In Bangkok

กทม.ร่วมรื้อเสาไฟฟ้าต้นสุดท้ายเนรมิต พหลโยธินถนนสวยไร้เสาสาย



กรุงเทพฯ-(15 ธ.ค.66) เวลา 10.30 น. : นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ร่วมกิจกรรม "เนรมิตรพหลโยธิน ถนนสวยไร้เสาสาย" โดยมี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานกิจกรรม พร้อมด้วย  นายวิศณุ ทรัพย์สมพล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นายวิลาศ เฉลยสัตย์ ผู้ว่าการการไฟฟ้านครหลวง(MEA) ผู้บริหารกรุงเทพมหานคร ผู้บริหารสำนักการโยธา ผู้บริหารเขตจตุจักร ผู้บริหารกระทรวงมหาดไทย ผู้บริหารการไฟฟ้านครหลวง ผู้แทนบริษัทโทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ NT ผู้แทนสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (สำนักงาน กสทช.) และผู้แทนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.) ณ ลานจ๊อดแฟร์ (แดนเนรมิต) ถนนพหลโยธิน เขตจตุจักร

สำหรับกิจกรรม "เนรมิตพหลโยธิน ถนนสวยไร้เสาสาย" เป็นส่วนหนึ่งของโครงการเปลี่ยนระบบสายไฟฟ้าอากาศเป็นสายไฟฟ้าใต้ดิน ภายใต้นโยบาย 10 ด้านของกระทรวงมหาดไทย คือ ด้านการอำนวยความสะดวกและดูแลความปลอดภัย ซึ่งในครั้งนี้ MEA ได้ดำเนินการรื้อถอนเสาไฟฟ้าพื้นที่ถนนพหลโยธินเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่แยกถนนงามวงศ์วาน ถึงห้าแยกลาดพร้าว ระยะทางรวม 3.5 กิโลเมตร เพื่อเตรียมรองรับความต้องการใช้กระแสไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นและเสริมสร้างภูมิทัศนให้สวยงามยิ่งขึ้น โดยที่ผ่านมา MEA ได้ดำเนินโครงการสายไฟฟ้าใต้ดินในพื้นที่ถนนพหลโยธินสำเร็จแล้วเป็นระยะทางประมาณ 6 กิโลเมตร (ตั้งแต่บริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ถึง ห้าแยกลาดพร้าว) 

ด้านแผนงานภาพรวมโครงการเปลี่ยนสายไฟฟ้าอากาศเป็นสายไฟฟ้าใต้ดินของ MEA ในปัจจุบัน มีระยะทางดำเนินโครงการทั้งสิ้น 313.5 กิโลมตร มีเป้าหมายก่อสร้างให้แล้วเสร็จภายในปี 2572 โดยขณะนี้สามารถดำเนินการได้แล้วเสร็จรวม 62 กิโลเมตร ครอบคลุมฟื้นที่สำคัญในถนนต่าง ๆ เช่น ถนนสีลม ถนนสุขุมวิท ถนนพหลโยธิน ถนนพญาไท ถนนพระราม 1 ถนนราชดำริ ถนนราชวิถี ถนนราชปรารภ ถนนศรีอยุธยา ถนนสวรรคโลก ถนนสาธุประดิษฐ์ และถนนสว่างอารมณ์ เป็นต้น
ขณะเดียวกันมีโครงการที่อยู่ระหว่างดำเนินการ 251.5 กิโลเมตร เช่น โครงการพระราม 3 โครงการรัชดาภิเษก และโครงการก่อสร้างตามแนวรถไฟฟ้าสายสีต่าง ( โดย MEA คาดว่า ภายในสิ้นปี 2566 จะมีระยะทางที่ดำเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จเพิ่มขึ้นอีก 29.2 กิโลเมตร ทำให้มีระยะทางสายใต้ดินสะสมรวมทั้งสิ้น 91.2 กิโลเมตร

นอกจากนี้ MEA ได้นำเสาไฟฟ้าที่รื้อถอนไปใช้ในโครงการปรับปรุงและพัฒนาแหล่งเรียนรู้ระบบนิเวศป่าชายเลนและการทำแนวป้องกันการกัดเซาะชายฝั่ง MEA's Model อย่างต่อเนื่อง ณ ป้อมพระจุลจอมเกล้า ฐานทัพเรือกรุงเทพ จ.สมุทรปราการ และบริเวณชายฝั่งทะเลกรุงเทพฯ เขตบางขุนเทียน ช่วยเพิ่มการสะสมของตะกอนหลังเขื่อน ส่งผลให้ต้นกล้าและลูกไม้ ประเภทไม้โกงกาง รวมถึง พรรณไม้น้ำต่างๆ ที่อยู่หลังแนวป้องกันมีปริมาณหนาแน่นขึ้น และช่วยให้สัตว์น้ำนานาพันธุ์และนกนานาชนิดมีแนวโน้มการอยู่รอดเพิ่มขึ้น