In News

ภารกิจนายกฯประชุมWEFที่เมืองดาวอส พอใจผลประชุม/ได้คุยกับ2บริษัทยักษ์ใหญ่



นายกฯ และ Google พร้อมทำงานร่วมกัน นำเอาเทคโนโลยีมาช่วยในระบบบริการสาธารณสุข และยกระดับรายได้ของเกษตรกรไทย ก่อนหน้านี้ได้หารือบริษัท Robert Bosch พร้อมส่งเสริมความร่วมมือกับไทย ผลิตชิ้นส่วน และระบบขับเคลื่อนสําหรับ EV รองรับตลาดรถยนต์ EV ที่กำลังเติบโตและให้สัมภาษณ์พอใจกับผลความสำเร็จจากการเข้าร่วมประชุม World Economic Forum เชื่อมั่นเกิดประโยชน์มหาศาลแก่คนไทย นำไปต่อยอดได้อีกมาก

เมื่อ(18 มกราคม 2567) เวลา 11.15 น (ตามเวลาท้องถิ่นเมืองดาวอส ซึ่งช้ากว่าไทย 6 ชั่วโมง) ณ ศูนย์ประชุม Congress Centre เมืองดาวอส สมาพันธรัฐสวิส นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง พบปะกับนางรูธ โพรัท (Ruth Porat) ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหารการลงทุน ของ Alphabet และ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการเงินของ Google

นายกรัฐมนตรีกล่าวว่าได้พูดคุยถึงการทำงานร่วมกันอย่างต่อเนื่องในการลงทุน Cloud center ของ Google ในประเทศไทย ซึ่งถือว่าเป็นทิศทางที่ดี โดยที่ Google มีความตั้งใจที่จะนำเอาเทคโนโลยีมาช่วยในระบบบริการสาธารณสุข ตลอดจนมีความตั้งใจที่จะยกระดับรายได้ของเกษตรกรไทย เพื่อให้ประชาชนทุกระดับได้รับประโยชน์จากเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่กำลังจะเข้ามา ภายใต้แนวความคิดไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง (Leave no one behind) 

บริษัท Robert Bosch พร้อมส่งเสริมความร่วมมือกับไทย 

นายเศรษฐา ทวีสิน  พบปะกับ ดร. Christian Fischer รองประธานกรรมการบริหาร (Deputy Chairman of the Board of Management) บริษัท Robert Boschบริษัทเทคโนโลยียานยนต์ชั้นนําของโลก เชี่ยวชาญด้านการขับเคลื่อน อุตสาหกรรม สินค้าอุปโภคบริโภค เทคโนโลยีพลังงานและอาคาร ดำเนินงานในกว่า 60 ประเทศทั่วโลก 

นายกรัฐมนตรีและบริษัท Robert Bosch หารือถึงการลงทุนของบริษัทฯ ในประเทศไทย ทั้งในด้านการขับเคลื่อน (automotive) และ ธุรกิจที่ไม่ใช่ด้านการขับเคลื่อน (non-automotive) ถือว่าสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจให้กับประเทศไทยเป็นอย่างมาก โดยโรงงานในประเทศไทย ถือเป็นศูนย์กลางในการผลิตของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีขนาดใหญ่ที่สุดในภูมิภาค ส่งออกไปยังประเทศอื่นๆ ในภูมิภาค รวมไปถึงญี่ปุ่นด้วย

บริษัทฯ มีความตั้งใจที่จะขยายการผลิตไปสู่การผลิตชิ้นส่วนของรถยนต์ไฟฟ้า เพื่อรองรับตลาดรถยนต์ EV โดยจะสร้างโรงงานเพิ่มในประเทศไทย ซึ่งคาดว่าจะผลิตได้เต็มศักยภาพได้ภายในปี 2026 ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้ชวนให้บริษัทฯ มาตั้งสำนักงานใหญ่ประจำภูมิภาค (Regional HQ) ในไทย โดยพร้อมจะสนับสนุนในมาตรต่างๆ 

นายกฯพอใจกับผลความสำเร็จจากการเข้าร่วมประชุม World Economic Forum 

ช่วงเช้านายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังให้สัมภาษณ์ถึงผลการหารือ WEF ยืนยันว่าได้ส่งข้อความถึงทั่วโลกว่า ประเทศไทยเปิดแล้วสำหรับทุกมิติ ทั้งการเจรจาการค้าระหว่างประเทศ การลงทุนข้ามประเทศ ซึ่งเป็นเรื่องที่รัฐบาลให้ความสำคัญ เมื่อวานนี้ (17 มกราคม 2567) ได้ประชุมเสร็จสิ้นแล้ว 19 วงประชุม แบ่งเป็นการสัมมนา การพบปะภาคเอกชนต่างๆ และทวิภาคีกับบุคคลสำคัญ ทั้งประธานาธิบดีสมาพันธรัฐสวิส นายกรัฐมนตรีเบลเยี่ยม นายกรัฐมนตรีกัมพูชา นายกรัฐมนตรีเวียดนาม โดยได้พูดคุยเรื่องการค้า และขั้นตอนอื่นๆ  ซึ่งการพูดคุยทำให้มีความชัดเจนที่จะนำไปปฏิบัติต่อไป ส่วนการพบปะกับภาคเอกชน ทั้งบริษัท COCA COLA และDubai World รวมถึงนักธุรกิจชั้นนำของโลกคนอื่นๆ  เช่น นักธุรกิจชาวอินเดีย (Adani Group) มีความเชี่ยวชาญด้านท่าเรือและสนามบิน เป็นเรื่องที่ไทยสามารถนำไปต่อยอดได้อีกมาก
นายกรัฐมนตรีกล่าวย้ำ การเดินทางมาครั้งนี้เชื่อว่าเป็นประโยชน์อย่างมหาศาล แม้ว่าการพบปะทั้ง 19 วงประชุม จะค่อนข้างแน่น แต่ไม่รู้สึกเหนื่อย รู้สึกว่ากระชับ ได้ประโยชน์ และใจความตลอด ซึ่งวันนี้ยังต้องดำเนินภารกิจต่อ และในโอกาสที่ได้พบปะหารือกับผู้บริหารของ WEF ได้แจ้งว่าการเดินทางมาประชุมในครั้งนี้เป็นประโยชน์เป็นอย่างมาก โดยในปีหน้าก็จะมาร่วมการประชุมอีก ซึ่งวันนี้จะต้องปฏิบัติภารกิจอีก 4 การประชุม ก่อนเดินทางกลับประเทศไทย