In News

ECSTARร่วมIn-Spaceพัฒนาอวกาศไทย ตั้งเป้า2ปีไทยสร้างดาวเทียมใช้ได้เอง



กรุงเทพฯ-โฆษกรัฐบาลเผย ECSTAR ร่วมมือกับ In-Space ยกระดับการพัฒนากิจการอวกาศไทย ต่อยอดการพัฒนาเทคโนโลยีขั้นสูง ตั้งเป้า 2 ปีข้างหน้า ไทยสามารถสร้างดาวเทียมใช้ภายในประเทศได้

วันนี้ (8 ธันวาคม 2566) นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเปิดเผยว่า ประเทศไทยมีการมุ่งเน้นการพัฒนาเศรษฐกิจอวกาศ มาอย่างต่อเนื่อง โดยมีการนำข้อมูลดาวเทียมมาใช้ประโยชน์ในด้านต่างๆ อาทิการแลกเปลี่ยนข้อมูล การพัฒนาเทคโนโลยี ใช้เป็นเครื่องมือติดตามและตรวจวัดการกักเก็บคาร์บอน เพื่อวิเคราะห์และแก้ปัญหาโลกร้อน ให้สอดคล้องกับเป้าหมายการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก 

ซึ่งล่าสุดความร่วมมือระหว่างศูนย์ความเป็นเลิศด้านเทคโนโลยีอวกาศและวิจัย (The Excellence Centre of Space Technology and Research: ECSTAR) สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) กับ In-Space Missions Limited ประเทศอังกฤษ เพื่อพัฒนาและยกระดับกิจการด้านอวกาศของประเทศไทยให้เจริญก้าวหน้า มุ่งมั่นพัฒนากิจการด้านอวกาศของไทย ต่อยอดการพัฒนาทางเศรษฐกิจอวกาศ ด้านเทคโนโลยี ด้านธุรกิจ และการสร้างดาวเทียมในอนาคต โดยทั้งสองฝ่ายยังได้ลงนามบันทึกข้อตกลงร่วมมือ (MOU) ซึ่งแสดงให้เห็นถึงศักยภาพและเจตนารมย์ความมุ่งมั่นที่จะพัฒนากิจการอวกาศของประเทศไทย เพื่อสร้างสรรค์การพัฒนาเศรษฐกิจอวกาศอย่างรอบด้าน 

จากความร่วมมือครั้งนี้ ประเทศไทยจะได้รับประโยชน์หลากหลายด้าน เช่น ในการพัฒนาดาวเทียมเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลซึ่งกันและกัน การพัฒนาเทคโนโลยีอื่นๆ ที่เกี่ยวเนื่อง เช่น การแก้ปัญหาฝุ่นพิษ PM 2.5 ปัญหาไฟป่า และปัญหาการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ โดยมีเป้าหมายว่าทั้งสองฝ่ายจะทำงานร่วมกันในเดือนมีนาคม 2567 และภายใน 2 ปี จะมีการดำเนินการผลิตดาวเทียมร่วมกัน และสามารถใช้งานดาวเทียมได้ภายในระยะเวลา 3 ปี หนึ่งในนั้น ได้แก่ โครงการผลิตดาวเทียม Faraday Dragon ที่เป็นความร่วมมือจากหลากหลายประเทศ ร่วมกับ In-Space Missions Limited เพื่อผลิตดาวเทียมภูมิภาค ที่มีจุดประสงค์ใช้งานในด้านที่เกี่ยวกับรัฐบาล การค้า การเงิน และการศึกษา โดยประเทศไทยได้เป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินโครงการนี้ รวมถึงโครงการอื่นที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอีกด้วย

นอกจากนี้ ยังจะส่งผลให้ประเทศไทยสามารถผลิตดาวเทียมร่วมกับประเทศอื่นๆ ในอนาคต ทั้งนี้ การพัฒนากิจการอวกาศ เป็นสิ่งที่สามารถสร้างเทคโนโลยีและสร้างงานให้กับคนไทย ส่งผลดีทั้งด้านเศรษฐกิจและสังคม สร้างความเชื่อมั่นของประเทศในระดับสากล และการถ่ายทอดองค์ความรู้เทคโนโลยีระดับสูง ทำให้การร่วมมือพัฒนายกระดับด้านอวกาศเป็นสิ่งสำคัญของการเดินหน้าประเทศไทยที่จะเกิดขึ้นในอนาคต

“การร่วมมือพัฒนายกระดับกิจการอวกาศ ด้านเทคโนโลยีและดาวเทียม จะสามารถทำให้ประเทศไทยมีความเจริญก้าวหน้าครอบคลุมทุกด้านในอนาคต โดยนายเศรษฐา ทวีสิน  นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เชื่อมั่นว่าประเทศไทยจะสามารถพัฒนาเทคโนโลยีให้ก้าวหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีบุคลากรที่มีองค์ความรู้ที่ทันสมัย มีเศรษฐกิจอวกาศที่เติบโต และสามารถสร้างดาวเทียมที่ใช้งานได้จริงภายในประเทศ ภายในอีก2 ปีข้างหน้า โดยประเทศไทยจะก้าวเข้าสู่ประเทศแห่งเทคโนโลยีอย่างเต็มรูปแบบ สามารถผลิตเทคโนโลยีที่ทันสมัย สร้างมูลค่าให้กับประเทศไทยอย่างมหาศาล” นายชัยฯ กล่าว