In News

ปธ.'หัวเว่ย'ถก'รองฯพีระพันธุ์'สนใจลงทุน ระบบโซลาร์เซลล์ในครัวเรือนของไทย



กรุงเทพฯ-​รองนายกฯ พีระพันธุ์ หารือ Huawei ร่วมขับเคลื่อนการพัฒนาพลังงานสีเขียว พร้อมเชิญชวนลงทุนในไทยเพื่อเพิ่มศักยภาพให้ไทยพร้อมแข่งขันในด้านพลังงานอย่างยั่งย

วันนี้ (วันพฤหัสบดีที่ 14 ธันวาคม 2566) เวลา 13.30 น. ณ ห้องสีเหลือง ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล นายเดวิด หลี่ (Mr. David Li) ประธานกรรมการบริหาร บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี (ประเทศไทย) เข้าเยี่ยมคารวะ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน สรุปสาระสำคัญของการหารือ ดังนี้ 

รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานกล่าวต้อนรับประธานกรรมการบริหาร บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี (ประเทศไทย) พร้อมกล่าวถึงการเดินทางเยือนจีน และมีโอกาสเยี่ยมชมกิจการพลังงานของจีนที่มีความก้าวหน้ามาก และได้รับความร่วมมืออย่างดีจากเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทยมาโดยตลอด พร้อมกล่าวว่า ในฐานะที่รองนายกฯ กำกับดูแลกระทรวงพลังงาน และกระทรวงอุตสาหกรรม พร้อมอำนวยความสะดวก เพื่อให้การดำเนินธุรกิจและการลงทุนของภาคเอกชนไปเป็นอย่างราบรื่น

ด้านประธานหัวเว่ยกล่าวขอบคุณ รองนายกฯ ที่ให้เข้าพบในวันนี้ พร้อมแสดงความยินดีกับการดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน โดยหัวเว่ยมีแนวทาง Grow in Thailand Contribute in Thailand ซึ่งบริษัทได้รับการสนับสนุนจากไทยอย่างดีเสมอมา และหวังที่จะได้รับการสนับสนุนต่อไป

โอกาสนี้ ทั้งสองฝ่ายได้หารือเกี่ยวกับประเด็นความร่วมมือที่สำคัญ ดังนี้

รองนายกฯ กล่าวว่า รัฐบาลหวังที่จะให้ประชาชนเข้าถึงและติดตั้งระบบโซลาร์เซลล์ในครัวเรือนในราคาที่เหมาะสม โดยตระหนักถึงอุปสรรค และกำลังเร่งพิจารณาหาแนวทางที่เหมาะสมเพื่อสนับสนุนให้เกิดการเข้าถึงระบบโซลาร์เซลล์ในครัวเรือนได้มากขึ้น พร้อมทั้งได้เชิญชวนหัวเว่ยร่วมลงทุนในไทย เพื่อสร้างโรงงานผลิตระบบโซลาร์เซลล์ในครัวเรือน อันจะช่วยให้เกิดประโยชน์กับทั้งสองฝ่าย ทั้งการลดต้นทุนและลดค่าใช้จ่ายให้กับประชาชนด้วย ด้านบริษัทหัวเว่ย กล่าวว่า ทางบริษัทมีความสนใจและกำลังพิจารณาแนวทาง และมองว่าหากรัฐบาลมีนโยบายที่เอื้อต่อการใช้ประโยชน์ พร้อมมีมาตรการกระตุ้นและช่วยเหลือ ก็จะส่งผลกับความต้องการใช้ของประชาชนมากขึ้น เพื่อสนับสนุนและลดค่าใช้จ่ายในการเข้าถึงโซลาร์เซลล์ของประชาชนชาวไทย

ด้านการพัฒนาบุคลากรคุณภาพ รองนายกฯ กล่าวว่า ไทยให้ความสำคัญกับการพัฒนาบุคลากรของประเทศให้พร้อมต่อการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน จึงพร้อมสนับสนุนหัวเว่ยในการเข้ามามีบทบาท เพื่อร่วมพัฒนาบุคลากรอย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล ด้านบริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี (ประเทศไทย) กล่าวขอบคุณกระทรวงแรงงานที่ได้ให้ความร่วมมือในการพัฒนาบุคลากรให้มีความรู้ความสามารถที่เหมาะสม และเน้นย้ำว่าหัวเว่ยให้ความสำคัญกับการพัฒนาบุคลากรเป็นอย่างมาก จึงพร้อมสานต่อโครงการที่ได้ทำร่วมกับกระทรวงแรงงาน และพร้อมที่จะขยายโครงการเพื่อร่วมพัฒนาบุคคลากรกับกระทรวงพลังงานเพิ่มเติม รวมถึงพร้อมแบ่งปันประสบการณ์และความเชี่ยวชาญจากโครงการที่ประสบความสำเร็จที่ผ่านมา เช่น ในประเทศจีน เพื่อร่วมวางแผนนโยบายด้านพลังงานให้กับไทย 

ทั้งนี้ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ยังได้ตอบรับการเชิญชวนจากบริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี (ประเทศไทย) เพื่อไปเยี่ยมชมการผลิตระบบโซลาร์เซลล์ในครัวเรือน และศูนย์นวัตกรรมและการเรียนรู้ของหัวเว่ยที่ครอบคลุมถึงนวัตกรรมโรงงานอุตสาหกรรมและนวัตกรรมที่เกี่ยวกับพลังงานสีเขียวด้วย