทย พร้อมสนับสนุนการท่องเที่ยวระหว่างกันในภูมิภาค
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ผู้ใช้บริการสามารถชำระเงินได้ ผ่านแอปพลิเคชันธนาคารบนโทรศัพท์มือถือ โดยสแกน QR Code ที่แต่ละร้านค้าแสดงไว้ ซึ่งร้านค้าจะได้รับเงินจากการซื้อสินค้าทันที (อ้างอิงอัตราแลกเปลี่ยนตามตลาด ณ เวลาที่ใช้งาน) และยังไม่มีการเก็บค่าธรรมเนียม โดยขณะนี้มีผู้ให้บริการชำระเงินหลายรายที่เข้าร่วม ได้แก่ ธนาคารพาณิชย์ 7 แห่งและ Non-bank 2 แห่งของฮ่องกง และธนาคารพาณิชย์ของไทย ซึ่งสำหรับการใช้งานสามารถแบ่งได้ตามประเภทของผู้ใช้บริการ ดังนี้
- ผู้ใช้บริการจากไทย เดินทางไปใช้จ่ายที่ฮ่องกง สามารถใช้โมบายแอปพลิเคชันของผู้ให้บริการไทยที่ร่วมโครงการ ได้แก่ ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา และธนาคารกรุงไทย เพื่อสแกน FPS QR ของฮ่องกง โดยชำระเงินได้สูงสุด 100,000 บาท/รายการ หรือสูงสุดไม่เกิน 500,000 บาท/วัน
- ผู้ใช้บริการจากฮ่องกง เดินทางมาใช้จ่ายที่ไทย สามารถใช้โมบายแอปพลิเคชันของผู้ให้บริการฮ่องกงที่ร่วมโครงการ เพื่อสแกน QR ของไทยที่ออกโดย 5 ธนาคารพาณิชย์ ได้แก่ ธนาคารกรุงเทพ, ธนาคารกรุงศรีอยุธยา, ธนาคารกสิกรไทย, ธนาคารกรุงไทย และ ธนาคารไทยพาณิชย์ โดยชำระเงินได้สูงสุดไม่เกิน HKD 10,000 ต่อวัน (ไม่กำหนดวงเงินต่อรายการ)
“รัฐบาลส่งเสริมและผลักดันความร่วมมือทางด้านนวัตกรรม ให้เท่าทันกับนานาประเทศ และตั้งเป้าอำนวยความสะดวกเพื่อการท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง โดยความร่วมมือเพื่อการอำนวยความสะดวกเหล่านี้เป็นหนึ่งในประเด็นที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง หยิบยกในการเดินทางเยือนเขตบริหารพิเศษฮ่องกงฯ เมื่อเดือนตุลาคม 2566 ที่ผ่านมา ซึ่งนายกรัฐมนตรีเห็นว่าไทยและฮ่องกงเป็นพันธมิตรทางการค้าและการลงทุนที่สำคัญ การอำนวยความสะดวกทางการค้าการท่องเที่ยวจะต่อยอดเป็นประโยชน์ให้แก่ประชาชนของทั้งคู่ ทั้งนี้ เชื่อมั่นว่าไทยและฮ่องกงจะต่อยอดความร่วมมือเพื่อประโยชน์ร่วมกันได้เพิ่มขึ้นอีกตามศักยภาพ” นายสัตวเเพทย์ชัย กล่าว