In Bangkok

กทม.สั่งตรวจแหล่งกำเนิดมลพิษเข้มงวด ระวังเผาในที่โล่งรองรับสถานการณ์ฝุ่น



กรุงเทพฯ-นายประพาส เหลืองศิรินภา ผู้อำนวยการสำนักสิ่งแวดล้อม (สสล.) กทม.กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมรองรับสถานการณ์การเข้าสู่ฤดูฝุ่นของประเทศไทยว่า สสล.ได้บูรณาการความร่วมมือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องขับเคลื่อนมาตรการในด้านต่าง ๆ เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่น PM2.5 ในพื้นที่กรุงเทพฯ และรองรับสถานการณ์การเข้าสู่ฤดูฝุ่นของประเทศไทย รวมทั้งเตรียมพร้อมแผนปฏิบัติการป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่น PM2.5 ของ กทม.เพื่อรองรับสถานการณ์ฝุ่น PM2.5 ตั้งแต่บัดนี้จนถึงวันที่ 12 ม.ค.67 ตามที่กรมควบคุมมลพิษแจ้งเตือนพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑลจะมีอัตราระบายอากาศต่ำ อาจทำให้มีปริมาณฝุ่นละอองสะสมในอากาศเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะมาตรการเร่งด่วนของ กทม.ในการแก้ไขปัญหาฝุ่น PM2.5 ในพื้นที่ที่มีค่าฝุ่นละอองสะสมตัวเพิ่มขึ้นและคุณภาพอากาศอยู่ในระดับเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ อีกทั้งเตรียมแผนรับมือและแก้ไขปัญหาฝุ่น PM2.5 ในช่วงวิกฤต โดยสื่อสารเชิงรุก รายงานสถานการณ์ฝุ่น พร้อมค่าพยากรณ์แจ้งเตือนผ่านช่องทางต่าง ๆ ได้แก่ แอปพลิเคชัน AirBKK เว็บไซต์ www.airbkk.com เพจเฟซบุ๊ก สำนักสิ่งแวดล้อม กรุงเทพมหานคร เพจเฟซบุ๊ก กองจัดการคุณภาพอากาศและเสียง สำนักสิ่งแวดล้อม เพจเฟซบุ๊ก กรุงเทพมหานคร แอปพลิเคชัน LINE ALERT และ LINE OA @airbangkok อีกทั้งถ่ายทอดสด (Live) ผ่านเพจเฟซบุ๊กทุกวันทำการในเวลา 09.00 น. โดยโฆษกศูนย์ข้อมูลคุณภาพอากาศของกรุงเทพมหานคร เพื่อให้ประชาชนตระหนักถึงสาเหตุการเกิดฝุ่นละออง ดูแลตนเองและคนในครอบครัว รวมทั้งมีส่วนร่วมลดปัญหาฝุ่น PM2.5 และทราบถึงมาตรการทางกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนบทลงโทษหากฝ่าฝืน

ขณะเดียวกันได้ตรวจแหล่งกำเนิดมลพิษอย่างเข้มงวด ตรวจจับควันดำจากต้นตอ ตรวจวัดควันดำริมเส้นทางจราจร ติดตามเฝ้าระวังจุดความร้อนผ่านเว็บไซต์ GISTDA กวดขันควบคุมไม่ให้มีการเผาในที่โล่ง ควบคุมสถานประกอบการไม่ให้ปล่อยมลพิษทางอากาศเกินค่ามาตรฐานที่กฎหมายกำหนด บังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวดกับผู้กระทำผิด ตามแผนลดฝุ่น PM2.5 เพื่อให้มีค่าฝุ่น PM2.5 อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน เพิ่มความเข้มงวดตรวจสอบสำนักงานเขตที่มีพื้นที่ทำการเกษตร รวมถึงรณรงค์เน้นย้ำสร้างความเข้าใจและความร่วมมือของประชาชนงดเผาเศษวัสดุทางการเกษตรในพื้นที่เพาะปลูก ส่งเสริมการนำตอซังฟางข้าวมาใช้ประโยชน์ ใช้จุลินทรีย์หมักย่อยสลายตอซังแทนการเผา ตลอดจนจัดเจ้าหน้าที่ชุดเฉพาะกิจตรวจสอบและแก้ไขปัญหาฝุ่น PM2.5 จากการเผาในที่โล่งในพื้นที่กรุงเทพฯ อย่างต่อเนื่อง

นอกจากนั้น กรุงเทพมหานครได้ประสานแจ้งผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี สมุทรปราการ นครปฐม สมุทรสาคร นนทบุรี พระนครศรีอยุธยา ฉะเชิงเทรา พิษณุโลก พิจิตร นครสวรรค์ ชัยนาท และนครนายก เพื่อบูรณาการความร่วมมือแก้ไขปัญหาฝุ่น PM2.5 จากต้นทาง โดยขอความร่วมมือติดตามเฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงเกิดจุดความร้อนในพื้นที่ ควบคุมกำกับดูแล ห้ามไม่ให้เผาในที่โล่ง ทั้งในพื้นที่รกร้างว่างเปล่า ชุมชนเมือง พื้นที่เกษตรกรรม และพื้นที่ริมทางตั้งแต่บัดนี้จนถึงเดือน เม.ย.67 อีกทั้งได้ร่วมกับกระทรวงคมนาคมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจวัดควันดำรถบรรทุกขนาดใหญ่บริเวณท่าเรือคลองเตย เพื่อควบคุมและตรวจสอบให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน และร่วมมือกับกระทรวงพลังงาน กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กลุ่มผู้ผลิตยานยนต์ และกลุ่มผู้ผลิตน้ำมันให้บริการตรวจบำรุงรักษารถยนต์ฟรี ลดราคาอะไหล่ น้ำมันเครื่อง ไส้กรอง เป็นต้น ในช่วงที่มีฝุ่นละอองสูงระหว่างเดือน พ.ย.66 - เม.ย.67 เพื่อลดปริมาณฝุ่น PM2.5 จากยานพาหนะ โดยผู้เข้ารับบริการจะได้รับสติกเกอร์ “รถคันนี้ลดฝุ่น“ เพื่อประชาสัมพันธ์ส่งเสริมสร้างการมีส่วนร่วมจากประชาชนอีกทางหนึ่ง

สำหรับมาตรการลดกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับประชาชนในช่วงที่ค่าฝุ่น PM2.5 มีแนวโน้มสูงขึ้น ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครจะประกาศขอความร่วมมือส่วนราชการและภาคเอกชนปฏิบัติงานในที่พัก (Work From Home) เพื่อช่วยลดจำนวนยานพาหนะบนถนนและพิจารณาปรับรูปแบบการเรียนการสอนของโรงเรียนสังกัด กทม.เพื่อลดผลกระทบทางสุขภาพที่อาจเกิดขึ้นกับเด็กนักเรียน เป็นต้น ทั้งนี้ ประชาชนสามารถมีส่วนร่วมเมื่อพบเห็นแหล่งกำเนิดฝุ่น โดยแจ้งผ่านระบบ Traffy Fondue เพื่อให้เจ้าหน้าที่เร่งดำเนินการแก้ไข