In News

รัฐฯเดินหน้านโยบายต่างประเทศยุคใหม่ เร่งFTAเปิดประตูรับการค้าและการลงทุน



กรุงเทพฯ-รัฐบาลเดินหน้าขับเคลื่อนนโยบายต่างประเทศสู่ยุคใหม่ วางเป้าหมายชัดเจน เปิดประตูรับการค้าและการลงทุน เร่งเจรจา FTA เพิ่มเติม พร้อมเพิ่มอิทธิพลหนังสือเดินทางไทย

วันนี้ (26 มกราคม 2567) นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง วางกลยุทธ์ขับเคลื่อนนโยบายต่างประเทศไทยสู่ยุคใหม่ ผ่านการทำงานเชิงรุก และวางเป้าหมายชัดเจน โดยยึดผลประโยชน์ของประเทศและประชาชนเป็นที่ตั้ง 

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่าในช่วง 4 เดือนของการทำงานที่ผ่านมา รัฐบาลเดินหน้าเปิดประตูการค้าและการลงทุน พร้อมเร่งเจรจาข้อตกลงการค้าเสรี (FTA) เพิ่มเติมอีก 12 ฉบับ รวมถึงเพิ่มอิทธิพลให้หนังสือเดินทางไทย และอำนวยความสะดวกการเดินทางผ่านการยกเว้นวีซ่า (Visa Free) โดยเชื่อมั่นว่า การดำเนินการในเชิงรุกของรัฐบาลนี้ จะเป็นส่วนสำคัญเพิ่มโอกาสทางเศรษฐกิจของประเทศ พร้อมสนับสนุนบทบาทของไทยในเวทีโลกมากขึ้น

กระทรวงการต่างประเทศ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของรัฐบาลเร่งขับเคลื่อนการต่างประเทศไทยสู่ยุคใหม่ ผ่านบทบาทใหม่ของไทยในการมีจุดยืนที่เป็นกลาง แต่มีเป้าหมายที่ชัดเจน เพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับความท้าทายใหม่ โดยในช่วง 4 เดือนที่ผ่านมา รัฐบาลได้ดำเนินการด้านการต่างประเทศ ดังนี้

1) การเปิดประตูการค้าและการลงทุน โดยมีเป้าหมายในการเพิ่มปริมาณการค้า พร้อมทั้งผลักดันให้ภาคธุรกิจไทยไปลงทุนในต่างประเทศเพื่อนำเงินกลับเข้าประเทศ

2) การขยายโอกาสทางธุรกิจ ซึ่งในช่วง 4 เดือนที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรีเดินทางไปต่างประเทศประมาณ 10 ประเทศ และได้พาภาคธุรกิจไทยไปพบกับภาคธุรกิจต่างประเทศเพื่อขยายโอกาสให้ธุรกิจไทย ผ่านการจับคู่เจรจาธุรกิจ (Business Matching) โดยรัฐบาลเป็นผู้อำนวยความสะดวก (Facilitator) เพื่อเสริมสร้างพลังให้ภาคเอกชนสร้างโอกาสให้กับประเทศ

3) การเร่งเจรจาบรรลุข้อตกลงการค้าเสรี (FTA) เพิ่มเติมอีก 12 ฉบับ (ปัจจุบันไทยมี FTA ทั้งหมด 14 ฉบับ) โดยเร่งทำ FTA กับสหภาพยุโรป (EU) ให้สำเร็จภายใน 18 เดือน 

4) การเพิ่มอิทธิพลให้หนังสือเดินทางไทย และอำนวยความสะดวกในการเดินทาง โดยนายกรัฐมนตรีผลักดันการเจรจายกเว้นวีซ่าเชงเก้น (Schengen) ของสหภาพยุโรป และเริ่มเจรจากับสหราชอาณาจักร รวมถึงมีนโยบายยกเว้นวีซ่า (Visa Free) ให้กับคาซัคสถาน ไต้หวัน อินเดีย และเจรจายกเว้นวีซ่าถาวรระหว่างไทยกับจีน ซึ่งจะเริ่มใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2567 เป็นต้นไป นอกจากนี้ มีการยกเว้นวีซ่านักธุรกิจญี่ปุ่นเป็นเวลา 30 วัน และเร่งให้วีซ่าระยะยาว เพื่อดึงดูดผู้มีทักษะสูงให้เข้ามาทำงานในไทย

“นายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญต่อการขับเคลื่อนนโยบายต่างประเทศสู่ยุคใหม่ ให้เป็นการต่างประเทศที่คนไทยสามารถจับต้องได้ ส่งผลประโยชน์ถึงประชาชน โดย 4 เดือนที่ผ่านมา รัฐบาลเดินหน้าเชิงรุกส่งเสริมการค้าและการลงทุนกับต่างประเทศ พร้อมเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันผ่านการเร่งเจรจา FTA เพิ่มเติม ตลอดจนอำนวยความสะดวกในการเดินทางผ่านการยกเว้นวีซ่า โดยนายกรัฐมนตรีเห็นถึงประโยชน์และศักยภาพ และใช้ทุกโอกาสอย่างคุ้มค่า เพื่อเศรษฐกิจของไทย และประชาชนไทย เชื่อมั่นว่าจะเป็นอีกแนวทางที่สนับสนุนให้เศรษฐกิจของไทยเติบโต ประชาชนอยู่ดีกินดี” นายชัย กล่าว