Authority & Harm

ตำรวจภูเก็ตแจงคลิปบนโซเชียลชี้พบพิรุธ ด่านท่าฉัตรไชยจึงตรวจค้นอย่างละเอียด



'ตร.ภูเก็ต'เเจงคลิปบนโลกโซเชี่ยล 'ด่านท่าฉัตรไชย'ค้นละเอียดยิบ เนื่องจากพบพิรุธ เหตุเฟสบุ๊กชื่อ “เกรียงไกร ไทยอ่อน “ได้มีการเผยแพร่คลิปเหตุการณ์การตรวจค้นของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ปฎิบัติหน้าที่ประจำด่านตรวจภูเก็ต

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในสื่อสังคมออนไลน์เพจ เฟสบุ๊กชื่อ “เกรียงไกร ไทยอ่อน “ได้มีการเผยแพร่คลิปเหตุการณ์การตรวจค้นของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ปฎิบัติหน้าที่ประจำด่านตรวจภูเก็ต โดยตั้งชื่อคลิปว่า “ด่านตรวจท่าฉัตรไชยภูเก็ต จับแก้ผ้า ค้นละเอียดยิบ”โดยมีการแสดงความเห็นและแชร์ต่อเป็นจำนวนมาก


ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อเวลาประมาณ 09.00 น.วันที่ 10 ต.ค.63 ที่ด่านตรวจท่าฉัตรไชย หรือด่านตรวจภูเก็ต ต.ไม้ขาว อ.ถลาง พ.ต.อ.ปริญญา ตันฑสุวรรณ ผกก.สภ.ท่าฉัตรไชย พร้อมด้วย พ.ต.ท.วัชรินทร์ จิรัฐิติกาลวิวัฒน์ รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.ท่าฉัตรไชย พ.ต.ท.วรวิทย์ เจริญศุภผล รอง ผกก.ป.สภ.ท่าฉัตรไชย พ.ต.ต.ปรีชา คงชู สวป.สภ.ท่าฉัตรไชย และเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานประจำด่านตรว ร่วมแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนเพื่อชี้แจงกรณีดังกล่าว โดยพ.ต.อ.ปริญญา ระบุว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 15.10 น. เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2563 ที่ผ่านมา ในขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ปฎิบัติหน้าที่ ได้มีรถยนต์เก๋งสีเขียวอ่อนทะเบียน กจ 6875 ภูเก็ต มุ่งหน้าเข้าจังหวัดภูเก็ต ระหว่างที่รถยนต์คันดังกล่าวกำลังขับเข้ามาบริเวณด่านตรวจ ส.ต.อ. กิตติศักดิ์ คำนกขุ้ม ผบ.หมู่(ป) ได้สังเกตุเห็นรถยนต์คันดังกล่าวมีการติดฟิล์มกระจกสีดำทึบรอบคันและได้ลดกระจกฝั่งคนขับเพียงครึ่งเดียว ทำให้ไม่สามารถมองเห็นพฤติการณ์ของผู้ขับขี่และบุคคลภายในรถยนต์ได้ชัดเจน จึงได้เรียกหยุดรถลดกระจกลงพร้อมพูดคุยสอบถาม ซึ่งจากการสอบถามผู้ขับขี่มีท่าทางลุกลี้ลุกลน และขณะพูดคุยพยายามหลบตาพร้อมแสดงท่าทางเหมือนกำลังซุกซ่อนอะไรบางอย่าง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เรียกให้นำรถเข้าช่องทางด้านขวาบริเวณจุดตรวจค้นยานพาหนะพร้อมกับเชิญลงจากรถเพื่อขออนุญาตทำการตรวจค้น ซึ่งก่อนทำการตรวจค้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แสดงความบริสุทธิ์ใจ ให้ดูก่อนขอตรวจค้น


ทั้งนี้ ในขณะตรวจค้นผู้ถูกตรวจค้นได้อ้างว่ารู้จักกับเจ้าหน้าที่ตำรวจและจะโทรศัพท์ให้คุยกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่รู้จักพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ทำการตรวจค้น ทำให้เพิ่มความน่าสงสัยมากขึ้น จึงได้เชิญตัวไปตรวจค้นในห้องน้ำภายในตัวอาคารด่านตรวจภูเก็ต ผู้ถูกตรวจค้นได้นำโทรศัพท์มือถือขึ้นมาเพื่อบันทึกภาพวิดีโอระหว่างทำการค้น ซึ่งปรากฏตามคลิปวิดีโอที่เผยแพร่ในสื่อสังคมออนไลน์ หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ขอทำการตรวจค้นผู้โดยสารชายที่โดยสารมาด้วยกันก็ไม่ให้ความร่วมมือในการตรวจค้น โดยการเดินหนีและด่าทอการปฎิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ทำการตรวจค้นยานพาหนะ ผลการตรวจค้นไม่พบสิ่งผิดกฏหมายแต่อย่างใดจึงได้อธิบายเหตุแห่งการตรวจค้นและได้แจ้งให้ทราบว่า


1.จุดตรวจภูเก็ตเป็นด่านตรวจถาวรบนทางหลวงหมายเลข 402 ซึ่งได้รับการอนุมัติจัดตั้งโดยอธิบดีกรมทางหลวง ตามหนังสือกรมทางหลวงที่ คค 0611/1302 ลงวันที่ 20 มกราคม 2551 ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อป้องกันและปรับปรามอัชญากรรมทุกรูปแบบ ตลอดจนสร้างความปลอดภัยให้กับประชาชนและนักท่องเที่ยวจึงไม่เป็นการขัดต่อนโยบายผบ.ตร.
2.การปฏิบัติของตำรวจเกิดจากความสงสัยในพฤติกรรมของผู้ขับขี่และผู้โดยสาร
3.การเชิญเข้าไปตรวจค้นภายในห้องน้ำด่านตรวจเป็นสถานที่มิดชิดมิได้เป็นสาธารณะแต่อย่างใดและเป็นห้องไว้สำหรับการตรวจค้นผู้ต้องสงสัยเป็นการปกติอยู่แล้ว สำหรับการตรวจค้นจึงจำเป็นต้องค้นให้ละเอียด เนื่องจากผู้กระทำผิดกฎหมายมีวิธีซุกซ่อนสิ่งผิดกฎหมายหลากหลายรูปแบบ
4. การที่เจ้าหน้าที่ตำรวจให้ถ่ายคลิปขณะตรวจค้นเป็นการแสดงความบริสุทธิ์ใจโดยปราศจากอคติแต่อย่างใด ผู้ถูกตรวจค้นเข้าใจเป็นอย่างดีแม้ช่วงแรกจะมีปัญหาไม่เข้าใจกันบ้างหลังเสร็จจากการตรวจค้นรถยนต์คันดังกล่าวไม่สามารถติดเครื่องยนต์ได้ (แบตเตอรี่หมด) เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดตรวจค้นได้ทำการช่วยเหลือโดยการพ่วงแบตเตอรี่รถยนต์ให้จนสามารถติดเครื่องยนต์ได้และได้กล่าวขอบคุณการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจช่วงเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ความช่วยเหลือ และขณะนั้นยังมีการถ่ายคลิปและเอ่ยชมเชยเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าตำรวจช่วยเหลือประชาชนในขณะที่เจ้าหน้าที่ผู้ตรวจค้นไม่ได้มีการถ่ายคลิปไว้แต่อย่างใด สุดท้ายก็มีการเผยแพร่คลิปเหตุการณ์ช่วงแรกในกรณีดังกล่าว

ทั้งนี้ พ.ต.อ.ปริญญา กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับมาตรฐานการตรวจค้นรถด่านตรวจท่าฉัตรไชย(SOPs) นั้น ระบุไว้ว่า
1.เมื่อรถเข้ามาในพื้นที่ด่านตรวจ จะต้องชะลอความเร็วรถ เปิดกระจก ยื่นมือมาที่เครื่องสแกนเพื่อเปิดไม้กั้นอัจฉริยะ โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจคอยช่วยเหลือและชี้แนะ ณ จุดสังเกตการณ์
2.ในขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ยืน ณ จุดสังเกตการณ์จะเป็นผู้คัดกรองรถต้องสงสัยหรือบุคคลในกรณีมีพิรุธเข้าสู่พื้นที่ตรวจค้น
3.เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ยืนอยู่ ณ จุดตรวจค้นจะดำเนินการตรวจค้นทั้งรถและตัวบุคคลโดยใช้หลักและยุทธวิธีตำรวจ
4.กรณีผู้ที่ไม่ยินยอมหรือขัดขืนในการตรวจค้น จะเชิญมายังห้องตรวจค้นโดยค้นให้ละเอียดในห้องที่ได้จัดไว้แล้วสำหรับการตรวจค้น มีพิรุธหรือต้องสงสัยมากกว่าปกติ
5.หากไม่พบสิ่งของผิดกฎหมายเจ้าหน้าที่จะขอภัยผู้ที่ถูกตรวจค้นและชี้แจงเหตุในการตรวจค้นเพื่อให้เข้าใจการปฎิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ
อย่างไรก็ตาม “สำหรับที่ผ่านมามีความพยายามลักลอบนำเข้ายาเสพติดและสิ่งของผิดกฏหมายมายังจังหวัดภูเก็ตเป็นจำนวนมาก เจ้าหน้าที่จึงต้องมีความเข้มข้นในการตรวจสอบ เพื่อสกัดกั้นการกระทำความผิดและจับกุมผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีตามกฏหมาย”พ.ต.อ.ปริญญากล่าว