Authority & Harm

รวบแล้ว!2มือยิงจนท.กฟภ.ลพบุรีดับ



ลพบุรี-จับได้แล้วมือยิงพนักงานไฟฟ้าเข้าใจผิดคิดว่าเป็นสายล่อซื้อยาบ้า

เมื่อเวลา 11:00 น ของวันที่ 25 เมษายน 2564 พลตำรวจโทอำพล บัวรับพรผู้อำนวยการตำรวจภูธรภาค 1,พล.ต.ต.สุภธีร์  บุญครอง  รองผู้บัญชาการตำรวจภาค1 นำมือปืน กลุ่มค้ายาบ้า ที่ใช้อาวุธปืนยิง นายพงศ์เทพ  ขันทเขต  อายุ 29 ปี เจ้าหน้าที่ไฟฟ้า เสียชีวิต เมื่อวันที่ 6 เมษายน 2564 มาแถลงข่าวหน้า กองบังคับการ ตำรวจ ภูธรจังหวัดลพบุรี โดยเหตุเกิดเมื่อ เวลาประมาณ 00:30 น ของวันที่ 6 เมษายน 2564 โดยใช้เวลาสืบสวนจับกุม ใช้ เวลา เพียง 18 วัน เท่านั้น

ผู้ต้องหาทั้งสองคนชื่อ
1. นายมานะ   สีสังข์   ชื่อเล่น   “ มด ”  อายุ   28   ปี   บ้านเลขที่  4  หมู่ที่   8   ตำบลบางพึ่ง   อำเภอบ้านหมี่   จังหวัดลพบุรี  

2 .นายชนะพงษ์พันธ์     แก้วแดงดี  ชื่อเล่น  “ อุ้ม ”    อายุ   23   ปี  อยู่ บ้านเลขที่    35/2   ตำบลเขาสามยอด   อำเภอเมืองลพบุรี   จังหวัดลพบุรี  

ตำรวจ ใช้เวลาในการสืบสวนจับกุมเป็นเวลา 18วัน เนื่องจากเป็นคดีสะเทือนขวัญ เป็นที่น่าสนใจของสื่อมวลชน โดย คืนวันที่ 6 เมษายน 2561 เวลา 10.30 น คนร้ายทั้งสองคนร่วมกันใช้อาวุธปืนยิงนายพงศ์เทพ ขันธเขต   อายุ39ปี ตำแหน่งหัวหน้าหมวดฮอตไลน์ การไฟฟ้าเขต 3 จังหวัดลพบุรี  ถึงแก่ความตาย   บนถนนพหลโยธิน   ตำบลท่าศาลา   อำเภอเมืองลพบุรี  จังหวัดลพบุรี   

โดยกำลังตำรวจ ภูธรภาค  1  นำกำลังนักสืบจาก  กองบังคับการสืบสวนตำรวจภูธรภาค  1  ลงมาสนับสนุนการปฎิบัติของตำรวจภูธรจังหวัดลพบุรี   ภายใต้การนำของ   พล.ต.ต.พัลลภ   แอร่มหล้า    ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดลพบุรี  ,  พ.ต.อ.อุกฤษ   ภู่กลั่น   รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดลพบุรี  ,  พ.ต.อ.สมชาย   ชูแก้ว   ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองลพบุรี  ,พ.ต.อ.พงศ์สุริยะ   สุวรรณพันธ์    ผู้กำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดลพบุรี    ร่วมกันแกะรอยคนร้าย  และจากสืบสวนมีหลักฐานชัดเจนว่าผู้ต้องหาทั้งสองเป็นผู้ก่อเหตุ  โดยขณะเกิดเหตุใช้รถยนต์เก๋ง  สีดำ   หมาเลขทะเบียน   ชภ-8857   กรุงเทพมหานคร    อาวุธปืนที่ใช้เป็นขนาด   9   มม.  เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ออกสืบสวนติดตามตัวเรื่อยมา   โดยพยานหลักฐานที่ได้ส่งมอบให้กับฝ่ายสอบสวนยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อออกหมายจับ

 และการข่าวทราบว่าผู้ต้องหาทั้งสองที่หลบหนี  ได้ย้อนกลับเข้าพื้นที่   โดยหลบไปเช่าอยู่ที่ห้องพักรีสอร์ทแห่งหนึ่งในอำเภอหนองม่วง  เวลาประมาณ   02.00 น.  ของวันที่  24 เมษายน   2564  ชุดปฎิบัติภายใต้การนำของ  พ.ต.อ.อุกฤษ   ภู่กลั่น   จึงเข้าพิสูจน์ทราบพบตัวนายมานะ  หรือ  มดฯ  ผู้ต้องหาที่  1   และนายชนะพงษ์พันธ์  หรืออุ้มฯ  ผู้ต้องหาที่   2    (ตรวจยึดยาเสพติดให้โทษประเภท  1  (ไอซ์)  ได้อีก พร้อมอาวุธปืนพกขนาด  9   มม.  จากผู้ต้องหาที่  1)   เบื้องต้นผู้ต้องหาทั้งสองรับสารภาพว่าใช้อาวุธปืนยิงผู้ตายจริง โดยสารภาพว่า  สาเหตุเข้าใจผิดว่าถูกผู้ตายติดตามเนื่องจากคืนวันที่   6  เมษายน 2564   เวลาประมาณ  00.23  น.  ผู้ต้องหาทั้งสองนัดส่งมอบยาบ้าจำนวน  10,000   เม็ด   ให้กับนาย  กล้า    ที่บริเวณถนนพหลโยธินใกล้สะพานข้ามโรงเรียนเมืองใหม่    และเห็นรถยนต์ของผู้ตายแล่นผ่านไปเข้าใจว่าถูกติดตาม  หลังจากส่งยาบ้าให้กับนาย   กล้า    แล้ว   ชนะพงษ์พันธ์  หรืออุ้มฯ   ผู้ต้องหาที่   1   ขับขี่รถยนต์เก๋ง   สีดำ   หมายเลขทะเบียน   ชภ-8857   กรุงเทพมหานคร  ออกจากจุดส่งมอบยาบ้า  โดยนายมานะ  หรือ มดฯ  ผู้ต้องหาที่  1   นั่งคู่เบาะหน้าข้างซ้าย   นายมานะ  หรือ มดฯ    ผู้ต้องหาที่   1  ใช้อาวุธปืนพกขนาด  9  มม.  ที่นำติดตัวยิงใส่ประตูรถยนต์คันที่ผู้ตายขับขี่  (ประตูหน้าข้างขวา)    หลังจากนั้นก็พากันหลบหนี   นำอาวุธปืนกระบอกที่ใช้ก่อเหตุไปซ่อนไว้ที่บ้านเช่าในหมู่บ้านหนึ่งหนึ่งในเขตตำบลท่าศาลา    นำรถยนต์คันที่นั่งไปขณะยิงผู้ตายไปซุกซ่อนไว้ที่บ้านเช่าในเขตตำบลทะเลชุบศร  นายมานะ  หรือมดฯ  ผู้ต้องหาที่  1   สำนึกผิดเกรงกลัวปาบกรรมได้ไปบวชเป็นพระภิกษุ  โดยผู้องหาที่  2  ติดตามไปเป็นลูกศิษย์หลังจากลาสิกขาบท   จึงพากันเดินทางไปหาเพื่อนที่อำเภอหนองม่วง   และได้เข้าพักที่สีสันรีสอร์ด้วยกัน  จึงถูกเจ้าหน้าที่เฝ้าและเมื่อเห็นผู้ต้องหาทั้งสองเคลื่อนไหวจะหลบหนี  เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงตัดสินใจลงมือปฎิบัติการนำตัวมาสอบสวน   และผู้ต้องหาทั้งสองก็ยอมรับสารภาพ  และสมัครใจนำไปตรวจยึดอาวุธปืนกระบอกที่ใช้ก่อเหตุ   และรถยนต์คันที่นั่งไปในคืนเกิดเหตุ   

วันนี้ทางบรรดาผู้เสียชีวิตได้แก่  นางพงษ์ศิริ ขันธเขต  อายุ 65 ปี นำช่อดอกไม้มาขอบคุณ พลตำรวจโทอำพล  บัวรับพร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ที่สามารถติดตามจับกุมตัวคนร้ายมาดำเนินคดีจนได้ ทันท่วงที

ทวีศักดิ์/ลพบุรี