Authority & Harm

ทีมงานเป็นหนึ่งพานร.ชั้นม.6เหยื่อลุงเขย พบพมจ.กาญจน์ก่อนเข้าแจ้งความ



กาญจนบุรี-ทีมงาน“เป็นหนึ่ง” พา นักเรียนหญิง ม.6 เหยื่อลุงเขยหื่นกาม พบ พมจ.กาญจน์ ก่อนจะพาเข้าแจ้งความ ตร.ท่าม่วง ว่า ถูกลุงเขยข่มขืนล่วงละเมิดทางเพศ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อเวลา 12.30 น. ของวันที่ 22 ม.ค.67  “ต้นอ้อ” นางสาว ชลิดา พะละมาตย์ ประธานกลุ่มเป็นหนึ่ง ได้พา น.ส. เอ(นามสมมุติ)นักเรียนหญิง ม .6 โรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัด กาญจนบุรี ที่ร้องเรียนขอความช่วยเหลือ ทางเพจเป็นหนึ่ง ว่า "ตนถูกลุงเขยข่มขืนล่วงละเมิดทางเพศ ตอนอายุ 15 ปี  เข้าพบ นางจันทร์จิรา พัฒนศิริ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ที่สำนักงาน พม.กาญจนบุรี ศาลากลางจังหวัดกาญจนบุรี

โดยได้พาเข้าพูดคุยที่ห้องประชุม ศูนย์ประสานงานช่วยเหลือ ศาลากลางหลังเก่า โดยใช้เวลา ประมาณ 30 นาที จึงได้ข้อสรุปให้นำตัวเหยื่อผู้เสียหายเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.ท่าม่วง ท้องที่เกิดเหตุ

ต่อมา เวลา 13.30 น. ของวันเดียวกัน "ต้นอ้อ" ทีมงานเป็นหนึ่ง พร้อมนักสังคมสงเคราะห์ นักจิตวิทยาประจำศูนย์ช่วยเหลือประชาชน และพมจ.กาญจนบุรี ได้พา น.ส.เอ เดินทางไปที่ สภ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรีเพื่อเข้าแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษต่อ ร.ต.อ.ศุภกร พานิชย์เจริญ รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.ท่าม่วง

โดยทางพนักงานสอบสวนได้ทำการบันทึกปากคำเบื้องต้นไว้เป็นหลักฐาน ที่ห้องสอบสวน ศปก.สภ.ท่าม่วง โดยทำการสอยปากคำพร้อมสหวิชาชีพ 

ซึ่งเบื้องต้น น.ส.เอ ผู้เสียหายได้นำหลักฐานคลิปภาพ คลิปเสียง และข้อความที่มีการสนทนากับลุงเขย มาเป็นพยานวัตถุ แสดงต่อเจ้าพนักงานสอบสวน โดยการช่วยเหลือในครั้งนี้ “ต้นอ้อ” นางสาว ชลิดา พะละมาตย์ ประธานกลุ่มเป็นหนึ่ง เปิดเผยว่า " ข้อความจากผู้เสียหาย สวัสดีค่ะพี่อ้อ หนูขอเล่าเรื่องคร่าวๆให้พี่ฟังนะคะ คือตั้งแต่จำความได้เขาก็เริ่มที่จะจับเนื้อต้องตัวหนูเเล้วค่ะพี่อ้อ เเต่ยังไม่ทำอะไรมากมายเป็นแบบนี้มาตลอดเกือบทุกวัน วันไหนที่หนูขัดขืนก็จะโดนทำร้ายร่างกายบ้างค่ะ โดนตบโดนตี แต่พอหนูอยู่ช่วง ม.3 กำลังจะขึ้นม.4 เป็นครั้งแรก เขาทำสำเร็จค่ะ เพราะตอนนั้นหนูพยายามสู้ แต่สู้แรงเขาไม่ได้

เขาล็อคแขนล็อคขาหนูไว้ พอทำเสร็จแล้วเขาก็บอกว่าถ้าพลาดท้อง เขาจะโยนความผิดให้กับคนที่หนูจะคบหาในเวลานั้น  พอหลังจากนั้นเขาก็เริ่มจะทำอีก แต่รอบหลังเหมือนเขาจะวางใจมาตลอดว่า ทำได้ครั้งนึงเเล้ว ครั้งต่อไปก็คงจะทำได้ เขาไม่ล็อคขาหนูค่ะ ล็อคแต่เเขน หนูเลยดิ้นๆ แล้วก็ถีบเขาออกแล้วหนูก็วิ่งหนีไปนั่งข้างนอกบ้านบ้าง บางทีก็หลบที่ห้องน้ำค่ะ พอเขาเรียกหนูก็จะให้เหตุผลว่า หนูท้องเสีย 

เรื่องนี้หนูเคยบอกป้า ป้ารับรู้มาตลอด แต่ไม่ทำอะไร แค่ต่อว่าลุงเขย แล้วก็ปล่อยเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น และเมื่อต้นเทอมหนึ่ง ของ ม.6 หนูได้แจ้งทางครูที่ปรึกษา แล้วครูที่ปรึกษาก็พาไปคุยกับครูฝ่ายปกครอง มีการให้ไปเยี่ยมบ้านตามโครงการฯเพื่อมาดูลาดเลาค่ะ หลังจากนั้นเรื่องก็เงียบๆไป จนมาวันนี้ หนูทนอยู่กับการถูกคุกคามทางเพศของลุงเขยต่อไปไม่ไหวแล้ว อยากให้กฎหมายลงโทษเขา หนูมีคลิปล่าสุด ที่เขาเข้ามาลวนลามหนูค่ะ ถ่ายไว้วันที่ 20/1/67โดยในคลิปมันมีการพูดคุยกันก่อนหน้านี้  ก็คือคำว่า ไม่เข้าค่ะ ก่อนหน้านี้เขาบอกให้หนูเปิดเข้าเฟสจะเช็คโทรศัพท์หนู หนูก็เลยบอกไม่เข้าเเล้วก็โวยวายนิดหน่อยแบบในคลิปที่พี่อ้อเห็นค่ะ  หลังจากนั้นก็ตามคลิปเลยค่ะ

ต่อมาเวลา 14.00 น.ของวันที่ 22 มกราคม 2567 หลังจากที่กลุ่มเป็นหนึ่งพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้พา น.ส.เอ(นามสมมุติ) เด็กหญิงผู้เสียหายเข้าแจ้งความตำรวจต่อพนักงานสอบสวน สภ.ท่าม่วง  จากนั้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนพร้อมด้วยกลุ่มเป็นหนึ่ง ได้เดินทางลงพื้นที่ไปยังบ้านของลุงเขยที่ก่อเหตุข่มขืนล่วงละเมิดทางเพศหลานภรรยาตัวเอง ในพื้นที่บ้านหนองเสือ ตำบลวังศาลา อำเภอท่าม่วง จังหวัดกาญจนบุรี 

เมื่อเดินทางไปถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการเชิญตัวลุงเขยไปให้ปากคำที่โรงพัก โดยทางผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามลุงเขยหื่นกามรายนี้ว่า ได้ข่มขื่นลวนลามหลานสาวภรรยาตัวเองจริงหรือไม่ โดยทางลุงเขยปฏิเสธว่าไม่ได้ทำ และจะไปให้ปากคำที่โรงพักเท่านั้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้คุมตัวลุงเขยขึ้นรถ เพื่อมาสอบปากคำที่ สภ.ท่าม่วง

ด้านนายสมภพ จิตต์นิยม ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 9 ต.วังศาลา ให้ข้อมูลว่า ตนเองก็เพิ่งทราบเรื่องนี้เหมือนกันว่าลุงเขยรายนี้ข่มขืนลวนลามหลานสาวตัวเอง ซึ่งตนเองก็ตกใจมาก โดยปกติแล้วลูกเขยก็เป็นคนไม่ค่อยพูด มีอาชีพทำงานรับเหมาก่อสร้าง อาศัยอยู่กับเมียและมีลูกด้วยกัน 2 คน ส่วนเรื่องอื่นๆ ตนก็ไม่ทราบเช่นกัน

ผู้สื่อข่าวรายงานต่อว่าเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจและทีมงานกลุ่มเป็นหนึ่งคุมตัวลุงเขยหื่นกามรายนี้มาถึงโรงพักทางกลุ่มทีมงานเป็นหนึ่งได้เข้าไปพูดคุยกับทางลุงเขย และถามว่าทำไมถึงได้กระทำการลวนลามหลานสาวตัวเองเช่นนั้น ซึ่งทางลูกเขยก็ปฏิเสธอยู่ว่า ไม่ได้ทำ แต่เมื่อทางกลุ่มเป็นหนึ่งเอาคลิปมาให้ดูลุงเขยหื่นกามรายนี้ ถึงกลับพูดไม่ออกได้แต่นิ่งไป และบอกที่ทำไปเป็นเพราะรักหลานเหมือนลูกแท้ๆ

ทางด้าน นางสาวชลิดา พะละมาตย์ (ต้นอ้อ) ประธานกลุ่มเป็นหนึ่ง เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า " หลังจากได้รับเรื่องที่น้องลงเพจขอความช่วยเหลือมา หลังจากนั้นก็ได้มีการพูดคุยกับน้อง ซึ่งตัวน้องเองก็มีหลักฐานเป็นคลิปวิดีโอ และคลิปเสียง ที่ลุงเขยลวนลาม อีกทั้งน้องยังถูกลุงเขยล่วงละเมิทางเพศมาโดยตลอดและถูกล่วงละเมิดทางเพศจนสำเร็จอีก 1 ครั้ง ซึ่งป้าแท้ๆ ก็รับรู้เรื่องราวที่เกิดขึ้นมาโดยตลอด  แต่ก็ไม่คิดจะช่วยน้อง จนน้องได้รวบรวมความกล้าแล้วออกมาร้องขอความช่วยเหลือกับทางกลุ่มเป็นหนึ่ง หลังรับเรื่องทางกลุ่มเป็นหนึ่งก็ได้ประสานทางเจ้าหน้าที่และลงพื้นที่ช่วยเหลือในวันนี้"

นางสาวชลิดา ยังกล่าวต่อว่า น้องผู้เสียหายนั้น ยังถูกลุงเขยข่มขู่ด้วยว่า ถ้าไปแจ้งความตำรวจ ก็ไปแจ้งได้เลย เพราะว่าตนเองรู้จักและสนิทกับเจ้าหน้าที่ตำรวจหมดทั้งจังหวัดกาญจนบุรี  สำหรับคลิปที่น้องถ่ายไว้ นี่ก็เป็นหลักฐานที่สำคัญที่จะใช้มัดตัวลุงเขยหื่นกามรายนี้ ซึ่งก่อนหน้านี้ ลุงเขยก็ปฏิเสธว่าไม่ได้ทำ ที่ทำไปเพราะรักหลานเหมือนลูก แต่เมื่อเห็นคลิปแล้วถึงกับหน้าซีดเผือด พูดอะไรไม่ออก เพราะจำนนต่อหลักฐาน เพราะสิ่งที่ทำลงไปเป็นการกระทำแบบชู้สาว 

หลังจากนี้ก็คงจะเป็นหน้าที่ของทางเจ้าหน้าที่ พมจ.กาญจนบุรี ซึ่งจะนำตัวน้องไปดูแล เพราะว่าน้องใกล้จะเรียนจบแล้ว ในส่วนของคดี ก็ให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการตามกฎหมายต่อไป