In Bangkok

กทม.สั่งเตรียมพร้อมดูแลความปลอดภัย เฝ้าระวังอัคคีภัยช่วงเทศกาลตรุษจีนปี67



กรุงเทพฯ-นายสุนทร สุนทรชาติ ผู้อำนวยการสำนักอนามัย (สนอ.) กทม.กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมมาตรการดูแลความปลอดภัยพื้นที่จัดงานเทศกาลตรุษจีนเยาวราช ประจำปี 2567 ว่า สนอ.ได้มีหนังสือขอความร่วมมือจากสำนักงานเขต 50 เขต จัดกิจกรรมรณรงค์ลดควันธูป การเผากระดาษ ในศาลเจ้าช่วงเทศกาลตรุษจีน เผยแพร่สื่อประชาสัมพันธ์ถึงอันตรายจากควันธูป รวมถึงให้คำแนะนำการบริหารจัดการเพื่อลดมลพิษจากการจุดธูปให้แก่สำนักงานเขต เพื่อจัดกิจกรรมรณรงค์ให้ความรู้แก่เจ้าหน้าที่ผู้ดูแลศาสนสถาน หรือผู้ที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนประชาชนในการบริหารจัดการเพื่อลดมลพิษจากการจุดธูปในศาลเจ้าช่วงเทศกาลตรุษจีน ขณะเดียวกันได้กำหนดจัดกิจกรรมรณรงค์ลดควันธูปการเผากระดาษในศาลเจ้าช่วงเทศกาลตรุษจีน พร้อมมอบหน้ากากอนามัยป้องกันฝุ่นละอองให้แก่ประชาชนที่มาสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เพื่อป้องกันและดูแลสุขภาพอนามัยของตนเองในวันที่ 6 ก.พ.67 ณ ศาลเจ้าไต้ฮงกง (มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง) และศาลเจ้าหลีตี้เมี้ยว เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย และในวันที่ 9 ก.พ.67 ณ ศาลเจ้าพ่อเสือ เขตพระนคร

นอกจากนัั้น สนอ.ได้ประสานความร่วมมือสำนักงานเขตคลองสามวา สำนักงานเขตบางคอแหลม สถานีดับเพลิงและกู้ภัยพื้นที่ และตำรวจชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด (EOD) กองบัญชาการตำรวจนครบาล ตรวจสอบสถานประกอบกิจการผลิต สะสม ขนส่งดอกไม้เพลิง หรือสารเคมีอันเป็นส่วนประกอบในการผลิตดอกไม้เพลิงที่ได้รับใบอนุญาตตามข้อบัญญัติ กทม.เรื่อง กิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ พ.ศ.2561 จำนวน 2 แห่ง ได้แก่ บริษัท ซาฟารีเวิลด์ จำกัด (มหาชน) เขตคลองสามวา และบริษัท หะรินพาณิชย์ จำกัด เขตบางคอแหลม เพื่อดูแลปกป้องสุขภาพอนามัย ป้องกันอุบัติเหตุ ตลอดจนสร้างเสริมความปลอดภัยให้แก่ประชาชน

ทั้งนี้ กทม.ได้พัฒนาฐานข้อมูลดิจิทัลพื้นที่จุดเสี่ยงภัย (BKK Risk Map) ตามนโยบายของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ซึ่งมีสำนักการวางผังและพัฒนาเมือง (สวพ.) เป็นหน่วยงานรับผิดชอบหลักและ สนอ.เป็นหน่วยงานสนับสนุน โดย สนอ.ได้จัดส่งข้อมูลสถานประกอบกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพที่มีการจัดเก็บ การผลิต การสะสม การบรรจุ การขนส่ง

 และการใช้สารเคมีและวัตถุอันตรายให้ สวพ.ลงระบบฐานข้อมูลดิจิทัลพื้นที่จุดเสี่ยงภัย (BKK Risk Map) ในส่วนของแผนที่เสี่ยงภัยสารเคมี ประกอบด้วยข้อมูลสถานประกอบกิจการที่เกี่ยวข้องกับสารเคมีและวัตถุอันตราย 544 แห่ง และอยู่ระหว่างนำส่งข้อมูลสถานประกอบการดังกล่าวเพิ่มอีก 4,313 แห่ง ข้อมูลร้านจำหน่ายก๊าซหุงต้ม 384 แห่ง ข้อมูลสถานประกอบการสะสมพลุ ดอกไม้เพลิง 7 แห่ง และข้อมูลสถานประกอบการที่มีความเสี่ยงภัยด้านสารเคมีและวัตถุอันตรายระดับสูง 40 แห่ง

นายสุริยชัย รวิวรรณ รองผู้อำนวยการสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (สปภ.) รักษาราชการแทนผู้อำนวยการสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กทม.กล่าวว่า ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้อนุมัติแผนปฏิบัติการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยในช่วงเทศกาลตรุษจีนของ กทม.ประจำปี 2567 เพื่อเป็นกรอบแนวทางการดำเนินการให้หน่วยงานสังกัด กทม.ที่เกี่ยวข้องถือปฏิบัติ ทั้งในช่วงก่อนเทศกาล ช่วงเทศกาล และช่วงหลังเทศกาล ขณะเดียวกันได้มีประกาศ กทม.เรื่อง การป้องกันอัคคีภัยในช่วงเทศกาลตรุษจีน ประจำปี 2567 เพื่อขอความร่วมมือศาสนาสถานและประชาชนในการใช้ธูปเทียนไฟฟ้าแทนการจุดธูปบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และขอให้งด หรือลดการเผากระดาษเงินกระดาษทอง เพื่อป้องกันและลดปัญหาฝุ่น PM2.5 รวมถึงการจุดประทัดต้องจุดในที่โล่ง และไม่ปล่อยบุตรหลานจุดประทัด หรืออยู่ใกล้สถานที่จุดประทัดโดยไม่มีผู้ดูแล เป็นต้น ส่วนสถานประกอบการขอให้ตรวจสอบระบบป้องกันอัคคีภัย สัญญาณเตือนภัย และถังดับเพลิงให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งานตลอดเวลา

นอกจากนั้น สปภ.ได้จัดเจ้าหน้าที่พร้อมรถดับเพลิงและกู้ภัยประจำจุดเฝ้าระวังอัคคีภัยในช่วงเทศกาลตรุษจีน จำนวน 41 จุด โดยเฉพาะบริเวณที่มีชาวไทยเชื้อสายจีนพักอาศัยหนาแน่นและมีความเสี่ยงต่อการเกิดเหตุอัคคีภัย รวมทั้งจัดชุดปฏิบัติการพิเศษและกู้ภัยทางน้ำเฝ้าระวังสถานที่ที่เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติภัยทางน้ำในช่วงเทศกาลตรุษจีน โดยเฉพาะบริเวณริมน้ำ โป๊ะเรือ ท่าเรือโดยสารที่เป็นจุดเสี่ยงอันตราย พร้อมจัดเจ้าหน้าที่ดับเพลิงและกู้ภัยตรวจให้คำแนะนำความปลอดภัยและวิธีป้องกันและระงับอัคคีภัยเบื้องต้นให้กับผู้ดูแลศาลเจ้าและชุมชนแออัดที่มีความเสี่ยง เพื่อสร้างความตระหนักและความร่วมมือของประชาชนในการเพิ่มความระมัดระวังและป้องกันอันตรายจากอัคคีภัย รวมถึงอุบัติภัยต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นในช่วงเทศกาลตรุษจีน ประจำปี 2567 ทั้งนี้ ประชาชนที่ประสบเหตุเพลิงไหม้ หรือเหตุสาธารณภัยอื่น ๆ สามารถขอความช่วยเหลือมาทางโทรศัพท์สายด่วน 199 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

นายสุรเดช อำนวยสาร รองผู้อำนวยการสำนักเทศกิจ (สนท.) รักษาราชการแทนผู้อำนวยการสำนักเทศกิจ กทม.กล่าวว่า สนท.ได้เตรียมความพร้อมแผนปฏิบัติการป้องกันและระงับเหตุอัคคีภัย รวมทั้งอุบัติภัยต่าง ๆ ในช่วงเทศกาลตรุษจีน โดยร่วมกับฝ่ายเทศกิจสำนักงานเขตบูรณาการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย สำนักการแพทย์ กองบัญชาการตำรวจนครบาล สถานีตำรวจนครบาลท้องที่ อาสาสมัคร เป็นต้น จัดเจ้าหน้าที่เทศกิจตรวจตราดูแลความปลอดภัยและความเรียบร้อย พร้อมประชาสัมพันธ์ เฝ้าระวังบริเวณบ้านเรือนประชาชนและสถานที่จัดงานในด้านความปลอดภัยและการเกิดอัคคีภัยจากการจุดธูปเทียนบูชา เซ่นไหว้ เผากระดาษเงิน กระดาษทอง และการจุดประทัดตามสถานที่ต่าง ๆ ทั้งนี้ การจัดงานเทศกาลในสถานที่สำคัญ ๆ เช่น เยาวราช สนท.และสำนักงานเขตสัมพันธวงศ์ได้ร่วมกันจัดกำลังเจ้าหน้าที่เทศกิจดูแลความเรียบร้อย ความปลอดภัย อำนวยการจราจร การจัดระเบียบพื้นที่และการตั้งวางสินค้าตลอดการจัดงาน และพื้นที่จัดงานอื่น ๆ จะมีแนวทางดำเนินการในลักษณะเดียวกัน

นายไทภัทร ธนสมบัติกุล ผู้อำนวยการสำนักการจราจรและขนส่ง (สจส.) กทม.กล่าวว่า สจส.ได้ประสานความร่วมมือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอำนวยความสะดวกการเดินทางในช่วงเทศกาลตรุษจีน โดยจัดรถ “BMA Feeder” ซึ่งเป็นรถ EV Shutter Bus ขนาด 20 ที่นั่งให้บริการเดินรถเวียน รับ-ส่งประชาชน ฟรี (จำนวน 4 คัน ออกเดินรถทุก ๆ 30 นาที) ช่วงวันที่ 10 - 12 ก.พ.67 ตั้งแต่เวลา 12.00 - 23.00 น.ระหว่างพื้นที่ย่านเยาวราชกับย่านถนนข้าวสาร โดยมีเส้นทางเดินรถ BMA Feeder (ขาไป) จากถนนเยาวราช มุ่งหน้าถนนมหาไชย แยกซ้ายไปซอยสำราญราษฎร์เข้าสู่ถนนศิริพงษ์ผ่านเสาชิงช้า และแยกขวาไปตามถนนดินสอ มุ่งหน้าถนนพระสุเมรุ ถนนบวรนิเวศน์ มุ่งสู่ย่านข้าวสาร จากนั้น (ขากลับ) รถจะวิ่งไปตามถนนราชดำเนินนอกเข้าสู่ถนนดินสอ ผ่านเสาชิงช้า ไปยังถนนศิริพงษ์ ไปถึงแยกสามยอดและแยกซ้ายไปตามถนนเจริญกรุง ถนนผดุงด้าว A  มุ่งหน้าไปยังถนนเยาวราช โดยมีจุดจอดรถรับส่ง 9 ป้าย ดังนี้ ป้ายเฉลิมบุรี ป้ายตลาดเก่าเยาวราช ป้ายหน้าอาคาร Mega Plaza สะพานเหล็ก (คลองโอ่งอ่าง) ป้ายศาลาว่าการ กทม. (ถนนดินสอ) ทั้งขาไปและกลับ ป้ายวัดบวรนิเวศวิหาร (ใกล้ถนนข้าวสาร) ป้ายก่อนถึงอนุสวรีย์ประชาธิปไตย (ระหว่างแยกคอกวัวและอนุสวรีย์ฯ) ป้ายโรงเรียนเบญจมราชาลัย (ใกล้เสาชิงช้า) ป้ายสถานีรถไฟฟ้าสามยอด และป้ายแอมไชน่าทาวน์

ขณะเดียวกันได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิด (CCTV) ที่อยู่ในพื้นที่เยาวราชและบริเวณโดยรอบให้สามารถใช้งานได้ปกติ เพื่อติดตามดูแลความเรียบร้อยและความปลอดภัยของประชาชนในพื้นที่จัดงานอย่างใกล้ชิดตลอดเวลา หากประชาชนมีเหตุจำเป็นสามารถขอดูภาพที่บันทึกไว้ย้อนหลังได้ (ไม่เกิน 14 วัน) โดยไปลงบันทึกประจำวัน เพื่อแจ้งความขอดูภาพ ณ สถานีตำรวจ และเข้าดูภาพได้ที่เพจ cctv.bangkok.go.th หรือแอปพลิเคชันไลน์ @CCTVBANGKOK