In Bangkok
'จักกพันธุ์'ตรวจเยี่ยม6จุดบริการประชาชน ในพื้นที่ฝั่งพระนครช่วงเทศกาลปีใหม่
กรุงเทพฯ-ตรวจเยี่ยม 6 จุดบริการประชาชนในพื้นที่ฝั่งพระนคร พร้อมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานช่วงเทศกาลปีใหม่ 2567
(29 ธ.ค.66) เวลา 09.00 น. นายจักกพันธุ์ ผิวงาม รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วย นายศุภกฤต บุญขันธ์ รองปลัดกรุงเทพมหานคร ตรวจเยี่ยมจุดบริการประชาชนเพื่อดูแลความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกการจราจรในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2567 ในพื้นที่ฝั่งพระนคร จำนวน 6 จุด ประกอบด้วย 1.สถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพฯ (เอกมัย) เขตคลองเตย 2.หน้าสถานีบริการน้ำมันบางจาก กม.4+800 ถนนบางนา-ตราด (ฝั่งขาออก) เขตบางนา 3.หน้าสำนักงานเขตลาดกระบัง ถนนลาดกระบัง เขตลาดกระบัง 4.ใต้สะพานข้ามแยกมหานคร เขตหนองจอก 5.สถานีรถไฟดอนเมือง ถนนวิภาวดีรังสิต (ฝั่งขาออก) เขตดอนเมือง และ 6.สถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพฯ (จตุจักร) เขตจตุจักร พร้อมทั้งได้มอบน้ำดื่ม เครื่องดื่ม ขนม กาแฟ บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป เพื่อสร้างขวัญกำลังใจให้แก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานประจำจุดบริการประชาชน และมอบหน้ากากอนามัยให้กับประชาชนที่เดินทางออกต่างจังหวัดบริเวณสถานีขนส่ง เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5
"ขอบคุณเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานประจำจุดบริการประชาชนทุกท่าน ที่เสียสละเวลาในวันหยุดยาวช่วงเทศกาลปีใหม่ 2567 เพื่อร่วมกันดูแลและให้ความช่วยเหลือประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนนให้ได้รับความสะดวกสบายและความปลอดภัยในการเดินทางกลับภูมิลำเนาหรือท่องเที่ยวต่างจังหวัดพักผ่อนกับครอบครัว รวมถึงดูแลประชาชนที่อยู่ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ซึ่งไม่ได้เดินทางออกไปต่างจังหวัด สร้างความอุ่นใจเพื่อประโยชน์สุขแก่ประชาชน ในการใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน" รองผู้ว่าฯ จักกพันธุ์ กล่าว
กรุงเทพมหานคร ได้จัดตั้งจุดบริการประชาชนเพื่อดูแลความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกการจราจรในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2567 ระหว่างวันที่ 29 ธันวาคม 2566 ถึงวันที่ 4 มกราคม 2567 โดยบูรณาการความร่วมมือร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนในพื้นที่ รวมถึงดำเนินงานตามนโยบายของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครในด้านปลอดภัยดี ขับเคลื่อนการทำงานในด้าน “ขับขี่ปลอดภัย เมืองไทยไร้อุบัติเหตุ”
อีกทั้งสอดคล้องกับการดำเนินงานของศูนย์ปฏิบัติการความปลอดภัยทางถนนกรุงเทพมหานคร เพื่อให้ประชาชนเดินทางได้อย่างปลอดภัย ห่างไกลจากอุบัติเหตุ สำหรับจุดบริการประชาชนเพื่อดูแลความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกการจราจรในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2567 จำนวน 11 จุด ประกอบด้วย เส้นทางเข้าออกเมือง 7 จุด ได้แก่ 1.บริเวณหน้าสถานีบริการน้ำมันบางจาก กม.4+800 ถนนบางนา-ตราด (ฝั่งขาออก) เขตบางนา 2.สถานีบริการน้ำมัน ปตท. กม.12 ถนนพระราม 2 (ฝั่งขาออก) เขตบางขุนเทียน 3.ถนนบรมราชชนนี (ฝั่งขาออก) บริเวณใต้สะพานต่างระดับถนนพุทธมณฑลสาย 3 และถนนบรมราชชนนี (ฝั่งขาเข้า) บริเวณใต้สะพานถนนพุทธมณฑลสาย 3 เขตทวีวัฒนา 4.บริเวณใต้สะพานข้ามแยกมหานคร เขตหนองจอก 5.สถานีรถไฟดอนเมือง ถนนวิภาวดีรังสิต (ฝั่งขาออก) เขตดอนเมือง 6.หน้าสำนักงานเขตหนองแขม ถนนเพชรเกษม เขตหนองแขม และ 7.หน้าสำนักงานเขตลาดกระบัง ถนนลาดกระบัง เขตลาดกระบัง ส่วนสถานีขนส่งผู้โดยสาร 4 จุด ได้แก่ 1.สถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพฯ (สายใต้ตลิ่งชัน) เขตตลิ่งชัน 2.สถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพฯ (สายใต้ปิ่นเกล้า) ถนนบรมราชชนนี เขตบางกอกน้อย 3.สถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพฯ (เอกมัย) เขตคลองเตย และ 4.สถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพฯ (จตุจักร) เขตจตุจักร ซึ่งภายในจุดบริการประชาชน มีบริการน้ำดื่ม หน้ากากอนามัย หน่วยปฐมพยาบาลรักษาอาการเจ็บป่วยในเบื้องต้น หน่วยตรวจเช็คสภาพรถเบื้องต้นพร้อมรถลากจูงในกรณีรถเสีย หน่วยกู้ภัยพร้อมเครื่องมือตัดถ่างหากเกิดอุบัติเหตุทางถนน
โดยมีเจ้าหน้าที่กรุงเทพมหานคร จิตอาสา ตำรวจ ทหาร อปพร. และอาสาสมัครมูลนิธิ ประจำจุดเพื่ออำนวยความสะดวกด้านการจราจร แนะนำเส้นทางในการเดินทาง พร้อมให้ความช่วยเหลือประชาชนตลอด 24 ชั่วโมง ในส่วนของสถานีขนส่งผู้โดยสาร จะมีเจ้าหน้าที่กรมการขนส่งทางบก ตรวจสอบสภาพรถโดยสารและรถร่วม บขส. ก่อนออกเดินทาง ตลอดจนตรวจความพร้อมของพนักงานขับรถทุกคัน ซึ่งการเดินทางออกต่างจังหวัดต้องใช้ระยะเวลาหลายชั่วโมงกว่าจะถึงจุดหมายปลายทาง สภาพรถโดยสารและผู้ขับขี่จึงต้องมีความพร้อมในการให้บริการประชาชน
ในการนี้มี นายณรงค์ รัสมี สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร เขตหนองจอก นายสุรเดช อำนวยสาร รองผู้อำนวยการสำนักเทศกิจ นายสุริยชัย รวิวรรณ รองผู้อำนวยการสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายอนุชิต พิพิธกุล รองผู้อำนวยการสำนักการคลัง พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่สำนักเทศกิจ สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กองโรงงานช่างกล สำนักการคลัง สำนักงานเขตในพื้นที่ ศูนย์บริการสาธารณสุขในพื้นที่ กรมการขนส่งทางบก บริษัท ขนส่ง จำกัด จิตอาสา ตำรวจ ทหาร อปพร. อาสาสมัครมูลนิธิ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมลงพื้นที่และให้ข้อมูล