In News
ครม.ได้อนุมัติร่างกฎกระทรวงขออนุญาต ผลิต-นำเข้า-ส่งออกยาเสพติดให้โทษ
กรุงเทพฯ-ครม.อนุมัติ ร่างกฎกระทรวงการขออนุญาตและการอนุญาตผลิต นำเข้า หรือส่งออกซึ่งยาเสพติดให้โทษในประเภท 2 หรือวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 2 พ.ศ. ....
วันที่ 26 ธันวาคม 2566 นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงการขออนุญาตและการอนุญาตผลิต นำเข้า หรือส่งออกซึ่งยาเสพติดให้โทษในประเภท 2 หรือวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 2 พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้รับความเห็นของสำนักงาน ก.พ.ร. และสำนักงานอัยการสูงสุดไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้ และให้กระทรวงสาธารณสุขรับความเห็นของสำนักงานอัยการสูงสุดไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
นายคารม กล่าวว่า สาระสำคัญของร่างฯ เป็นการกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการขออนุญาตและการอนุญาตผลิต นำเข้า หรือส่งออกซึ่งยาเสพติดให้โทษในประเภท 2 เช่น มอร์ฟีน โคคาอีน ฝิ่นยา หรือวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 2 เช่น คีตามีน (ยาในกลุ่มยาสลบ) ซูโดอีเฟดรีน (ยาในกลุ่มยาแก้คัดจมูก) โดยในการขออนุญาตผลิต นำเข้า หรือส่งออกตามร่างกฎกระทรวงได้กำหนดวัตถุประสงค์ในการดำเนินการเพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ของประเทศ การศึกษาวิจัยทางการแพทย์หรือวิทยาศาสตร์เพื่อการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด และเพื่อการผลิตเพื่อส่งออกหรือส่งออกตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขประกาศกำหนด ดังนั้น ผู้ขออนุญาตผลิต นำเข้าหรือส่งออกซึ่งยาเสพติดให้โทษในประเภท 2 หรือวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 2 จึงมีทั้งหน่วยงานของรัฐ อาทิ องค์การเภสัชกรรม มหาวิทยาลัย และบริษัทยาเอกชน ซึ่งได้รับอนุญาตผลิตหรือนำเข้าหรือสั่งเข้ามาในราชอาณาจักรซึ่งยาแผนปัจจุบัน ร่างกฎกระทรวงในเรื่องนี้ได้ปรับปรุงเนื้อหาจากกฎหมายปัจจุบัน เช่น ปรับปรุงคุณสมบัติผู้ขอรับอนุญาตโดยแยกตามวัตถุประสงค์ในการขออนุญาต ปรับปรุงการยื่นคำขอทางอิเล็กทรอนิกส์เป็นหลัก ปรับปรุงให้ผู้อนุญาตพิจารณาคำขอให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน (จากเดิม 45 วัน) กรณีไม่อนุญาตให้แจ้งผู้ยื่นคำขอทราบภายใน 15 วัน (จากเดิม 7 วัน) เพื่อให้การขออนุญาตและการอนุญาตผลิต นำเข้า หรือส่งออกซึ่งยาเสพติดให้โทษในประเภท 2 หรือวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 2 สามารถดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพอันเป็นประโยชน์ในการควบคุมกำกับดูแลผลิตภัณฑ์ยาเสพติดให้โทษในประเภท 2 หรือวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 2 ให้มีคุณภาพ และป้องกันการนำไปใช้ในทางที่ผิด รวมถึงส่งเสริมการประกอบกิจการของผู้ประกอบการซึ่งคณะกรรมการควบคุมยาเสพติดเห็นชอบด้วยแล้ว และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเห็นชอบในหลักการ