In Thailand

ธุรกิจเผาศพวุ่น!หลวงพี่น้ำฝนหาทางออก สวด3คืน5หมื่น/เงินไม่ถึงให้ลดวันสวด



นครปฐม-หลวงน้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม บอกปมเรื่องค่าใช้จ่ายงานศพรวม ครึ่งแสนแก้ไม่ยาก เพียงต้องคุยเปิดใจและสำรวจตัวเองทางโยมให้มองกำลังว่าควรจัดงานกี่วันหากไม่ไหวให้ลดวันลดรายจ่าย ส่วนวัด พระต้องเมตตากับโยม หากได้รับการขอความอนุเคราะห์ มีหน้าที่ต้องอนุเคราะห์ให้โยม อย่างน้อยก็สำนึกข้าวแดงแกงร้อนที่โยมใส่บาตร เขาร้อนมาเราต้องช่วยเหลือ และวัดไผ่ล้อมมีการบริหารจัดการชัดเจนของมาจัดให้ทุกราย 

วันนี้ 26 ธันวาคม 66 จากกรณีมีการโพสต์และแชร์ เรื่องค่าใช้จ่ายในการจัดพิธีงานศพ ของวัดในย่านสะพานพระราม 8 กรุงเทพฯ ซึ่งสรุปค่าใช้จ่าย 3 คืน รวมกว่าครึ่งแสน และมีการถามความเห็นดังกล่าวกับชาวโซเชียล จนเกิดเป็นประเด็นข่าวที่สื่อมวลชนให้ความสนใจ ก่อนที่รองเจ้าอาวาสวัดดังกล่าวจะออกมาโต้ข่าวและชี้แจงเรื่องค่าใช้จ่าย ซึ่งแจ้งว่าไม่มีการลดค่าใช้จ่ายและหากไม่สะดวกสามารถไปใช้บริการที่วัดอื่นได้ 

โดยจากกระแสดังกล่าว พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ (หลวงพี่น้ำฝน) เจ้าอาวาวัดไผ่ล้อม ต.พระปฐมเจดีย์ อ.เมือง จ.นครปฐม ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นว่าเรื่องดังกล่าวมาสามารถหาข้อยุติได้จากทั้ง 2 ฝ่าย ซึ่งจะต้องมีการทบทวนบทบาทของตัวเองและสามารถทำให้วัดกับชุมชนเข้ากันได้โดยไม่มีปัญหาบานปลายและสามารถแก้ไขปัญหี่เกิดขึ้นได้ทันที 

หลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม กล่าวว่า เรื่องนี้อันดับแรกการตอบโต้จากทางวัดก็ดูแล้ว เราเป็นพระสงฆ์ จะบอกแบบนั้นไม่ได้ เราเป็นวัดส่วนหนึ่งก็ต้องเอื้อเฟื้อกับญาติโยมอยู่แล้ว แต่อีกมุมหนึ่งทางโยมก็ต้องมองว่าเราควรจะจัดงานหลายวันนั้นจำเป็นจริงๆ หรือไม่หรือว่าเรามีแขกหรือญาติพี่น้องที่จะร่วมบุญกันกับเราหรือเปล่า และส่วนที่วัดจะเรียกเก็บค่าใช้จ่ายกับญาติโยม เบื้องต้นถ้าไม่ไหวก็ควรคุยกับวัดว่าสามารถลดค่าใช้จ่ายกับทางวัด 

ส่วนที่วัดไผ่ล้อม จะไม่มีการเรียกค่าศาลา ค่าน้ำมัน ค่าคนงานหรือค่าเสื่อมของเตาเผาศพ ก็เพิ่งจะทราบว่ามีการคิดค่าใช้จ่ายแบบนี้ ซึ่งทางวัดไผ่ล้อมจะมีใบขออนุเคราะห์ เพื่อให้กรอกลายละเอียดทางอาตมาเป็นเจ้าอาวาสก็เซ็นต์อนุมัติและจัดพิธีให้โยมฟรีก็รายก็ว่ากันไป 

หลวงพี่น้ำฝน กล่าวว่า ที่พบส่วนใหญ่ที่จะมาขอความอนุเคราะห์ คือญาติโยมที่ไม่มีจริงๆก็จะมาขอให้ทางวัดจัดพิธีให้คืนเดียวก็จัดพิธีการให้ครบและก็ทำการฌาปนกิจ ทางวัดไผ่ล้อมก็จะมีทุกอย่างจัดให้ครบทั้งหมดทั้งพระสงฆ์ เครื่องไทยธรรมซึ่งก็จะทำเพียงวันเดียวจบ เพราะเมื่อช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่ทางวัดไผ่ล้อมดำเนินการ ก็ยังดำเนินการได้ภายใน 3-4 ชม.แล้วเก็บอัฐิ กลับได้เลย ก็ทำมาแล้ว หรือญาติโยมที่ไม่มีญาติพี่น้องมากก็มาขอให้ดำเนินการเพียงวันเดียว ซึ่งอยู่ที่การบริหารจัดการของวัดนั้นๆว่าจะดำเนินการอย่างไร 

ส่วนประเด็นเรื่องของค่าใช้จ่ายคนงาน ที่วัดไผ่ล้อมไม่มีค่าเจ้าหน้าที่ เรียกร้องเจ้าหน้าที่เผาศพ เจ้าหน้าที่พิธีกร ก็มาด้วยจิตอาสา ใครจะให้พิเศษก็ว่ากันไป เพราะทางวัดเป็นคนจ่ายเงินเดือนให้เจ้าหน้าที่วัดอยู่แล้ว เป็นภาระของทางวัดไม่ได้มีการดำเนินการว่าเจ้าหน้าที่มาปฏิบัติงานเป็นรายศพแล้วมาเรียกร้องค่าใช้จ่ายกับญาติโยมคือไม่มีแน่อน 

หลวงพี่น้ำฝน กล่าวต่อว่า สำหรับการสร้างความเชื่อมั่นของวัดกับชุมชน คือขอฝากไว้ว่าพระสงฆ์ต้องมี ความเมตตา มุฑิตาและอุเบกขา ตามหลักธรรมสำสั่งสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า โดยเฉพาะคำว่ากิจของสงฆ์ งานด้านสาธารณสงเคราะห์ อยู่ในกฏของคณะสงฆ์  ซึ่งมีลำดับชั้นการปกครอง มีหลักการบริหารจัดการ เพื่อช่วยญาติโยมอยู่แล้ว อาตมาคิดอยู่เสมอว่า เราได้รับข้าวแดง แกงร้อน จากญาติโยมแล้วเมื่อโยมเดือดร้อนแล้ว ถ้าไม่ช่วยเหลืออาตมาก็ละอายแก่ใจตัวเอง ถึงแม้โยมจะไม่เคยมาใส่บาตรแต่มาขอความช่วยเหลือ ก็ต้องคิดว่าญาติโยมเหล่านั้นคือหมู่มวลมนุษย์ที่ควรจะต้องช่วยเหลือให้การอนุเคราะห์และสงเคราะห์ วัดไผ่ล้อมมีกรอบแบบแผน เช่นมีงานศพกี่ศพ มีการอนุเคราะห์กี่ศพ และทำรายงานตามการปกครองให้ทราบทั้งและต้องทำตามข้อกฏหมาย คือมีใบมรณะบัตร บัตรประชาชน ญาติโยม เราก็จัดให้หมด 

สุดท้ายญาติโยมเองถ้าไม่มีกำลังก็ไม่ควรจัดหลายวันแต่ถ้ามีญาติโยม หลายคนที่มีกำลังพอก็จัดได้ตามสมควร ซึ่งอำนาจเด็ดขาดอยู่ที่เจ้าอาวาส ไม่มีใครจะมีอำนาจเหนือกว่าได้ และเชื่อว่าไม่มีใครอยากตายก่อนเวลาอันควร อาตมาไม่ได้มีความสุขถ้าเห็นการตาย ไม่ใช่ว่ามองว่าจะมีรายได้เท่าไหร่ และพระก็ควรสงเคราะห์ญาติโยม ทางออกคือการพูดคุยกันให้ชัดเจนมองด้วยความเป็นจริงก็จะแก้ปัญหาได้ไม่ยาก