Authority & Harm

รถโดยสารกรุงเทพ-พัทยาขนส่งต่างชาติ เสยท้ายพ่วง18ล้อพลิกคว่ำเจ็บ22 



ฉะเชิงเทรา-ทัวร์โดยสาร สายกรุงเทพฯ-พัทยา ขนต่างชาติมาเกือบเต็มคันรถ เสยท้ายรถพ่วง 18 ล้อบรรทุกน้ำมันพืชเก็บกว่า 20 ราย โชคดีไม่มีใครได้รับอันตรายสาหัส ทำการจราจรบนถนนมอเตอร์เวย์ สาย 7 ช่วงก่อนถึง กม.ที่ 38 ติดหนึบยาวไกลเกือบ 10 กม. ขณะ จนท.เร่งเคลียร์พื้นที่ยกรถที่คว่ำกีดขวางเส้นทางการสัญจรออกจากพื้นผิวการจราจร

วันที่ 5 ก.พ.67 เวลา 13.30 น. พ.ต.ท.โสภณ โกมลสุทธิ์ รอง ผกก. (สอบสวน) ส.ทล.1 กก.8 บก.ทล. (หน่วยทางหลวงอ่อนนุช) ได้รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุ รถทัวร์โดยสารสาย กรุงเพทฯ-พัทยา พุ่งชนท้ายรถพ่วงบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ 18 ล้อ ที่บริเวณหลัก กม.ที่ 37+600 บนถนนมอเตอร์เวย์สาย 7 ฝั่งขาออกมุ่งหน้า จ.ชลบุรี ทำให้มีผู้โดยสารซึ่งส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติได้รับบาดเจ็บจำนวนหลายราย จึงเดินทางไปสอบสวนยังในทีเกิดเหตุ

ที่เกิดเหตุเป็นพื้นที่ใกล้แนวเขตรอยต่อระหว่าง ม.2 ต.คลองนิยมยาตรา อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ กับพื้นที่ ม.3 ต.พิมพา อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา พบรถกึ่งพ่วงบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ขนาด 18 ล้อ ยี่ห้อ UD หมายเลขทะเบียนหัวลาก 74-0255 กทม. ส่วนหมายเลขทะเบียนหางพ่วงฉีกขาดไม่สมบูรณ์ นอนล้มตะแคงข้างขวางลำปิดถนนสายมอเตอร์ฝั่งขาออกเกือบทุกเส้นทาง เหลือเพียงช่องทางด้านขวาสุดเพียง 1 ช่องทางเท่านั้น ที่รถสามารถขับผ่านไปได้ จากทั้งหทด 4 ช่องจราจร 

มีน้ำมันพืชที่บรรทุกมาไหลนองลงมาบนพื้นถนน จากตู้คอนเทนเนอร์ที่อยู่ในสภาพบุบที่ด้านบนจนปูดออกมาจากโครงสร้าง มีนายชัยณรงค์ พูลแสง อายุ 32 ปี ชาว ต.หัวทุ่ง อ.ลอง จ.แพร่ เป็นคนขับ ได้รับบาดเจ็บที่ขาขวาจนต้องเดินโขยก ขณะที่รถบัสโดยสารคันสีฟ้าคาดขาว หมายเลขทะเบียน 10-2677 ชลบุรี เลขข้างรถ ป1 48-25 ได้ไถลเลยไปไกลถึงกว่า 400 ม. โดยไปจอดอยุดนิ่งที่บริเวณแนวรั้วกั้นเกาะกลางถนน ก่อนที่จะมีรถพ่วงบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์อีกคัน ได้เข้ามาช่วยลากออกไปจากบริเวณกลางเส้นทาง เนื่องจากมีรถที่ขับมาตามเส้นทางใช้ความเร็วและอันตราย

ก่อนนำไปจอดแอบไว้ที่ช่องทางด้านซ้ายสุดเพื่อให้ผู้โดยสารลงมาจากตัวรถที่พังเสียหายยับเยิน สภาพด้านหน้าของตัวรถ มีรอยพุ่งชนจนเป็นหลุมหักมุมคล้ายกับเหลี่ยมของขอบตู้คอนเทนเนอร์ ที่ข้างตัวรถด้านซ้ายมีรอยครูดยาวเป็นทางไปตลอดแนว สอบถาม นายเกรียงศักดิ์ ขันอาสา อายุ 46 ปี ชาว ต.โนนแดง อ.บรบือ จ.มหาสารคาม คนขับรถบัสโดยสาร กล่าวว่า ขณะเกิดเหตุตนขับมาบนเลนที่ 2 จากซ้ายสุด แต่จำเหตุการณ์ไม่ได้ 

มาทราบอีกครั้งว่าตัวรถได้พุ่งชนที่ด้านท้ายของรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์แล้ว ก่อนที่ขาด้านขวาของตนจะถูกหนีบติดอยู่กับคันเร่ง จนทำให้ไม่สามารถที่จะหยุดรถได้ และตัวรถยังคงวิ่งไปข้างหน้าและเหวี่ยงพุ่งชนครูดไปตามแนวรั้วกันขอบทางด้านซ้ายของถนนมอเตอร์เวย์ จนล้มพังเป็นแนบยาวถึงกว่า 20 เมตร ก่อนที่จะหมุนเบี่ยงออกไปทางด้านขวา โดยตนไม่สามารถหยุดรถได้จนตัวรถได้ไปพุ่งชนเข้ากับแนวรั้วกั้นกลางถนนและติดคาอยู่กับที่ ยอมรับว่าหยุดรถไม่ได้ คล้ายกับเมื่อเราพยายามที่จะหยุด ตัวรถก็ยิ่งวิ่งเร็วขึ้นจาก 70 ขึ้นไป 80 กม.ต่อ ชม. แต่โชตดีที่ผู้โดยสารที่นั่งมาบนรถจากสถานีขนส่งหมอชิต จำนวน 38 คนไม่มีใครเป็นอะไรมาก โดยส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ นายเกรียงศักดิ์ กล่าว 

 

ด้าน นายชัยณรงค์ กล่าวว่า ตนได้ขับรถเดินทางไปรับน้ำมันพืชใช้แล้วมาจากคลอง 4 อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี เพื่อที่จะนำไปส่งยังที่ท่าเทียบเรือแหลมฉบัง เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุตนกำลังขับมาตามเส้นทางอยู่บนช่อทางที่ 2 จากด้านซ้ายสุด ก่อนที่จะได้ยินเสียงการพุ่งชนและตัวรถได้เสียหลักหมุนหลายตลบก่อนที่จะพลิกคว่ำลงบนพื้นถนน นายชัยณรงค์ กล่าว

พ.ต.ท.โสภณ กล่าวว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนประมาณ 22 ราย เป็นชาวต่างชาติ 10 ราย เป็นคนไทย 12 ราย ซึ่งส่วนใหญ่ได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย สำหรับสาเหตุทราบจากคนขับรถดดยสารว่ามีปัญที่ระบบเบรคที่ไม่สามารถหยุดรถได้ พ.ต.ท.โสภณ กล่าว

สนทะนาพร อินจันทร์/ฉะเชิงเทรา