Travel Sport & Soft Power

งานChiang Mai Design Week 2023 กับบทพิสูจน์ต่อยอดสู่เมืองสร้างสรรค์โลก



เชียงใหม่-ในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมาในหลากหลายประเทศทั่วโลกต่างประสบปัญหาของภาวะเศรษฐกิจซบเซา การตระหนักถึงต้นทุนทรัพยากรทางธรรมชาติและแรงงานต้นทุนต่ำที่เริ่มจะขาดแคลนจากการพัฒนาและเปลี่ยนแปลงในโลกยุคปัจจุบัน เพื่อสร้างความได้เปรียบในเวทีการค้าโลกทำให้หลาย ๆ ประเทศที่พัฒนาแล้วปรับโมเดลการพัฒนาเศรษฐกิจโดยใช้เศรษฐกิจเชิงความคิดสร้างสรรค์หรือระบบเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (Creative Economy) มาประยุกต์ใช้ที่มุ่งเน้นการขับเคลื่อนเศรษฐกิจโดยใช้ต้นทุนจากองค์ความรู้เดิมร่วมกับความคิดสร้างสรรค์และการพัฒนาทางด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาต่อยอดและเพิ่มคุณค่าให้กับสินค้าและบริการเดิมที่มีอยู่นำไปสู่การสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจได้อย่างมหาศาล

สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การมหาชน) หรือ CEA เป็นหน่วยงานหลักที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจสร้างสรรค์ในประเทศไทยครอบคลุมทั้ง 4 ภูมิภาคได้แก่กรุงเทพฯเชียงใหม่ขอนแก่นและสงขลาผ่านการสนับสนุนระบบนิเวศสร้างสรรค์ทั้งบุคลากรธุรกิจและด้านพื้นที่ควบคู่ไปกับการพัฒนาอุตสาหกรรมสร้างสรรค์เพื่อให้เกิดการพัฒนาที่เป็นรูปธรรมผ่านโครงการต่าง ๆ โดยหนึ่งในเทศกาลฯประจำปีของ CEA ได้แก่เทศกาลงานออกแบบสร้างสรรค์ (CEA’s Design Festivals) 

โดยเทศกาลฯล่าสุดกับ “เทศกาลออกแบบเชียงใหม่ 2566” หรือ “Chiang Mai Design Week 2023” ครั้งที่ 9  ได้ปิดฉากไปอย่างสวยงามเมื่อวันที่ 10 ธันวาคม 2566 ที่ผ่านมาโดยตลอดการจัดงานทั้ง 9 วันถือว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากตามแนวคิดเศรษฐกิจสร้างสรรค์ที่ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจเชียงใหม่ซึ่งจัดกิจกรรมทั้งหมดกว่า 238 โปรแกรมโดยนักออกแบบช่างฝีมือศิลปินนักดนตรีและนักสร้างสรรค์หลากหลายสาขากว่า 100 คนมีผู้เข้าร่วมเทศกาลฯกว่า 181,553 คนสามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจไม่น้อยกว่า 294 ล้านบาทนอกจากนี้การจัดงานที่กระจายพื้นที่จัดทั้ง 77 จุดจัดแสดงยังทำให้ผู้เข้าร่วมงานทั้งชาวไทยและต่างประเทศได้สัมผัสประสบการณ์ใหม่ ๆ ของเมืองเชียงใหม่จุดประกายไอเดียสร้างสรรค์และสร้างโอกาสใหม่ ๆ ทางธุรกิจให้กับพื้นที่นั้น ๆ ผ่านการใช้สินทรัพย์ของเมืองให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดด้วยการต่อยอดสินทรัพย์และผลผลิตทางวัฒนธรรมเดิมที่มีมาอย่างยาวนานและเริ่มที่จะสูญหายมาสร้างให้เกิดมูลค่าทางความคิดสร้างสรรค์ (Value Creation) ผนวกกับงานออกแบบที่ร่วมสมัยของนักออกแบบรุ่นใหม่ที่ร่วมกับช่างฝีมือ/ศิลปิน และสล่าในท้องถิ่นนำเสนอดีเอ็นเอของเชียงใหม่ได้อย่างร่วมสมัยแต่ยังคงไว้ซึ่งอัตลักษณ์ของท้องถิ่นที่สวยงามทั้งอาหารท้องถิ่น (Local Food) งานฝีมือหัตถกรรมต่าง ๆ (Craft) งานออกแบบ (Design) และดนตรี (Music) ตามแนวคิด ‘Transforming Local: ปรับตัวต่อยอดท้องถิ่นเติบโต’ ในปีนี้กระตุ้นรายได้การท่องเที่ยวสู่การเป็นทรัพยากร Soft Power ของประเทศไทยพร้อมดึงดูดคนสร้างสรรค์จากทั่วโลกเข้ามาเยี่ยมชมจังหวัดเชียงใหม่

“Chiangmai Design Week” สร้าง ‘Springboard’ กระตุ้นเศรษฐกิจสร้างสรรค์ในภูมิภาคเหนือ

ดร. ชาคริตพิชญางกูลผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (CEA) กล่าวว่าตลอดระยะเวลา 8 ปีที่ผ่านมา‘เทศกาลงานออกแบบเชียงใหม่’ (Chiang Mai Design Week) สามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นระหว่างเทศกาลฯรวมเป็นจำนวนสูงถึง 3,352 ล้านบาทโดยเทศกาลงานออกแบบเชียงใหม่นำเสนอความเป็นไปได้ใหม่ ๆ และศักยภาพของนัก

สร้างสรรค์ผู้ประกอบการหน่วยงานจากภาครัฐและภาคเอกชนสถาบันการศึกษาไปจนถึงหน่วยงานความร่วมมือต่างๆทั้งจากในประเทศและต่างประเทศส่งเสริมการเป็นเมืองที่ชูมรดกทางด้านศิลปวัฒนธรรมของภาคเหนือที่ได้รับการยอมรับเป็นเมืองสร้างสรรค์ในสาขาหัตถกรรมและศิลปะพื้นบ้าน (Crafts and Folk Art) ของเครือข่ายเมืองสร้างสรรค์ยูเนสโก (UNESCO Creative Cities Network: UCCN)

“เทศกาลฯในปี 2023 นี้จะเป็นอีกหนึ่งฟันเฟืองสำคัญที่ช่วยให้เกิดการสร้างงานการสร้างธุรกิจใหม่การสร้างสรรค์การออกแบบที่ทันสมัยต่อยอดการค้าการลงทุนและขับเคลื่อนเศรษฐกิจของจังหวัดเชียงใหม่รวมถึงในท้องถิ่นด้วยการใช้มูลค่าทางความคิดสร้างสรรค์โดยสามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจไม่น้อยกว่า 294 ล้านบาทและมีผู้เข้าชมเทศกาลฯกว่า 181,553 คน”

Chiang Mai Design Week 2023” ต่อยอดงานออกแบบที่ร่วมสมัยจากภูมิปัญญาท้องถิ่นสร้างสรรค์คุณภาพชีวิตชุมชน

 

เทศกาลฯจัดอยู่ใน 2 พื้นที่หลักเริ่มตั้งแต่ย่าน ‘กลางเวียง’ ที่ต้อนรับด้วยการเชื่อมโยงประวัติศาสตร์และศิลปวัฒนธรรมสู่วิถีแห่งความร่วมสมัย ไม่ว่าจะเป็นการจัดแสดงผลงานหัตถกรรมร่วมสมัย (Design Showcases) เวิร์กช็อปงานภูมิปัญญาพื้นบ้านสู่ตลาดหัตถกรรมของผู้ประกอบการธุรกิจสร้างสรรค์ (Pop Market) การแสดงดนตรีของศิลปินท้องถิ่นหรือดนตรีเชียงใหม่เปิดหมวก (Chiang Mai Busking) ที่กระจายตัวบรรเลงเสียงเพราะ ๆ ไปจนถึงหลากหลายผลงานออกแบบแสงสว่าง (Interactive Lighting) อันตื่นตาตื่นใจให้ผู้คนแวะเวียนมาชมกันอย่างเพลิดเพลิน

ส่วนย่าน ‘ช้างม่อย-ท่าแพ’ ถูกเติมเต็มความสนุกปลุกพลังสร้างสรรค์ด้วยโปรเจ็กต์ทดลองความเป็นไปได้ใหม่ในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้อยู่อาศัยในย่านสร้างสรรค์ กับกิจกรรมพิเศษที่เหล่าผู้ประกอบการธุรกิจดั้งเดิม ธุรกิจสร้างสรรค์และนักสร้างสรรค์ประจำย่านรังสรรค์มาให้สนุกสนานกันแค่ปีละครั้ง นอกจากนี้ยังมีโปรแกรมนำเสนอศักยภาพอุตสาหกรรมอีกหลายหลาก

ครอบคลุมอุตสาหกรรมอาหารงานหัตถกรรมงานออกแบบงานดนตรีและศิลปะให้ทุกคนร่วมกันมองหาโอกาสใหม่ (New Opportunities) ในการพัฒนาระบบนิเวศน์สร้างสรรค์เพื่อส่งเสริมอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ที่ก้าวหน้าขึ้นกว่าเดิมโดยกิจกรรมไฮไลต์ที่ยังจัดอยู่คือนิทรรศการ                      ‘หัตถกรรมร่วมรุ่น’ (Everyday Contem) นิทรรศการที่พยายามค้นหาทางเลือกในการฟื้นชีวิตชีวาแก่หัตถกรรมของช่างฝีมือในเชียงใหม่และภาคเหนือ ให้มีความร่วมสมัยและสอดรับไปกับวิถีชีวิตของผู้คน จากการพาไปสำรวจแนวคิดจากประเทศต้นแบบที่ประสบความสำเร็จในการนำศิลปะและวัฒนธรรมดั้งเดิม มาพัฒนาสู่อุตสาหกรรมสร้างสรรค์อันล้ำสมัยอย่างญี่ปุ่นไม่ว่าจะเป็นการสร้างนิยามใหม่ให้กับศิลปหัตถกรรมพื้นบ้าน “มิงเก” (Mingei) หรือการเปรียบเทียบข้าวของเครื่องใช้ในยุคโชวะอย่าง “มิงกู” (Mingu) กับผลิตภัณฑ์จากแบรนด์สินค้าที่ครองใจคนทั้งโลกในปัจจุบันอย่าง “มูจิ” (Muji) ควบคู่ไปกับการจัดแสดงผลงานและแนวคิดเบื้องหลังการ

สร้างสรรค์แบบคนญี่ปุ่นโดยนิทรรศการนี้จัดถึงวันที่ 31 มีนาคม 2567 ที่ TCDC เชียงใหม่

“Chiang Mai Design Week 2023” ยังมีเป้าหมายจะเป็นสะพานเชื่อมผู้คนต่างวัยเข้าหากันดึงคนรุ่นใหม่กลับบ้านมาร่วมพัฒนาบ้านเกิดของตนเองต่อยอดภูมิปัญญาท้องถิ่นให้เติบโตอย่างสร้างสรรค์และตัวเทศกาลฯไม่ได้เป็นเพียงหนึ่งในเครื่องมือขับเคลื่อนเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (Creative Economy) เท่านั้นแต่ยังเป็นเครื่องมือที่ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คนในภาคเหนือส่งเสริมให้เมือง ‘น่าอยู่น่าลงทุนและน่าท่องเที่ยว’ นำไปสู่การเชื่อมโยงถึงกันเป็นเครือข่ายความร่วมมือสู่การขับเคลื่อน ‘เมืองสร้างสรรค์’ จังหวัดเชียงใหม่เพื่อเชิดหน้าชูตาในเวทีโลกต่อไป

 

แล้วมาร่วมเฉลิมฉลองด้วยกันอีกในปีหน้ากับ“เทศกาลออกแบบเชียงใหม่ 2567” หรือ“Chiang Mai Design Week 2024” ระหว่างวันที่ 7 - 15 ธันวาคม 2567 ในวาระครบรอบ 10 ปีของเทศกาลฯกับการเฉลิมฉลองพลังสร้างสรรค์จากท้องถิ่นอย่างยิ่งใหญ่ไปพร้อมกัน