In Bangkok
สภากทม.ร้อง'ชัชชาติ'ควบคุมเตาเผาศพ ให้ได้มาตรฐานแก้มลพิษทางอากาศ
กรุงเทพฯ-การประชุมสภากรุงเทพมหานครสมัยประชุมสามัญ สมัยแรก (ครั้งที่ 1) ประจำปีพุทธศักราช 2567 ในวันพุธที่ 3 มกราคม พ.ศ.2567 ณ อาคารไอราวัตพัฒนา ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร 2 (ดินแดง) นางกนกนุช กลิ่นสังข์ สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร เขตดอนเมือง เสนอญัตติขอให้กรุงเทพมหานครเร่งรัดฌาปนสถานในพื้นที่กรุงเทพมหานครปรับปรุงเตาเผาศพให้มีค่ามลพิษเป็นไปตามมาตรฐาน
เนื่องจากฌาปนสถานเป็นแหล่งกำเนิดมลพิษทางอากาศประเภทหนึ่งที่อาจมีส่วนทำให้เกิดปัญหาฝุ่นละอองที่มีอยู่ในปัจจุบัน ในพื้นที่กรุงเทพมหานครมีฌาปนสถานที่ได้รับอนุญาตให้จัดตั้งตามพระราชบัญญัติสุสานและฌาปนสถาน พ.ศ.2528 จำนวน 308 แห่ง ล้วนใช้เตาเผาศพปลอดมลพิษแบบ 2 ห้องเผาตามมาตรฐานของกรุงเทพมหานคร จากผลตรวจวัดมลพิษทางอากาศจากการเผาศพประจำปี พ.ศ.2565 ด้วยวิธีการสังเกตุเขม่าควันที่ปล่อยทางปล่องเตาเผาศพตามมาตรฐานที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมกำหนด พบว่าค่ามลพิษผ่านมาตรฐาน จำนวน 266 แห่ง ไม่ผ่านมาตรฐาน จำนวน 11 แห่ง และยังไม่ได้ตรวจวัด เนื่องจากอยู่ระหว่างปรับปรุงเตาเผาศพ จำนวน 31 แห่ง ซึ่งแต่ละแห่งที่ไม่ผ่านมาตรฐานเกิดจากหลายสาเหตุ เช่น ใช้งานมาเป็นเวลานานมากกว่า 10 ปี มีอัตราการใช้งานจำนวนมาก อย่างไรก็ตาม กรุงเทพมหานครได้มีการตรวจสอบ ควบคุม กำกับให้ผู้ปฏิบัติงานฌาปนกิจศพ ให้มีการปฏิบัติงานเผาศพอย่างถูกวิธี และรณรงค์ส่งเสริมให้ประชาชนงดเว้น หลีกเลี่ยงหรือลดจำนวนการใส่วัสดุ หรือของใช้ส่วนตัวของผู้เสียชีวิตและอื่น ๆ ลงไปในหีบศพเกินความจำเป็น แต่ยังมีฌาปนสถานที่จำเป็นต้องได้รับการแก้ไขให้มีค่ามลพิษจากปล่องเตาเผาศพเป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนด ดังนั้น เพื่อเป็นการลดการปล่อยมลพิษทางอากาศจากแหล่งกำเนิดมิให้ส่งผลกระทบต่อสุขภาพอนามัยของประชาชน และแก้ไขปัญหาฝุ่นละออง จึงขอให้กรุงเทพมหานครเร่งรัดฌาปนสถานในพื้นที่กรุงเทพมหานครปรับปรุงเตาเผาศพให้มีค่ามลพิษเป็นไปตามมาตรฐาน
“ปัจจุบันเมื่อพูดถึงมลพิษทางอากาศ หรือฝุ่น PM2.5 จะนึกถึงฝุ่นที่มาจากโครงการก่อสร้าง หรือรถยนต์ แต่ยังพบว่ามีฝุ่นที่มาจากการเผาหญ้า จุดธูปหรือแม้กระทั่งจากเตาเผาศพ ซึ่งกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้กำหนดมาตรฐานค่าความทึบแสงของเขม่าควันจากเตาเผาศพไว้ โดยต้องมีค่าความทึบแสงไม่เกินร้อยละ 7 แต่จากการตรวจสอบพบว่ามีเตาที่ไม่ผ่านมาตรฐาน 11 แห่ง มาจากหลายสาเหตุ เช่น ใช้มานาน หรือมีการใช้งานจำนวนมาก จึงขอให้กรุงเทพมหานครได้ตรวจวัดค่าความทึบแสงจากเขม่าควันจากปล่องเตาเผาศพให้เรียบร้อยและกำหนดแนวทางจัดการกับวัดที่ไม่ได้มีการแก้ไขตามมาตรฐานให้ถูกต้อง รวมถึงการให้ความรู้กับผู้จัดการความตายหรือสัปเหร่อให้สามารถจัดการเผาศพให้ถูกวิธี เหมาะสมเพื่อสุขภาพอนามัยของประชาชนในกรุงเทพฯ” ส.ก.กนกนุช กล่าว
จากนั้นสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร ได้ร่วมอภิปรายสนับสนุนญัตตินี้ ประกอบด้วย นายวิพุธ ศรีวะอุไร ส.ก.เขตบางรัก นายพีรพล กนกวลัย ส.ก.เขตพญาไท นายนภาพล จีระกุล ส.ก.เขตบางกอกน้อย และนายสุทธิชัย วีรกุลสุนทร ส.ก.เขตจอมทอง
นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า ถือเป็นหน้าที่ของกรุงเทพมหานครที่ต้องควบคุมมาตรฐานฌาปนสถาน ฝ่ายบริหารจึงขอรับเรื่องที่ส.ก.เสนอ ทั้งการควบคุมมาตรฐานและแนวทางในการปฏิบัติตามพ.ร.บ.ที่เกี่ยวข้อง รวมถึงการช่วยเหลือฌาปนสถานให้สามารถแก้ไขได้ถูกต้องตามวิธีตามงบประมาณต่อไป