Authority & Harm
แพทย์ไม่ลงความเห็นการตายตร.ที่ท่าเรือ ส่งศพผ่าพิสูจน์ดับมีเงื้อนงำแอบแฝง
กาญจนบุรี-แพทย์ไม่ลงความเห็นสาเหตุการตาย ตำรวจ สภ.ท่าเรือ กาญจน์ จึงต้องส่งศพผ่าพิสูจน์ ว่าหนุ่มใหญ่กาญจนบุรี ที่เสียชีวิตคล้ายมีเงื้อนงำแอบแฝง ซึ่งภรรยาอ้างว่าขี่ซาเล้งชนเสาปูนหลักกั้นรั้วกำแพง///
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า อุบัติเหตุครั้งนี้ เกิดขึ้นเมื่อเวลา 01.10 น.ของวันที่ 5 ม.ค.67 พ.ต.ท.ชนะชล ชินแสง สารวัตรเวรสอบสวน สภ.ท่าเรือ จ.กาญจนบุรี
ซึ่งได้รับแจ้งจากทาง รพ.มะการักษ์ ว่าเจ้าหน้าที่มูลนิธิขุนรัตนาวุธจุดรอรับเหตุตำบลท่าเรือ ได้นำตัวมาส่ง ณ.หน้าที่ทำการในตลาดท่าเรือ โดยหญิงสาวคนดังกล่าวอ้างว่า คนเจ็บขี่รถซาเล้งพ่วงข้างเสียหลักพุ่งชนเสาปูนกั้นรั้วกำแพงสังกาสีบ้านชาวบ้าน เหตุเกิดบนถนนด้านหลังโรงเรียนอนุชนศึกษา เขตเทศบาลตำบลท่าเรือ-พระแท่นฯ
หญิงสาวนำพาหนุ่มใหญ่ขี่รถจักรยานยนต์ดัดแปลงเป็นรถซาเล้งพ่วงข้างจนเสียชีวิตครั้งนี้ เกิดขึ้นเมื่อเวลา 23.45 น.ของคืนวันที่ 4 ม.ค.67 ที่ผ่านมา พ.ต.ท.ชนะชล ชินแสง สารวัตรเวรสอบสวน สภ.ท่าเรือ จ.กาญจนบุรี ได้รับแจ้งจากทางเจ้าหน้าที่ของ รพ.มะการักษ์ ว่า ว่าเจ้าหน้าที่มูลนิธิขุนรัตนาวุธ ต.ท่าเรือ ได้นำผู้ได้รับบาดเจ็บที่ประสบอุบัติเหตุขี่รถซาเล้งพ่วงข้างเฉี่ยวชนรั้วกำแพงบ้านของชาวบ้าน ได้เสียชีวิตที่ รพ.ฯ ขอให้มาร่วมชันสูตรพลิกศพด้วย หลังทราบเรื่องจึงลงบันทึกประจำวันเพื่อรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ
จากนั้น จึงรีบเดินทางไปตรวจสอบที่ รพ.มะการักษ์ พร้อมประสานเจ้าหน้าที่มูลนิธิฯ ที่นำผู้ได้รับบาดเจ็บส่ง รพ.ฯให้พาไปตรวจสอบที่เกิดเหต ซึ่งอยู่บนถนนด้านหลังโรงเรียนอนุชนศึกษา เขตเทศบาลตำบลท่าเรือ-พระแท่น
จากการตรวจสอบสภาพศพของผู้เสียชีวิตรายนี้ซึ่งเป็นหนุ่มใหญ่ทราบชื่อว่านายเพ็ญ(ขอสงวนนามสกุล)อายุ 55 ปี ไม่ทราบที่อยู่และภูมิลำเนา ซึ่งนางจินตหนา(ขอสงวนนามสกุล) ภรรยาผู้ตาย ซึ่งมีอายุ 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 5 หมู่ 3 ต.ดอนชะเอม อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี อ้างกับเจ้าหน้าที่มูลนิธิฯ ขณะขับขี่รถซาเล้งพ่วงข้างพาสามีไปส่งที่บริเวณหน้าที่ทำการจุดรอรับเหตุภายในตลาดท่าเรือ โดยบอกว่าให้ช่วยส่ง รพ.ที ซึ่งในขณะนั้นสามียังไม่เสียชีวิต แต่มีอาการร่อแร่แล้ว
เบื้องต้นจากการตรวจสอบสภาพศพของนายเพ็ญพบว่า ตามร่างกายไม่มีบาดแผลฉกรรจ์แต่อย่างใด มีแต่ร่องรอยฟกช้ำ ผิวหนังถลอก แพทย์จึงไม่กล้าลงความเห็นสาเหตุการเสียชีวิตได้ จึงมอบศพให้เจ้าหน้าที่มูลนิธิฯ จุดรอรับเหตุ อ.ท่ามะกาฯ นำส่งแผนกนิติเวช รพ.ศูนย์ราชบุรี เพื่อให้แพทย์ผ่าพิสูจน์หาสาเหตุที่แท้จริงของการเสียชีวิตอีกครั้ง
จากนั้นจึงเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพบว่าที่ริมถนนสายดังกล่าวซึ่งมีลักษณะผิวการจราจรลาดลงเนินไหล่ถนนใกล้ๆทาง 3 แยกมีสภาพแวดล้อมและร่องรอยการเกิดอุบัติเหตุ ที่เสาปูนและรั้วสังกาสีของบ้านชาวบ้านพบร่องรอยการเฉี่ยวชนจนพังเสียหาย ส่วนรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้าเวฟ 110 สีแดง หมายเลขทะเบียน 1กฆ.9880 กาญจนบุรี ซึ่งดัดแปลงต่อเติมเป็นรถซาเล้งพ่วงข้าง จากการตรวจสอบของตำรวจก็พบว่ามีร่องรอยของการประสบอุบัติเหตุเช่นกัน ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ติดตามสอบสวนเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงเสียชีวิตเพราะสาเหตุอะไรเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป ซึ่งเบื้องต้นตำรวจสันนิษฐานว่า นางเพ็ญ ภรรยาผู้ตายเห็นว่าสามียังไม่เสียชีวิต ด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ และขณะเกิดเหตุก็ไม่รู้ว่าจะช่วยสามีอย่างไร จึงยกรถซาเล้งออกจ่กจุดเกิดเหตุ แล้วนำตัวสามีไปส่งให้กับเจ้าหน้าที่มูลนิธิขุนรัตนาวุธ เพื่อให้ช่วยเหลือนำร่างของสามีส่ง รพ.ฯ และเสียชีวิตในเวลาต่อมา