In News

ปลัดมท.สั่งการผู้ว่าฯทั่วประเทศเข้มงวด หากพบขรก.มหาดไทยดื่มแล้วขับจัดหนัก



กรุงเทพฯ-ปลัด มท. สั่งการผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ ดำเนินการตามนโยบาย มท.1 อย่างเข้มงวด หากพบข้าราชการในสังกัดกระทรวงมหาดไทย และเจ้าหน้าที่รัฐ ทั้งท้องถิ่น ท้องที่ ดื่มแล้วขับหรือยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด ให้ลงโทษสถานหนัก และดำเนินการตามมาตรฐานวินัยข้าราชการและกฎหมาย

วันนี้ (29 ธ.ค. 66) นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า ในช่วงระหว่างวันที่ 29 ธันวาคม 2566 - 1 มกราคม 2567 เป็นวันหยุดยาวเทศกาลปีใหม่ 2567 ซึ่งจะมีพี่น้องประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาและเดินทางไปยังสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ เป็นจำนวนมาก จึงอาจทำให้เกิดผลกระทบต่อการสัญจรของประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนน และอาจเกิดอุบัติเหตุ รวมทั้งมีการก่ออาชญากรรมหลากหลายรูปแบบในพื้นที่ต่าง ๆ ได้

นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า เพื่อเป็นการรักษาความสงบเรียบร้อยและป้องกันเหตุอันตรายที่อาจเกิดขึ้น กระทรวงมหาดไทยได้สั่งการไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดให้ดำเนินการตามนโยบายของนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย อย่างเข้มงวด โดยให้หัวหน้าส่วนราชการในสังกัดกระทรวงมหาดไทย รวมถึงกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เข้มงวดและตรวจสอบข้าราชการและเจ้าหน้าที่ในสังกัด หากพบว่ามีข้าราชการที่ดื่มแล้วขับ ขอให้ลงโทษสถานหนักอย่างเคร่งครัด ตามมาตรฐานการลงโทษทางวินัยตามกฎหมายว่าด้วยข้าราชการพลเรือน หรือกฎหมายว่าด้วยการบริหารงานบุคคลส่วนท้องถิ่น

นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากนี้ให้ทุกส่วนราชการ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นตรวจสอบข้าราชการ และสมาชิกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รวมถึง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน ว่ามีพฤติกรรมเสพยาเสพติดหรือยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดหรือไม่ หากพบว่ามีพฤติกรรมที่ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดให้ดำเนินการตามมาตรฐานการลงโทษทางวินัยตามกฎหมายว่าด้วยข้าราชการพลเรือน กฎหมายว่าการบริหารงานบุคคลส่วนท้องถิ่น กฎหมายจัดตั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กฎหมายว่าด้วยวินัยกองอาสารักษาดินแดน และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง

“นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย มอบนโยบายและเน้นย้ำแนวทางในการเสริมสร้างความสงบเรียบร้อยและความผาสุกให้เกิดขึ้นในสังคมไทย โดยต้องเริ่มจากการเสริมสร้างสมรรถนะของข้าราชการและบุคลากรในสังกัดให้เป็น “ผู้นำต้องทำก่อน” เพื่อทำให้ข้าราชการ พนักงาน เจ้าหน้าที่ของรัฐทุกประเภท และพี่น้องประชาชนในทุกพื้นที่ ได้มีความเชื่อมั่นและร่วมมือกันในการปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งการดื่มแล้วไม่ขับ ถ้าจะขับต้องไม่ดื่ม และการไม่ข้องเกี่ยวกับยาเสพติดทุกชนิด อันจะทำให้ประเทศไทยปลอดจากอาชญากรรม ประชาชนมีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินอย่างยั่งยืน” นายสุทธิพงษ์ฯ กล่าวในช่วงท้าย