In Thailand

'สว.โต'ชวนส่งความรัก'ฟักทองช่วยชาติ' ต้อนรับเทศกาลวันวาเลนไทน์ในก.พ.นี้



ปราจีนบุรี-เรื่องดีดีทั่วไทย  - สว. โต หรือ สุรเดช ...ส่งความรักด้วย “ฟักทอง”ช่วยชาติ… ในห้วงแห่งเทศกาลวาเลนไทน์นี้  พร้อมชวนกันปลูกทั่วไทย ทำอาหารได้มากมาย ทั้งของคาว –หวาน- เครื่องดื่ม -ต้มกินเล่น ๆ -อาหารว่าง และอาหารลดน้ำหนัก  ให้หันมาปลูกไว้กินเองทั้งที่บ้าน เชิงพาณิชย์ เพื่อความสวยงาม หรือ เป็นงานอดิเรก  

วันนี้ 3 ก.พ.67  นายมานิตย์  สนับบุญ ผู้สื่อข่าว จ.ปราจีนบุรีรายงานว่า  ช่วงก่อนเทศกาล วันแห่งความรักนี้  พบเรื่องราวดีดี  มีการโพสต์-แชร์คลิป โดยผู้ใช้ในโลกโซเชี่ยล  โดย ดร. สุรเดช หรือ “สว.โต” จิรัฐิติเจริญ ขวัญใจคนประจันตคาม  เลขานุการคณะกรรมาธิการ กมธ. การเทคโนโลยีสารสนเทศ การสื่อสาร และการโทรคมนาคมวุฒิสภา , กรรมาธิการ กมธ. การคมนาคม วุฒิสภา   (TikTok – Suradet https://vt.tiktok.com/ZSFesx49f/ )  ได้โพสต์คลิป ...  การมอบฟักทอง  ให้แก่คนที่เรารักช่วงวันแห่งความรักนี้  ....  
 
โดยในคลิป ดร. สุรเดช หรือ สว.โต จิรัฐิติเจริญ  ได้โชว์คลิปภาพ  กองผลผลิตฟักทองกองใหญ่ พืชผักสวนครัวที่ทำการปลูกเองภายในสวนทุเรียนพันธุ์หมอนทอง เนื้อที่กว่า 32 ไร่ รวม 8,000 ต้น  ที่ปลูกได้ง่าย เจริญเติบโตดีในดินทุกชนิดปลูกกันได้ดีทั่วประเทศไทยเป็นผักสวนครัวพื้นบ้านที่คนต่างรู้จักและคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี  

มีการใช้ฟักทองในการทำอาหารมากมาย ทั้งของคาว ของหวาน และเครื่องดื่ม หรือจะต้มกินเล่น ๆ เป็นอาหารว่าง อาหารลดน้ำหนัก   มีคนนิยมหันมาปลูกฟักทองไว้กินเอง  ทั้งที่บ้าน ปลูกฟักทองกันอย่างแพร่หลายในเชิงพาณิชย์ ใช้เป็นอาหาร เพื่อความสวยงาม และปลูกเพื่อเป็นงานอดิเรก  และโดยเฉพาะ การมอบฟักทองให้แก่คนที่เรารัก... ห้วงแห่งวันแห่งความรักนี้.... 

ดร. สุรเดช หรือ สว.โต ได้กล่าวเล่าในคลิปว่า ...วันนี้ตนเองอยู่ที่บ้าน  กับกองฟักทองที่เก็บจากผลผลิตแล้วจำนวนกว่า 500 ลูก  เป็นฟักทองพันธุ์พื้นเมืองที่มีรสสมบูรณ์แบบ  และ มีคุณค่าทางอาหารสูงมาก  ทั้งเรื่องการลดคอเลสเตอรอลบางอย่างในการสร้างสุขภาพที่ดี  ทั้งลดไขมัน  มีค่าสายใยอาหารคุณค่ามากมาย 

อยากมอบให้แก่คนที่เรารักมากมาย   แต่  ไม่ทราบว่า คนที่เรารักนั้นต้องการขนาดไหนเพราะบางคนเองที่ไม่สามารถทำครัวได้  ก็ไม่ต้องการ แต่คนต้องการนั้นก็สามารถจำหน่ายได้   ก็จำหน่ายในราคากิโลกรัมละ 20บาท   โดยในท้องตลาดขายในราคา 40 บาท   เป็นเพียงแค่การช่วยค่าแรง ค่าปุ๋ย ค่าเม็ดพันธุ์เท่านั้น     

โดยฟักทองนั้นทำได้หลายเมนู อาทิ  ฟักทองผัดไข่ ,ฟักทองแกงบวช , ฟักทองย่าง, ฟักทองนึ่ง, ฟักทองน้ำผึ้ง  ฟักทองน้ำเชื่อม,ซุปฟักทอง หรือ น้ำฟักทอง ฯลฯ ในลูกเดียวทำได้หลายอย่าง     ลูกหนึ่งเก็บได้หลายสัปดาห์  ใครสนใจติดต่อ  หรือ แอดไลน์หรือโทร.มาได้   มอบแก่คนที่เรารัก และ  ทุกคน …  ดร. สุรเดช หรือ สว.โตกล่าว

ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ ไปที่สวนปลูก “ฟักทอง” ใกล้ถนนสายสุวรรณศร (ประจันตคาม – กบินทร์บุรี) หรือ สาย 33 ต.คำโตนด อ.ประจันตคาม จ.ปราจีนบุรี ด้านหลังศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัยเขต 2 ปราจีนบุรี  ในอดีตเป็นพื้นที่บ่อลูกรังเก่า พื้นที่เดิมเคยปลูกมันสำปะหลัง โดยได้ปรับเนื้อที่ใช้ปลูกฟักทอง พร้อม ๆ ไม้ผลหลัก เนื้อที่ มากกว่า 32 ไร่   

แต่ในขณะนี้เขียวขจีเต็มไปด้วยไม้ผลหลักของสวน ได้แก่ ทุเรียนพันธุ์หมอนทอง  รวมมากกว่า 8,000 ต้น  ,ไม้ยืนต้น ตลอดจนพันธุ์พืชอื่น ๆ นานาพรรณ    โดยเฉพาะ  “ฟักทอง” ที่ทาง ดร. สุรเดช หรือ สว.โต จิรัฐิติเจริญ ชวนมอบให้คนที่รัก-เชิญชวนมาปลูกกันทั่วไทย เพื่ออาหาร – หากเหลือกิน ยังสามารถสร้างรายได้ครัวเรือนในการพึ่งพาตนเอง 

ดร. สุรเดช หรือ สว.โต   กล่าวด้วยใบหน้ายิ้มแย้มเป็นกันเองในวันหยุดสบาย ๆ นี้  ว่า    “ เมืองไทยมีความอุดมสมบูรณ์  สามารถปลูกอะไรก็ได้ โดยเฉพาะลักษณ์หลักผลไม้เลื่องชื่อของ จ.ปราจีนบุรี  ผลไม้หลัก คือปลูกทุเรียนโดยเฉพาะพันธุ์หมอนทอง  

ตนเองจึงมีแนวคิดปลูก ...ฟักทองช่วยชาติ...  โดยขอใข้สื่อสารให้เป็นตัวอย่างแก่พี่น้อง  นับจากเบื้องต้นทำการปลูกทุเรียนพันธ์หมอนทองในเชิงพาณิชย์ที่ได้ผลกำไรจากการจัดจำหน่าย หรือ คุ้มทุนมากกว่าสินค้าเกษตรอื่นที่ทำ หรือ ทำไปพร้อม ๆ กัน  เริ่มจากได้ทำการปลูกทุเรียนพันธุ์หมอนทองเอกลักษณ์เมืองปราจีนบุรี  รวมกว่า 8,000 ต้น  เป็นรูปธรรมขึ้น

โดยก่อนปลูกได้ศึกษาปราชญ์พื้นบ้าน  ทราบว่าทุเรียนชอบน้ำไม่ชอบแฉะ พร้อม ๆ กับทำการปลูกพืชอื่นผสมผสานเป็นพืชหมุนเวียนปกคลุมดิน ให้เป็นสวนเกษตรผสมผสานหลากหลายทั้งไม้ผล ไม้ยืนต้น พืชผักสวนครัว ในการพึ่งพาตนเองตามแนวปรัชญาเกษตรทฤษฎีใหม่นำมาใช้ยังชีพ หรือ พึ่งพาตนเองและครอบครัวได้ 

โดยในการทำเป็นสวนผสมผสาน มีพื้นที่เป็นบ่อลูกรังเก่า – ไร่มันสำปะหลังในอดีต มีแหล่งน้ำจากบ่อลูกรังที่ขุด  รวมถึงพืชมีหลากหลายทั้งไม้ผล พืชปกคลุมดิน ทั้งพืชสวนครัว พร้อมปลูกหมุนเวียนใช้ประโยชน์ได้   

อาทิ ฟักทอง ได้ลองปลูกเป็นพืชรอบๆต้นทุเรียน  พบว่าสามารถปลูกอะไร ก็ได้ ที่ไหนๆ ก็สามารถปลูกได้  ขึ้นอยู่กับ ปุ๋ย  , น้ำเพียงพอ   โดยในการปลูกนั้นใช้แบบเกษตรอินทรีย์  ไม่ใช้ปุ๋ยเคมี เป็นปุ๋ยหลักจำพวกปุ๋ยคอก  อาทิ  ขี้ไก่ ขี้วัวฟาง หมักไว้ 2 เดือนก่อน จึงนำมาใช้  ถ้าใช้เลย  ปุ๋ยมันจะเป็นเชื้อรา พร้อม ๆ  กับรดน้ำวันหนึ่ง 3 เวลา  ช่วงเช้า สาย บ่าย  ครั้งละ 5 นาที ผ่านระบบให้น้ำสปริงเกอร์ในการควบคุม แก่พืชพรรณที่ปลูก รวมถึง  ฟักทองด้วย   

ส่วน  ทุเรียนที่ปลูก ระหว่ารอการให้ผลผลิตประมาณ 4 ปี   แต่มีบางส่วนได้เก็บเกี่ยว เก็บลูกได้แล้ว  ได้ปลูกฟักทองให้ความชุ่มชื้นคลุมดินรอบ ๆ ต้นทุเรียนไว้พร้อม ๆ การให้ผลผลิต    

โดยฟักทองที่ปลูก  ที่ทำการประชาสัมพันธ์   แนะนำผ่านโลกโซเชี่ยล เป็นฟักทองพันธุ์ศรีเมือง พื้นที่การปลูก ไม่เยอะ เฉพาะในพื้นที่สวนตรงนี้ 32 ไร่   ในการรอเวลาให้ต้นทุเรียนโต และพร้อมกับได้มี การปลูกไม้เสริม  

การปลูกไม้เสริมฟักทองนั้น ได้ทำการปลูก  เริ่มจากทำการขุดหลุมปลูกรายรอบต้นพันธุ์ทุเรียน  ระยะห่างระหว่างหลุม ห่างกัน  4 เมตร ปลูกรายรอบต้นทุเรียนแต่ละต้นใน  4 มุม   ทำการหยอดเม็ดฟักทอง หลุม ละ 1 เม็ด กระจายทั่วสวนปกคลุมดิน”  ดร. สุรเดช หรือ สว.โต   กล่าว

และ  ยังกล่าวต่อไปว่า   ตนเองนั้น   ดั้งเดิมตนเองและครอบครัว  ไม่เคยทำด้านการเกษตร แต่พบเห็นว่า   โดยที่ว่าเมืองไทยมีความอุดมสมบูรณ์สามารถปลูกพืชอะไรก็ได้   จึงได้หันมาทำการเกษตรกรรมเป็นแบบ-หรือแนะแนวทางเพื่อให้ประชาชน ใช้พื้นที่ทุกตารางนิ้วที่มีอยู่ของตนเอง  ไม่ให้ว่างเปล่า  ทำการสร้างอาหารด้วยตนเองในการประหยัด-ปลอดภัยไม่ต้องซื้อหาในตลาด ปลูกให้ครบ เป็นลดรายจ่ายครัวเรือน   หากผลผลิตเหลือ ยังสามารถขาย-สร้างรายได้  ตามแนวเศรษฐกิจพอเพียงของพ่อหลวง

ฟักทอง  ที่ตนเองปลูก  เมื่อได้ผลผลิตส่วนใหญ่แล้ว  จะนำไปแจกเพื่อนให้ลองชิม หรือ ตามวาระต่าง ๆ ที่สำคัญ  หรือในช่วงเทศกาลแห่งความรักนี้  มอบให้แก่คนที่เรารักเคารพ   ซึ่งประโยชน์ทางโภชนาการ ฟักทองมีคุณค่าอาหารสูง  และเก็บได้นาน 

สำหรับดินในการปลูกฟักทอง  ต้องร่วนซุย   รดน้ำวันละวัน 5 นาที 3 เวลา   อายุฟักทอง ตั้งแต่เริ่มปลูก ถึงเก็บเกี่ยว รวมประมาณ 90 วัน   ผลผลิตที่ได้ในสวนของตนเอง ประมาณ พันกว่ากิโลเมตร 

ถ้าจะซื้อสนใจ ที่สวนกิโลกรัมละ 20 บาท  เท่านั้น    นอกจากฟักทองยังปลูกไม้เสริมอย่างอื่น  เช่น  มันหวาน, มะนาว , ฝรั่ง , มะละกอ, ส้มโอ , มันเทศ ตะไคร้ ผักสวนครัว ปัจจุบันนั้นไม่ต้องซื้อผักกิน ลดรายจ่ายได้มาก

ตนเองขอเป็นกำลังใจให้เกษตรกร หากทำการปลูกผลผลิตต่าง ๆ  ต้องดูว่าตลาดว่า  ต้องการอะไร   เช่น  ทุเรียนนั้น ตลาดมีทั้งในและต่างประเทศทั่วโลก  ความต้องการตลาดสูง   การทำการเกษตรทุกอย่าง   ต้องใส่ใจ และ  ต้องมีความรู้กับมัน

พร้อมกล่าวเพิ่มเติมว่า  ตนเองปลูกทุเรียนเป็นไม้ผลหลักในสวน  ที่มีเนื้อที่  รวมทั้งหมด 700 ไร่  รวมจำนวน  8,000 ต้น   และ   ขณะนี้  กำลังจะไปปลูกใหม่อีก 200 ไร่  จำนวน   5,000 ต้น   ทั้งหมดเป็นการทำการเกษตรเกษตรอินทรีย์ ใช้ปุ๋ยหมักขี้ไก่กับขี้วัวฟางหมักไว้ประมาณ 2 เดือนจึงนำมาใช้    ลองก้นหลุมแล้วทยอยใส่ไปเรื่อยๆ ถ้านำมาใช้เลยมันจะเป็นเชื้อรา 

ด้านพันธุ์ฟักทองที่ปลูก ตามที่กล่าวข้างต้นคือ  พันธุ์ศรีเมือง ปลูกบนเนื้อที่ประมาณ 32 ไร่  พร้อมปลูกไปกับปลูกทุเรียนที่เป็นไม้หลัก 800 กว่าต้น  ใช้เวลา 4 -5  ปีที่ผ่านมา   เมื่อมีดิน มีปุ๋ย ช่วงการรอเวลาทุเรียนที่ ยังไม่ได้เก็บเกี่ยว  ก็ปลูกไม้เสริม อาทิ  ฟักทองดังกล่าว  ที่ปลูกแซมรายรอบต้นทุเรียน  ทุเรียน 1 ต้น ปลูกฟักทองรอบ ๆ  4 มุม  จำนวน 4 หลุมๆ ละ 1 เม็ด 

ตนเองนั้น   เดิมทีไม่เคยทำเกษตรมาก่อน มีแนวคิดเพื่ออยากบอกพี่น้องประชาชน ... เห็นว่าเมืองไทย อุดมสมบูรณ์ อากาศก็ดี น้ำดี  ปลูกทุเรียน พืชพรรณ พืชสวนครัวอื่น ๆ เช่น  ฟักทอง  นั้นแล้ว  นำมาเป็นอาหารในครอบครัว - สร้างรายได้ ทำให้ดิน ชุ่มชื้น พร้อม ๆ ทำการปลูกพืชปกคลุมดิน สามารถทำให้มีรายได้ ด้วย   พร้อมกับยังทำให้ทุเรียน เจริญงอกงาม 

โดย ฟักทองในสวน  โตไปด้วยพร้อม ๆ กัน  มีคุณภาพ รสชาติมันอร่อย ทำอาหารได้หลาย อย่างทั้งคาวและหวานมีคุณค่าทางอาหารสูง  ชื่อก็เป็นมงคล เก็บเกี่ยวได้เป็นระยะเวลา 1 เดือน  สามารถทยอยเก็บรักษาได้มีประโยชน์อยากให้ประชาชนหันมาบริโภคส่งเสริมการปลูก  ดร. สุรเดช หรือ สว.โต   กล่าวในที่สุด

มานิตย์  สนับบุญ /ณัฐนันท์(ดาว) – ภาพ / ปราจีนบุรี