In News

​นายกฯเชิญชวนเด็กและเยาวชนเที่ยวงาน ฉลองวันเด็กแห่งชาติ13ม.ค.นี้ทำเนียบฯ



กรุงเทพฯ-​นายกฯ เชิญชวนเด็กและเยาวชนเที่ยวงานฉลองวันเด็กแห่งชาติ 13 มกราคม 2567 ณ ทำเนียบรัฐบาล ไฮไลท์สำคัญนั่งเก้าอี้ทำงานนายกฯ ก่อนหน้านี้นายกฯ มอบโอวาทเด็กและเยาวชนดีเด่นและนำชื่อเสียงมาสู่ประเทศชาติ เน้นย้ำให้เด็กยึดมั่นรู้รักสามัคคี มีความกตัญญูต่อผู้มีพระคุณ และต่อประเทศชาติ

วันที่ 10 มกราคม 2567 นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้มอบคำขวัญเนื่องในวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2567 ว่า “มองโลกกว้าง คิดสร้างสรรค์ เคารพความแตกต่าง ร่วมกันสร้างประชาธิปไตย” สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและภาคเอกชน เตรียมจัดงานฉลองวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2567 ในวันเสาร์ที่ 13 มกราคม 2567 ระหว่างเวลา 08.00 - 15.00 น. ณ บริเวณทำเนียบรัฐบาล เพื่อส่งมอบความสุขให้กับเด็กและเยาวชน ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีจะเป็นประธานในพิธีเปิดงานและร่วมกิจกรรมกับเด็กและเยาวชนที่มาร่วมกิจกรรม โดยมีตัวแทนเด็กและเยาวชนกลุ่มต่าง ๆ เข้าพบ เช่น เยาวชนผู้ด้อยโอกาสจาก กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ รวมทั้งเปิดโอกาสให้เด็ก ๆ ได้นั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรี และเข้าเยี่ยมชมตึกต่าง ๆ ภายในทำเนียบรัฐบาล

สำหรับในปีนี้ ภายในทำเนียบรัฐบาล ได้มีการจัดกิจกรรมงานวันเด็กแห่งชาติ ภายใต้คำขวัญวันเด็กของนายกรัฐมนตรี เน้นกิจกรรมสร้างสรรค์ทั้งในรูปแบบของนิทรรศการ สถานการณ์จำลอง และการเล่นเกมต่าง ๆ เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ของเด็กและเยาวชนในทุกมิติ รวมถึงให้เด็กและเยาวชนมีความสุข สนุกสนานในการร่วมกิจกรรมต่าง ๆ ทั้งของภาครัฐและภาคเอกชน เช่น

ตึกไทยคู่ฟ้า เปิดให้เด็กและเยาวชนเยี่ยมชมและนั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรี โดยในปีนี้ทำเนียบรัฐบาลจะจัดให้เด็กและเยาวชนนั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรีเหมือนทุกปี แต่ปีนี้จำเป็นต้องนำเก้าอี้ โต๊ะทำงาน ธง และชุดอุปกรณ์การทำงาน มาจัดที่ห้องสีม่วง ตึกไทยคู่ฟ้า ด้วยเหตุที่ห้องทำงานชั้นบนยังมีปัญหาน้ำรั่วซึม อยู่ระหว่างซ่อมแซม และการนำลงมาจัดที่ห้องสีม่วง จะทำให้เด็กด้อยโอกาส เยาวชนผู้พิการทางการเคลื่อนไหว ได้มีโอกาสนั่งเก้าอี้ทำงานนายกรัฐมนตรีด้วย 

ตึกสันติไมตรีหลังนอก จะมีการแสดงของหน่วยงาน สถานศึกษา กิจกรรมสาระบันเทิงต่าง ๆ และการเล่นเกม แจกของรางวัล ตึกสันติไมตรีโถงกลาง เป็นการจัดแสดงกิจกรรมให้ความรู้ ธีม : มองโลกกว้าง คิดสร้างสรรค์ เคารพความแตกต่างส่งเสริมพลังซอฟต์พาวเวอร์ไทย ตึกสันติไมตรีหลังใน เป็นการจัดแสดงกิจกรรมให้ความรู้ ธีม : Soft power แหล่งท่องเที่ยว และอาหาร ห้องสีฟ้า ตึกสันติไมตรี เป็นการจัดแสดงกิจกรรมให้ความรู้ ธีม : ซอฟต์พาวเวอร์ไทย นิยมไกลทั่วโลก ตึกภักดีบดินทร์ กิจกรรมและนิทรรศการ “เทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์” ตึกนารีสโมสร กิจกรรมแถลงข่าวจำลอง และตึกบัญชาการ 1 กิจกรรมการแสดงหุ่นยนต์ E-sport เทคโนโลยี AI นอกจากนี้ ภายในบริเวณทำเนียบรัฐบาล ยังมีกิจกรรมและการเล่นเกมอีกจำนวนมาก ทั้งในส่วนของภาครัฐและภาคเอกชน

“นายกรัฐมนตรีได้มอบคำขวัญเนื่องในวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2567 ว่า ‘มองโลกกว้าง คิดสร้างสรรค์ เคารพความแตกต่าง ร่วมกันสร้างประชาธิปไตย’ โดยนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า เด็กไทยเก่ง มีศักยภาพ มีความคิดดี และทันสมัย หน้าที่ของรัฐบาลคือการสนับสนุนให้เด็กไทยเติบโตอย่างมีคุณภาพ มีศักดิ์ศรี มีความภูมิใจในตัวเอง อยากให้เด็กไทย Enjoy กับการใช้ชีวิตในวัยเด็ก แต่ขณะเดียวกันก็มีโลกทัศน์ที่กว้าง มีความเป็นไทยพร้อม ๆ กับมีความเป็นสากล เป็นพลเมืองของโลกที่สามารถเคารพความแตกต่างหลากหลายได้ เพื่อร่วมกันสร้างสังคมประชาธิปไตยที่เข้มแข็งต่อไป เนื่องในโอกาสวันเด็กแห่งชาติ นายกรัฐมนตรีและรัฐบาลขอเชิญชวนผู้ปกครองพาบุตรหลาน เด็กและเยาวชนเข้าร่วมกิจกรรมการจัดงานฉลองวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2567 ที่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อร่วมกิจกรรมต่าง ๆ ทั้งสนุก ได้ความรู้ และรับของแจกมากมาย” นายชัย กล่าว

นายกฯ มอบโอวาทเด็กและเยาวชนดีเด่นและนำชื่อเสียงมาสู่ประเทศชาติ 

ก่อนหน้านี้ ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล พลตำรวจเอก เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการและคณะผู้บริหารกระทรวงศึกษาธิการ นำคณะเด็กและเยาวชนดีเด่นและนำชื่อเสียงมาสู่ประเทศชาติ ที่ได้รับการคัดเลือกจากทุกสังกัดทั่วประเทศ จำนวน 1,220 คน เข้าเยี่ยมคารวะและรับฟังโอวาทจาก นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และ กล่าวให้โอวาทตอนหนึ่งว่า รู้สึกปลื้มใจที่เด็กไทยทุกคน มีความรู้ ความสามารถ มีผลงานเป็นที่ประจักษ์และนำชื่อเสียงที่น่าภาคภูมิมาสู่ประเทศชาติ  พร้อมชื่นชมกระทรวงศึกษาธิการ รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่ได้ร่วมกันดำเนินงานและให้ความสำคัญกับเด็กและเยาวชนที่จะเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่ดี และเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศชาติต่อไปในอนาคต  ซึ่งรัฐบาลให้ความสำคัญกับการพัฒนากำลังคนของชาติ และให้ความสำคัญกับเด็กและเยาวชน โดยสร้างความร่วมมือกับทุกภาคส่วนเพื่อให้มีส่วนร่วมในการยกระดับคุณภาพการศึกษา คุณภาพชีวิต รวมทั้งการปลูกฝังความเป็นพลเมืองที่ดีของประเทศ เพื่อให้เด็กและเยาวชนมีความภูมิใจในชาติ ยึดมั่นในสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข  

นายกรัฐมนตรีกล่าวต่อไปว่า  สิ่งสำคัญเด็กและเยาวชนทุกคนต้องมีความกตัญญูรู้คุณต่อบิดา มารดา ผู้มีพระคุณ และประเทศชาติ มีความรู้รักสามัคคี รักชาติ ประพฤติปฏิบัติตนอยู่ในกรอบระเบียบวินัยอันดี และอยู่ในกรอบของกฎหมาย รวมทั้งเป็นผู้ที่มีความรู้ ความสามารถ ควบคู่คุณธรรม ตลอดจนความร่วมมือเพื่อช่วยเหลือสังคม และประเทศชาติ สอดรับกับคำขวัญวันเด็กในปีนี้ว่า “มองโลกกว้าง คิดสร้างสรรค์ เคารพความแตกต่าง ร่วมกันสร้างประชาธิปไตย”

นายกรัฐมนตรีกล่าวชื่นชมเด็กและเยาวชนดีเด่น และเด็กและเยาวชนที่นำชื่อเสียงมาสู่ประเทศชาติ รวมถึงสมาชิกประเภททีม ทั้ง 1,220 คน ที่ได้รับรางวัลว่า เป็นผลจากการที่ทุกคนมีความขยัน หมั่นเพียร ใฝ่หาความรู้อย่างต่อเนื่อง ตลอดจนพยายามฝึกฝนให้มีทักษะด้านต่าง ๆ จนเกิดความสำเร็จ สร้างคุณประโยชน์แก่ตนเอง สังคม และประเทศชาติ อีกทั้งขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง ไม่ทิ้งการศึกษา และทำในสิ่งที่ตนเองได้ตั้งเป้าหมายไว้ ซึ่งการได้รับรางวัลครั้งนี้ถือเป็นเกียรติประวัติที่สง่างามแก่ตนเองและวงศ์ตระกูล รวมทั้งยังเป็นแบบอย่างสร้างสรรค์และแรงบันดาลใจให้แก่เด็กและเยาวชนรุ่นต่อไป

จากนั้น เด็กหญิงพิมพ์นารา คุปต์อัครภิญโญ จากโรงเรียนนานาชาติสิงคโปร์ ธนบุรี กรุงเทพมหานคร และเด็กชายกริษฐ์พล ปราสาททองโอสถ เยาวชนดีเด่น ด้านทักษะฝีมือ จากโรงเรียนร่วมฤดีวิเทศศึกษา มีนบุรี ได้เป็นตัวแทนเด็กและเยาวชนดีเด่นที่นำชื่อเสียงมาสู่ประเทศชาติรับมอบของที่ระลึกจากนายกรัฐมนตรี โดยนายกรัฐมนตรีได้ถ่ายภาพร่วมกับเด็กและเยาวชนอย่างเป็นกันเอง 

สำหรับปีนี้ เด็กและเยาวชนดีเด่นที่ผ่านการคัดเลือกจากส่วนราชการ 17 หน่วยงาน ได้พิจารณาคัดเลือกจากเด็กและเยาวชนที่มีความประพฤติดี เรียนดี มีคุณธรรมจริยธรรม มีความซื่อสัตย์ ขยัน ประหยัด มีความมานะอดทน หาเลี้ยงชีพด้วยตนเอง กตัญญูช่วยเหลือพ่อแม่ ผู้ปกครอง และอุทิศตนเพื่อส่วนรวม ประกอบด้วยเด็กและเยาวชนที่นำชื่อเสียงมาสู่ประเทศชาติใน 5 ด้าน ได้แก่ ด้านวิชาการ ด้านศิลปวัฒนธรรมและดนตรี ด้านทักษะฝีมือวิชาชีพ ด้านกีฬาและนันทนาการ ด้านศีลธรรม คุณธรรมและจริยธรรม จำนวน 604 ราย  เด็กและเยาวชนที่นำชื่อเสียงมาสู่ประเทศชาติ จำนวน 279 ราย และประเภททีม จำนวน 337 ราย ซึ่งได้รับการคัดเลือกจากสำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนให้เด็กและเยาวชนได้กระทำความดีในด้านต่าง ๆ เป็นแบบอย่างที่ดีแก่เด็กและเยาวชนในอนาคต ทั้งนี้ เพื่อเป็นขวัญกำลังใจ กระตุ้นให้เด็กและเยาวชนได้ตระหนักถึงบทบาทอันสำคัญของตนเอง ตลอดจนปลูกฝังให้มีส่วนร่วมในสังคม มีความสามัคคี เป็นกำลังสำคัญของชาติ ตามคำขวัญวันเด็ก ประจำปี 2567 ที่ว่า “มองโลกกว้าง คิดสร้างสรรค์ เคารพความแตกต่าง ร่วมกันสร้างประชาธิปไตย”   ของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี