In News
'สมศักดิ์'ประชุมกนช.สั่งวางแผนดักปัญหา หลังตอนบนหนาวแต่ภาคใต้ฝนตกหนัก
กรุงเทพฯ-“รองนายกฯสมศักดิ์” ประชุม กนช. สั่ง สทนช.เร่งสื่อสารสภาพอากาศให้เข้าใจง่าย ยอมรับ ต้องทำงานหนักทั้งปี หลังเหนือ-กลาง อากาศหนาว แต่ภาคใต้ ฝนตกหนัก-น้ำท่วม แนะ วางแผนดักปัญหาล่วงหน้า เร่ง ตั้งคณะอนุกรรมการฯศึกษาแก้ปัญหาตั้งแต่ต้นน้ำ
วันที่ 25 ธันวาคม 2566 นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (กนช.) โดยมี ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายสุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) นายปลอดประสพ สุรัสวดี ที่ปรึกษาประธาน กนช. นายวิชัย ไชยมงคล ที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี และคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ เข้าร่วม ที่ทำเนียบรัฐบาล
โดยนายสมศักดิ์ กล่าวว่า ช่วงนี้ประเทศไทย อากาศเปลี่ยนแปลง ทำให้ สทนช.ต้องทำงานอย่างหนักทั้งปี เพราะถึงแม้ภาคเหนือ ภาคกลาง จะมีอากาศหนาว แต่ภาคใต้ มีฝนตกลงมาอย่างหนัก ส่งผลให้หลายพื้นที่ได้รับความเสียหาย โดยตนขอเน้นย้ำให้ สทนช. เร่งสื่อสารเรื่องสภาพอากาศให้ประชาชนเข้าใจโดยง่าย เพื่อที่จะได้สามารถเตรียมการรับมือได้ทัน รวมถึงจากนี้ ตนก็ขอฝากให้ สทนช. ต้องคิดในการดักปัญหาล่วงหน้าด้วย เพราะบางประเทศ ได้เปลี่ยนแปลงนโยบาย จึงทำให้การแก้ปัญหาโลกร้อน สามารถบรรลุเป้าหมายได้ ดังนั้น การดักปัญหาล่วงหน้า ก็คือการแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ ซึ่งตนขอมอบให้กระทรวงเกษตรฯรับผิดชอบการแก้ปัญหาตั้งแต่ต้นน้ำ และขอตั้งอนุกรรมการฯเพื่อขับเคลื่อนศึกษาในเรื่องนี้
นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า คณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ยังได้พิจารณาแผนปฎิบัติการด้านทรัพยากรน้ำ ประจำปีงบประมาณ 2568 ทั้งกลุ่ม Y1 และ Y2 โดยได้พิจารณากลั่นกรองแล้ว เหลือจำนวน 57,393 รายการ วงเงิน 392,510 ล้านบาท ซึ่งคาดว่า จะช่วยเพิ่มความจุเก็บกัก 1,352 ล้าน ลบ.ม. พื้นที่ได้รับประโยชน์ 6.77 ล้านไร่ พื้นที่ได้รับการป้องกัน 5.71 ล้านไร่ และประชาชนได้รับประโยชน์ 4.92 ล้านครัวเรือน โดยที่ประชุม ได้เห็นชอบให้ กลุ่ม Y1 ขอรับการสนับสนุนงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2568 เป็นลำดับต้น เพื่อให้การขับเคลื่อนแผนแม่บทการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ 20 ปี เป็นไปตามเป้าหมาย ส่วนกลุ่ม Y2 เห็นควรใช้เป็นแผนงานโครงการสำรอง โดยให้หน่วยงานนำไปขอรับการสนับสนุนงบประมาณตามความเหมาะสม
“ส่วนการแก้ปัญหาน้ำประปา หลังหลายแห่งไม่สามารถใช้การได้นั้น ผมมองเห็นว่า การดูแลระบบน้ำประปา ควรถ่ายโอนให้กองทุนหมู่บ้านฯเป็นผู้ดูแล เนื่องจากเป็นหน่วยงานที่มีงบประมาณในการซ่อมบำรุงรักษา ซึ่งจะทำให้ประปาหมู่บ้าน สามารถใช้งานได้อย่างต่อเนื่อง เพราะที่ผ่านมา ระบบน้ำประปาขาดการซ่องบำรุงรักษา โดยผมเป็นประธานกรรมการกระจายอำนาจฯ ก็จะเข้าไปช่วยดูว่า สามารถทำได้หรือไม่ แต่ทั้งหมดเป็นหน่วยงานที่ผมกำกับดูแล ทั้ง สทนช. กองทุนหมู่บ้าน การกระจายอำนาจ ก็อยากให้มีการบูรณาการ เพื่อทำให้ปัญหาของพี่น้องประชาชน ได้รับการแก้ไขอย่างเร่งด่วน” รองนายกรัฐมนตรี กล่าว