EDU Research & ESG
ผช.รมตศึกษาธิการบุกศรีสะเกษเปิดงาน 'รียนดีมีความสุขสร้างเส้นทางสู่อาชีพ'
ศรีสะเกษ-ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงศึกษาธิการ เปิดกิจกรรม “เรียนดี มีความสุข สร้างเส้นทางสู่อาชีพ” มีกำหนดจัดขึ้น 3 วัน ระหว่างวันที่ 19 - 21 มกราคม 2567 ผู้เข้าร่วมกิจกรรมเป็นนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษา โรงเรียนวัดมหาพุทธารามจำนวน 120 คน
เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 19 มกราคม 2567 ที่โรงเรียนวัดมหาพุทธาราม อำเภอเมือง จังหวัดศรีสะเกษ ดร.สิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานเปิดงานกิจกรรม “เรียนดี มีความสุข สร้างเส้นทางสู่อาชีพ” และร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ MOU ระหว่างสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน กับโรงเรียนวัดมหาพุทธาราม โรงเรียนสอนอาหารครัววันดี และโรงเรียนนวดแผนโบราณเชตวัน ในกิจกรรม “เรียนดี มีความสุข สร้างเส้นทางสู่อาชีพ” ตามโครงการเสริมสร้างทักษะและสมรรถนะที่จำเป็นสำหรับผู้เรียนในศตวรรษที่ 21 พร้อมด้วย นายมณฑล ภาคสุวรรณ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน ดร.อุดมศักดิ์ เพชรผา ศึกษาธิการจังหวัดศรีสะเกษ ดร.สุมิตรา ทองแสง ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านส่งเสริมมาตรฐานการศึกษา ดร.สิทธิพร อ่อนคำ ประธานคณะกรรมการประสานและส่งเสริมการศึกษาเอกชนจังหวัดศรีสะเกษ และ ดร.สุนทร ยุทธชนะ รักษาการผู้อำนวยการกลุ่มงานนโยบายและแผน สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมศึกษาเอกชน และคณะ ร่วมกิจกรรม โดยมี ดร.เสรี แสงลับ ผู้อำนวยการโรงเรียนวัดมหาพุทธาราม นายกสมาคมโรงเรียนเอกชนจังหวัดศรีสะเกษ เป็นผู้กล่าวต้อนรับ พร้อมนำคณะวิทยากร แขกผู้มีเกียรติ คณะผู้บริหาร คณะครู บุคลากร และนักเรียน ให้การต้อนรับ
นายมณฑล ภาคสุวรรณ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน กล่าวว่าตามที่ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (พลตำรวจเอกเพิ่มพูน ชิดชอบ ได้มีนโยบาย “ผู้เรียนเรียนรู้และมีรายได้ระหว่างเรียนจบแล้วมีงานทำ (Learn to Earn)” สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน ในฐานะหน่วยงานที่มีหน้าที่ดูแลส่งเสริมและสนับสนุนโรงเรียนเอกชน ได้นำนโยบายดังกล่าวมาขับเคลื่อนให้เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม โดยได้รับความร่วมมือจากภาคีเครือข่ายโรงเรียนเอกชนนอกระบบในการยกระดับคุณภาพการศึกษาและพัฒนาสมรรถะวิชาชีพของนักเรียนโรงเรียนเอกชนในระบบอย่างเป็นกัลยาณมิตรต่อกัน ตามแนวทางการ
ทำงาน “จับมือไว้ แล้วไปด้วยกัน” ของท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการที่กระตุ้นการมีส่วนร่วมในการพัฒนาการจัดการศึกษาของประเทศจากทุกภาคส่วนไปพร้อมกัน นั้น สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน สำนักงานศึกษาธิการจังหวัด และเครือข่ายทางการศึกษาเอกชน ร่วมกันจัดกิจกรรมในครั้งนี้ขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมให้นักเรียนมีความรู้ความสามารถทางด้านทักษะอาชีพ มีรายได้ระหว่างเรียน จบแล้วมีงานทำ เพื่อส่งเสริมการจัดการศึกษาเอกชนที่เสริมสร้างทักษะอาชีพให้กับนักเรียน สอดคล้องกับมาตรฐานด้านวิชาชีพ และสนับสนุนการสร้างพลังสร้างสรรค์หรือซอฟต์พาวเวอร์ของโรงเรียนเอกชน เพื่อเปิดโอกาสทางการศึกษาให้นักเรียนที่ผ่านการฝึกอบรม สามารถนำผลการเรียนรู้เทียบโอนจากการศึกษานอกระบบสู่การศึกษาในระบบการจัดกิจกรรมครั้งนี้ มีกำหนดจัดขึ้น 3 วัน ระหว่างวันที่ 19 - 21 มกราคม 2567 ผู้เข้าร่วมกิจกรรมเป็นนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษา โรงเรียนวัดมหาพุทธารามจำนวน 120 คน
รูปแบบกิจกรรมเป็นการฝึกอบรมให้ความรู้ บรรยาย สาธิต และให้นักเรียนลงมือฝึกปฏิบัติ จำนวน 2 หลักสูตรๆ ละ 20 ชั่วโมง ได้แก่ หลักสูตรที่ 1 หลักสูตรการประกอบอาหารไทยเบื้องต้น เนื้อหาประกอบด้วย สุขอนามัยและความปลอดภัยในงานอาหาร การจัด ตกแต่งอาหารและบรรจุภัณฑ์ การคิดต้นทุนและกำหนดราคาขาย และให้นักเรียนลงมือปฏิบัติประกอบอาหารไทย จำนวน 5 เมนู ได้แก่ ผัดไทยโบราณกะเพราถาดไข่ดาว ข้าวไรซ์เบอรี่ผัดพริกปลาป่น ขนมปังหน้าหมูและน้ำจิ้มและลาบไก่บ้าน และหลักสูตรที่ 2 หลักสูตรการนวดพื้นฐานและสมุนไพร เนื้อหาประกอบด้วย การนวดพื้นฐาน ได้แก่ การนวดคอบ่าไหล่เบื้องต้น การนวดด้วยลูกประคบ และเรียนรู้เกี่ยวกับสมุนไพรไทยสมุนไพรในท้องถิ่น และการทำผลิตภัณฑ์จากสมุนไพร ได้แก่ น้ำมันหอมระเหย สเปร์ยไล่ยุง ยาดมสมุนไพร และลูกประคบสมุนไพร นอกจากนี้ ยังมีการบริหารร่างกายด้วยท่าฤาษีดัดตน รวมถึงการแนะแนวทางการนำลูกประคบสมุนไพรต่อยอดสู่การประกอบอาชีพ โดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี จากโรงเรียนสอนอาหารครัววันดี และโรงเรียนนวดแผนโบราณเชตวัน กรุงเทพมหานคร ในการออกแบบหลักสูตรและเป็นวิทยากรฝึกอบรม ตลอดการฝึกอบรม 3 วัน นักเรียนจะได้รับความรู้ทักษะในการประกอบอาชีพ โดยมีวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิมีความรู้ความชำนาญเฉพาะด้านที่ผ่านการรับรองทางด้านมาตรฐานวิชาชีพ คอยให้คำปรึกษาและดูแลอย่างใกล้ชิด ซึ่งนักเรียนสามารถนำความรู้ไปพัฒนาต่อยอดสู่การประกอบเป็นอาชีพ มีรายได้ระหว่างเรียนประกอบเป็นอาชีพเสริมหรืออาชีพอิสระได้จริง นอกจากนี้ยังมีการจัดบูธแสดงนิทรรศการเกี่ยวกับแนวทางการส่งเสริมการมีรายได้ระหว่างเรียนจบแล้วมีงานทำของโรงเรียนเอกชนอีกด้วย.
ลักขณา กงแก้ว ผู้สื่อข่าว จ.ศรีสะเกษ // รายงาน