In News
นายกฯได้แถลงสรุปผลการเยือนศรีลังกา ตอบ'เงินดิจิทัล-กางเกงช้างจีน-ม็อบฯ'
กรุงเทพฯ-นายกฯ เผยผลเดินทางศรีลังกา การค้า การลงทุน การท่องเที่ยว พลังงาน และการประมง บอกถึงคนที่รอเงินโครงการ Digital Wallet รัฐบาลจะทำให้ดีที่สุด นายกฯ เผยกางเกงช้างจีน บุกตลาดไทย เป็นเรื่องการฉกฉวยโอกาสทางการค้า ถือเป็นบทเรียน ต้องทำงานรวดเร็ว ปกป้องผลประโยชน์ของชาติ ส่วนการนัดชุมนุนประท้วง ยังไม่ทราบเรื่องม็อบนัดชุมนุมทำเนียบฯ 5 ก.พ ยืนยันพร้อมรับฟังปัญหา
นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเปิดเผยว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังให้สัมภาษณ์ภายหลังเดินทางกลับจากประเทศศรีลังกาว่า การเดินทางเยือนศรีลังกาครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรก และได้มีโอกาสคุยกับภาคเอกชนและภาครัฐบาลได้พูดคุยกันถึงประเด็นเกี่ยวกับความร่วมมือทั้งการลงทุนและการท่องเที่ยวซึ่งต้องมีการประสานการทำงานร่วมกันต่อไป ข้อความหลักที่นายกไปนำเสนอคือ ประเทศไทยเปิดแล้วพร้อมรับการลงทุนและการท่องเที่ยว นำเสนอศักยภาพของเอกชนไทย ปตท. มีศักยภาพสูง ซึ่งจากการหารือกับ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ภาคส่วนด้านพลังงานของศรีลังกา มีความต้องการพลังงานสะอาดสนใจที่จะเรียนรู้เทคโนโลยีของไทย
ซึ่งในโอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีกล่าวถึงไฟล์ทบินระหว่างกัน ที่กลับมาเปิดดำเนินการอีกครั้งในวันที่ 31 มีนาคมนี้ และ ส่วนของการประมงที่ศรีลังกามีทรัพยากรทางน้ำมาก แต่ต้องการเทคโนโลยี และเทคนิคจากไทย ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้กระทรวงการต่างประเทศติดตามดูแลต่อไป
โดยนายกรัฐมนตรีได้ตอบคำถามสื่อมวลชน ถึงกรณีไฟไหม้ที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ว่าต้องให้ ฝ่ายพิสูจน์หลักฐานแจ้งผลการพิสูจน์ก่อน และกล่าวถึงเรื่อง Digital Wallet ประชาชนที่รอความคืบหน้าของนโยบายนี้ยืนยันว่ารัฐบาลจะทำให้ดีที่สุด ทำให้ถูกต้อง และพร้อมจะปรับปรุงให้เป็นไปตามความถูกต้องแต่ขณะนี้ต้องรอ ป.ป.ช.
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังให้สัมภาษณ์ถึงกรณีกลุ่มแอมเนสตี้อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย กลุ่มพีมูฟ และเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศ (คปท.) นัดมาชุมนุมที่ทำเนียบรัฐบาลในวันที่ 5 ก.พ.นี้ โดยบางกลุ่มมาเรียกร้องเรื่องนิรโทษกรรมว่า ยังไม่ทราบเรื่อง คงต้องไปสอบถามพูดคุยดูก่อน แต่หน้าที่ของเราคือรับฟังว่ามีปัญหาอะไร
ผู้สื่อข่าวถามว่า จะมอบหมายให้ใครไปประสานกับกลุ่มมวลชนต่างๆ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ยังไม่ได้มอบหมาย เพราะยังไม่ทราบว่าจะมีม็อบมา จึงยังไม่สามารถมอบหมายได้ และต้องดูก่อนว่าเป็นเรื่องอะไรจะได้มอบหมายได้ถูกต้อง
นายกฯยังให้สัมภาษณ์ ถึงกรณีที่ประเทศจีนผลิตกางเกงช้างและขณะนี้กำลังตีตลาดกางเกงช้างของประเทศไทยว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องของการค้า และความจริงแล้วเป็นเรื่องของความรวดเร็วทางการค้า คือที่ไหนมีโอกาสก็ต้องเร่งฉกฉวยโอกาส ตนเองคิดว่าต้องเร่งดูเรื่องลิขสิทธิ์ และความรวดเร็วในการฉกฉวยโอกาสทำการค้า ถ้าเราไม่ทำก็จะมีคนเอาไปทำก่อน เรื่องนี้ถือเป็นบทเรียนอย่างหนึ่งที่เราจะต้องไปพูดคุยกัน
ผู้สื่อข่าวถามว่า ไทยจำเป็นต้องวางแผนและเพิ่มฐานการผลิตให้มากกว่านี้หรือไม่
นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า จะต้องแก้ไขปัญหาที่รากฐานก่อนดีกว่า ว่าเราเข้าใจวิธีทำการตลาดหรือไม่ และเรามีการปกป้องลิขสิทธิ์ด้วยหรือไม่ อย่างที่บอกว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ในการทำการค้า หรือธุรกิจ ตรงไหนมีโอกาส ก็จะมีผู้ที่ฉกฉวยโอกาสตรงนั้น แต่ถ้าเกิดช้าก็จะเสียโอกาสนั้นไป เหมือนหลายเรื่องที่เราอาจจะช้า ทำให้ไม่ทันการณ์ ดังนั้น จำเป็นจะต้องเร่งในหลายๆ เรื่อง เช่น เรื่อง ฟรีวีซ่า การยกระดับพาสปอร์ตของไทย เราก็เป็นผู้นำในการทำเรื่องดังกล่าว เป็นการฉวยโอกาสดึงนักท่องเที่ยวเข้ามาในประเทศไทยได้จำนวนมากในขณะนี้ และยังมีหลายเรื่องที่เราจะต้องทำต่อไป เช่น เรื่องของการท่องเที่ยวที่เราจะต้องถูกฉวยโอกาสให้เรากลายเป็นผู้นำในภูมิภาคนี้
“เรื่องกางเกงช้างแม้จะเป็นเรื่องเล็กๆ แต่ก็เป็นการสะท้อนให้เห็นถึงการทำงานในภาพใหญ่ ว่าการทำงานต้องมีความว่องไว คิดให้เร็วทำให้เร็วและต้องปกป้องผลประโยชน์ของประเทศชาติอย่างสูงสุด” นายกรัฐมนตรี กล่าว