Authority & Harm

กู้ภัยในสายเลือดได้ยินเสียงเกิดอุบัติเหตุ ลืมตัว!ลุกขึ้นจะไปช่วยทั้งที่ขายังหักอยู่



ฉะเชิงเทรา-กู้ภัยด้วยใจรักการช่วยเหลือต่อเพื่อนมนุษย์ ได้ยินเสียงอุบัติเหตุรถชนกันต่อหน้าลืมตัวลุกขึ้นจะวิ่งออกไปจนตัวเซถลา หวังมุ่งหน้าจะเข้าไปช่วยเหลือคนเจ็บแม้ตนเองจะยังขาหักนั่งอยู่กับที่ก็ตาม แต่สุดท้ายยังได้ใช้ไม้เท้าค้ำยันเดินออกไปช่วยเหลือพร้อมติดต่อประสานงานให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่เข้ามาให้การช่วยเหลือได้สำเร็จ ทั้งยังช่วยโบกรถจัดการจราจรในที่เกิดเหตุอีกด้วย

วันที่ 7 ม.ค.67 เวลา 16.00 น. ผู้สื่อข่าวได้เดินทางเข้าไปพุดคุยกับ นายยงยุทธ วิหกเหิร อายุ 47 ปี ภูมิลำเนาอยู่บ้านเลขที่ 56 ม.5 ต.เมืองใหม่ อ.ราชสาสน์ จ.ฉะเชิงเทรา หลังปรากฏคลิปภาพจากกล้องวงจรปิดถูกนำมาเผยแพร่ผ่านทางสื่อสังคมออนไลน์ ในขณะที่กำลังเกิดเหตุการณ์รถจักรยานยนต์ซึ่งขับมาในเส้นทางตรงบนถนนสาย 304 ด้านฝั่งขาเข้า พุ่งชนเข้ากับรถพ่วงบรรทุกน้ำเค็มขนาด 22 ล้อที่ขับพุ่งออกมาตัดหน้าจากจุดกลับรถบริเวณหน้าปากทางเข้า รพ.พนมสารคาม อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา 

จนทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นชายวัยรุ่นจำนวน 1 ราย เหตุเกิดขึ้นเมื่อเวลา 16.43 น. วันที่ 5 ม.ค.66 ที่ผ่านมา โดยในภาพที่มีการเผยแพร่ออกไปนั้น เป็นภาพของนายยงยุทธ ที่นั่งเล่นพักผ่อนอยู่ริมข้างทาง และได้เห็นเหตุการณ์เกิดขึ้นต่อหน้า ในทันทีที่เกิดเหตุการณ์ขึ้นนายยงยุทธ ได้พยายามลุกขึ้นพรวดออกมาจากเก้าอี้ม้านั่งในทันที จนลืมว่าตนเองนั้นยังอยู่ในอาการบาดเจ็บขาหักอยู่ หลังจากได้รับบาดเจ็บจากการประสบอุบัติเหตุในการทำงานเมื่อวันที่ 29 ธ.ค.66 ที่ผ่านมา จนแพทย์ได้ให้หยุดพักผ่อนเป็นเวลา 3 เดือน

ซึ่งนายยงยุทธ เล่าว่า ตนเองนั้นมีอาชีพเป็น รปภ. ประจำโรงงานอุตสาหกรรม และมักจะใช้เวลาว่างมาปฏิบัติหน้าที่เป็นอาสาสมัครกู้ภัย ซึ่งเดิมนั้นตนเคยสังกัดเป็นอาสาสมัครของหน่วยกู้ภัยพนมสารคาม แต่หลังจากถูกส่งให้ไปทำงานประจำอยู่ในเขตพื้นที่ อ.บ้านสร้าง จ.ปราจีนบุรี จึงได้สมัครเป็นอาสาสมัครหน่วยกู้ภัยสว่างบำเพ็ญธรรมสถาน ประจำ อ.บ้านสร้าง รวมระยะเวลาประมาณ 3-4 ปีที่ผ่านมา 

และได้กลับเข้ามาอยู่ในพื้นที่ จ.ฉะเชิงเทรา อีกครั้งจนมาประสบอุบัติเหตุในพื้นที่ ต.หนองแหน แต่ยังคงเป็นอาสาฯ ของกู้ภัยในพื้นที่ จ.ปราจีนบุรี นามเรียกขานจุดบ้านสร้าง 1106 อยู่ ในวันเกิดเหตุกำลังนั่งพักผ่อนอยู่ที่หน้าบ้านเช่า ทันทีที่ได้ยินเสียงอุบัติเหตุดังขึ้นและเห็นเหตุการณ์ต่อหน้า จึงได้รีบลุกขึ้นพรวดจากเก้าอี้ม้านั่งเพื่อที่จะมุ่งตรงไปช่วยเหลือคนเจ็บยังในจุดเกิดเหตุ ซึ่งเป็นถนนใหญ่ และอยู่ห่างออกไปตรงหน้าหลายสิบเมตรด้วยความลืมตัวว่ายังบาดเจ็บอยู่ จนเกิดการเซถลาและเกือบล้มลงในช่วงแรก

จากนั้นจึงได้พยายามเดินเขย่งออกไปดูพร้อมกับได้ใช้เครื่องมือสื่อสาร ในการติดต่อประสานงานกับหน่วยงานกู้ภัยฯ ในพื้นที่ ว่ามีอุบัติเหตุเกิดขึ้น ก่อนที่ตนเองจะหันมาคว้าไม้เท้าค้ำยันในการเดินออกไปช่วยเหลือประสานงานผ่านทางเครื่องมือสื่อสาร และเรียกรถกู้ชีพฉุกเฉิน พร้อมกับช่วยโบกรถจัดการจราจรให้ผู้ใช้เส้นทางรายอื่นๆ ได้หลีกเลี่ยงเบี่ยงออกไปจากบริเวณจุดเกิดเหตุ

ซึ่งโชคดีที่ชายวัยรุ่นที่มาประสบอุบัติเหตุนั้น ไม่ได้รับบาดเจ็บมากนัก เนื่องจากได้ขับรถ จยย.พุ่งชนเข้ากับบริเวณล้อยางของรถบรรทุกพ่วง ที่มีถังบรรจุน้ำเค็มขนาด 22 ล้อ ที่ขับออกมาจากจุดกลับรถหน้า รพ.พนมสารคาม และหลังเกิดเหตุคนขับรถพ่วงยังไม่ลงมาให้การช่วยเหลือหรือหยุดรถดูแล โดยยังคงขับรถหลบหนีไปเหมือนกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น และปล่อยให้ผู้ได้รับบาดเจ็บนอนอยู่ตรงกลางถนนพร้อมกับรถ จยย.ที่พุ่งชนจนพังเสียหายล้มลงอยู่ในที่เกิดเหตุ

โดยตนนั้นดีใจที่ยังมีโอกาสได้ช่วยเหลือคนอีกครั้ง แม้จะยังคงได้รับบาดเจ็บที่ข้อเท้าใกล้บริเวณตาตุ่มหัก และหลังจากที่ได้ออกไปช่วยเขาแล้วเมื่อเริ่มรู้สึกปวดบาดแผลจึงได้กลับเข้ามาพัก โดยได้มีชาวบ้านพากันออกมาให้การช่วยเหลือต่อจากนั้นแล้ว จนมีรถกู้ชีพเข้ามารับตัวคนเจ็บนำส่งไปยัง รพ.พนมสารคาม โดยจุดเกิดเหตุห่างจากหน้าบ้านพักประมาณ 30-40 เมตร นายยงยุทธ กล่าว

สนทะนาพร อินจันทร์/ฉะเชิงเทรา