Travel Sport & Soft Power

ชาวบ้านฮือฮาอุโบสถปั้นดินเผาสร้าง10ปี ใช้งบ14ล้านเงาวับสวยงามสะดุดตา



ศรีสะเกษ-ชาวบ้านฮือฮา อุโบสถปั้นดินเผา สร้าง 10 ปี ใช้งบ 14 ล้าน เงาวับสวยงามสะดุดตา ด้วยแรงศรัทธาสาธุชน

เมื่อวันที่ 17 ธ.ค. 2566 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่วัดยางกุด ต.หมากเขียบ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ หลังได้รับแจ้งว่าที่วัดแห่งนี้ มีการก่อสร้างอุโบสถด้วยดินเผาทั้งหลัง เมื่อไปถึงได้พบกับ พระครูสุภัทรกิจวิธาน เจ้าอาวาสวัดยางกุด พาเดินเยี่ยมชมโดยรอบของพระอุโบสถ ซึ่งมีลักษณะการก่อสร้างและประดับตกแต่งด้วยดินเผาทั้งหมด เริ่มจากฐานพระอุโบสถ ราวบันได ซุ้มประตู หน้าต่าง เสา หลังคาและยอดอุโบสถ ล้วนแล้วแต่เป็นดินเผาทั้งสิ้น เปล่งประกายเงาแวววาว สวยงาม และโดดเด่นเป็นอย่างมาก 

พระครูสุภัทรกิจวิธาน เจ้าอาวาสวัดยางกุด กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ที่วัดมีอุโบสถหลังเก่า เป็นหลังเล็กๆ เวลาทำสังฆกรรม พระสงฆ์เข้าได้ไม่เยอะ แออัด และจะไม่ครบสงฆ์ จึงมีแนวคิดอยากสร้างอุโบสถหลังใหม่ เพื่อให้ลูกหลานและพุทธศาสนิกชนรุ่นหลังได้สืบทอดใช้สอยในอนาคต  โดยต้นแบบไปเห็นในหนังสือขณะไปประชุมคณะสงฆ์ภาค 10 ที่ จ.อุบลราชธานี เห็นรูปแบบการใช้ดินเผาสร้างแล้วสะดุดตา จึงได้นำเรื่องมาประชุมหารือร่วมกับคณะกรรมการวัดและชาวบ้าน และมีมติเห็นสมควรสร้างอุโบสถหลังใหม่ขึ้น เมื่อปี 2554 โดยได้รับแรงศรัทธาจากญาติโยมในการร่วมกันบริจาคคนละเล็กคนละน้อยเรื่อยมา จนถึงวันนี้ รวมระยะเวลาก่อสร้างแล้ว 10 ปี ใช้งบประมาณทั้งสิ้นกว่า 14 ล้านบาท ซึ่งถือว่าเป็นอุโบสถดินเผาหลังใหญ่สุดหลังแรกและหลังเดียวในเขตเมืองศรีสะเกษ 

สำหรับความพิเศษของอุโบสถดินเผานี้จะแตกต่างจากอุโบสถทั่วไป โดยปกติโบสถทั่วไปจะสร้างจากปูน ฉาบเป็นลวดลายต่างๆ และทาสีทับ แต่อุโบสถดินเผาจะไม่เหมือนใคร เพราะสร้างจากดินเผาทั้งหลัง เคลือบเงาด้วยสีธรรมชาติ ตั้งแต่ฐานอุโบสถ ไปจนถึงยอดอุโบสถ มีความสวยงามโดดเด่น เงางาม เห็นแล้วสะดุดตา และมีความเข้มขลังศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งสาเหตุที่นำดินเผามาสร้างอุโบสถ คือ อยากให้มีความแปลกใหม่ คงทน แข็งแรง และสวยงาม โดยไม่ต้องทาสี ทั้งนี้ภายในอุโบสถยังได้ประดิษฐานพระประธานปางพระพุทธชินราช ซึ่งได้เตรียมฉลองอุโบสถ ในวันที่ 28 ธ.ค. 2566 นี้ และจะมีพิธีตัดหวายลูกนิมิต ในวันที่ 1 ม.ค. 2567 นี้ด้วย จึงขอเชิญชวนพุทธศาสนิกชนและนักท่องเที่ยวทั่วไป เข้ามาร่วมทำบุญและเที่ยวชมอุโบสถหลังใหม่และสักการะพระประธานได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป. 

ทีมข่าว จ.ศรีสะเกษ รายงาน