In Bangkok

โรงเรียนกทม.ปักธงส้มเตือนค่าฝุ่นPM2.5 ทำห้องเรียนปลอดฝุ่นให้น้องอนุบาล



กรงเทพฯ-นายศานนท์ หวังสร้างบุญ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดถึงมาตรการเตรียมพร้อมรับมือคุณภาพอากาศในสถานศึกษา สังกัด กทม.  ว่า ได้กำชับให้โรงเรียนสังกัดกทม.ดำเนินการตามแนวทางการแก้ไขปัญหาฝุ่น PM2.5 ในโรงเรียนสังกัด กทม.ภายใต้แผนปฏิบัติการแก้ไขปัญหาฝุ่น PM2.5 ในพื้นที่กรุงเทพฯ ปี 2567 โดยให้ติดตามข้อมูลคุณภาพอากาศทางเว็บไซต์ www.airbkk.com หรือแอปพลิเคชัน AirBKK ในช่วงเวลา 07.00 น. 11.00 น. และ 15.00 น. และในช่วงที่นักเรียนต้องทำกิจกรรมกลางแจ้ง โดยแจ้งเตือนผ่านกิจกรรมธงคุณภาพอากาศในโรงเรียน ได้แก่ ค่าฝุ่น PM2.5 ระหว่าง 0-15.0 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม.) ติดตั้งธงสีฟ้า ค่าฝุ่น PM2.5 ระหว่าง 15.1-25.0 มคก./ลบ.ม. ติดตั้งธงสีเขียว ค่าฝุ่น PM2.5 ระหว่าง 25.1-37.5 มคก./ลบ.ม. ติดตั้งธงสีเหลือง ค่าฝุ่น PM2.5 ระหว่าง 37.6-75.0 มคก./ลบ.ม. ติดตั้งธงสีส้ม และค่าฝุ่น PM2.5 ตั้งแต่ 75.1 มคก./ลบ.ม.ขึ้นไป ติดตั้งธงสีแดง โดยช่วงเช้าวันนี้ (12 ธ.ค.66) เวลา 10.00 น. ตรวจวัดค่าฝุ่นละออง PM2.5 เฉลี่ยที่ 50 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร (ระดับธงส้ม)

กรณี ฝุ่นมีค่าตั้งแต่ 37.6 มคก./ลบ. และสถานการณ์ฝุ่นละอองยังไม่ลดลงและเมื่อคาดการณ์แล้วพบว่ามีแนวโน้มสูงขึ้น ส่งผลกระทบต่อนักเรียน ให้ใช้ดุลพินิจปิดการเรียนการสอนดังนี้ ค่าระหว่าง 37.6 – 75 มคก./ลบ.ม.  ให้ผู้อำนวยการสถานศึกษา สั่งปิดได้ครั้งละไม่เกิน 3 วัน ผู้อำนวยการเขต ครั้งละไม่เกิน 7 วัน  ค่ามากกว่า 75 มคก./ลบ. สถานการณ์ฝุ่นละอองยังไม่ลดลง และเมื่อคาดการณ์แล้วพบว่ามีแนวโน้มสูงขึ้นต่อเนื่องติดต่อกัน 3 วัน ให้ผู้อำนวยการสำนักการศึกษา ใช้ดุลพินิจปิดการเรียนการสอนตามอำนาจ ครั้งละไม่เกิน 15 วัน เมื่อฝุ่นละออง PM2.5  มากกว่า 75 มคก./ลบ. เกิน2-5เขต สถานการณ์ฝุ่นละอองยังไม่ลดลง และเมื่อคาดการณ์แล้วพบว่ามีแนวโน้มสูงขึ้นต่อเนื่องติดต่อกัน 3 วัน นอกจากนี้ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร สามารถใช้ดุลพินิจปิดการเรียนการสอนตามอำนาจไม่จำกัดเวลา

สำหรับความคืบหน้าการดำเนินโครงการปรับปรุงห้องเรียนปลอดฝุ่นชั้นอนุบาล สำนักงานเขตอยู่ระหว่างการพิจารณาดำเนินการ ดังนี้ การปรับปรุงกาพภาพของห้องเรียน   โดยใช้งบประมาณซ่อมบำรุง 500,000 บาท/โรงเรียนในการดำเนินการปรับปรุงสภาพ และขอจัดสรรงบประมาณปรับปรุงสภาพกาพภาพของห้อง ให้เป็นระบบปิดโดยการกรุช่องเปิด  การจัดหาระบบปรับอากาศภายในห้อง จะดำเนินการโดยกระบวนการประสานความร่วมมือ (Public Private Partnership)หรือ CSR (Corporate Social Responsibility) นำเครื่องปรับอากาศส่วนที่มีความจำเป็นน้อยมาใช้ในห้องปลอดฝุ่น และขอจัดสรรงบประมาณของกรุงเทพมหานคร และการจัดหาเครื่องฟอกอากาศแบบเคลื่อนย้ายได้ จำนวน 1,743 เครื่อง สำนักการศึกษาได้รับประมาณปี 2567 ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างสรรหาผู้รับจ้าง (e-biding)

• ภาครัฐ เอกชน กว่า 5 หมื่นคน ร่วมเป็นเครือข่าย Work From Home ลดปริมาณลดบนท้องถนน

นายพรพรหม ณ.ส. วิกิตเศรษฐ์ ที่ปรึกษาของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และผู้บริหารด้านความยั่งยืนของกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า กรุงเทพมหานคร ได้ขอความร่วมมือกับภาคีเครือข่ายทั้งภาครัฐและเอกชน ร่วมเป็นเครือข่าย Work From Home เพื่อลดฝุ่น PM2.5 ในช่วงที่มีการคาดการณ์พยากรณ์ว่าค่าฝุ่นสูง เพื่อช่วยลดจำนวนยานพาหนะบนท้องถนน ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของการเกิดฝุ่นละอองในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ปัจจุบันมีเครือข่ายทั้งภาครัฐ เอกชน ลงทะเบียนแล้ว 133  แห่ง และสนใจเข้าร่วม 114 แห่ง รวมจำนวนพนักงาน 5 หมื่น คน หากหน่วยงานหรือองค์กรประสงค์เข้าร่วม Work From Home ลดฝุ่น PM 2.5 สามารถลงทะเบียนได้ในลิงค์ https://me-qr.com/LM6Q8Jhs


• กทม.ส่งเสริมมาตรการเชิงรุกลดปัญหาฝุ่นละออง และเชิญชวนประชาชนตรวจสอบคุณภาพอากาศก่อนออกจากบ้าน

นายเอกวรัญญู อัมระปาล ผู้ช่วยเลขานุการผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และโฆษกของกรุงเทพมหานคร เปิดเผยถึงความคืบหน้าการตรวจแหล่งกำเนิดฝุ่น PM 2.5 ของกรุงเทพมหานคร สะสมตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.65 – 11 ธ.ค. 66 โดยตรวจ 2 ครั้ง/เดือน ว่า จากการตรวจสถานประกอบการ/โรงงาน 350 แห่ง พบว่าไม่ผ่าน จำนวน 8 แห่ง แพลนท์ปูน 119  แห่ง ไม่ผ่าน จำนวน 17 แห่ง สถานที่ก่อสร้าง 219 ไม่ผ่าน จำนวน 33 แห่ง และสถานที่ก่อสร้างที่อยู่ในความดูแลของสำนักการโยธา กทม. 306 แห่ง ไม่ผ่าน จำนวน 1 แห่ง นอกจากนี้ยังได้ตรวจสถานที่ถมดิน/ท่าทราย 23 แห่ง จำนวน 271 ครั้ง ซึ่งผ่านครบทุกแห่ง 

ในส่วนการตรวจยานพาหนะควันดำของสำนักงานเขต จำนวน 2,890 คัน สั่งให้ปรับปรุงแก้ไข 18 คัน การตรวจรถยนต์ปล่อยควันดำ โดยความร่วมมือระหว่างกองบังคับการตำรวจจราจร (บก.จร.)   กรมควบคุมมลพิษ (คพ.)  กรมการขนส่งทางบก(ขบ.) และกรุงเทพมหานคร จำนวน 142,448 คัน สั่งห้ามใช้ 2,221 คัน การตรวจรถโดยสารประจำทาง/ไม่ประจำทาง โดยขบ. จำนวน 37,497 คัน สั่งห้ามใช้ 117 คัน และการตรวจรถบรรทุก โดยขบ. จำนวน 94,731 คัน สั่งห้ามใช้ 537 คัน 

นายเอกวรัญญู กล่าวเพิ่มเติมถึงมาตรการเชิงรุกเพื่อรับมือและแก้ไขปัญหาฝุ่นละออง PM2.5 ของกรุงเทพมหานครในปี 2567 ว่า มาตรการดังกล่าวประกอบด้วย การเฝ้าระวัง แจ้งเตือนฝุ่น การควบคุมแหล่งกำเนิด และการป้องกันดูแลสุขภาพประชาชน รวมทั้งมีการรณรงค์ส่งเสริมให้ประชาชนหันมาเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะ การเดินทางทางที่ไม่ใช้เครื่องยนต์ พัฒนาทางเท้า ส่งเสริมการเดินทางด้วยจักรยาน การให้บริการ Feeder ไปสู่ระบบขนส่งสาธารณะ หรือส่งเสริมการใช้ยานพาหนะที่ใช้พลังงานสะอาดและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม การบำรุงรักษาเครื่องยนต์เพื่อลดมลพิษเพื่อการมีส่วนร่วมลดปัญหาฝุ่นละอองและมลพิษทางอากาศอย่างยั่งยืน อย่างไรก็ดี ประชาชนสามารถตรวจสอบสถานการณ์ฝุ่นละอองก่อนออกจากบ้าน ผ่านทางช่องทาง ดังนี้ แอปพลิเคชัน AirBKK  www.airbkk.com  FB: สำนักสิ่งแวดล้อม กรุงเทพมหานคร FB: กองจัดการคุณภาพอากาศและเสียง สำนักสิ่งแวดล้อม FB: กรุงเทพมหานคร LINE ALERT และ LINE OA @airbangkok