In News

ก.ยุติธรรมเดินหน้าปราบปรามยาเสพติด บูรณาการทุกภาคส่วนเป็นวาระแห่งชาติ



กรุงเทพฯ-“เกณิกา” เผย กระทรวงยุติธรรม เดินหน้าปราบปรามยาเสพติด ตามนโยบายวาระแห่งชาติของรัฐบาล ชี้ บูรณาการทุกภาคส่วน เป็นพลังสำคัญแก้ปัญหายาเสพติด

วันที่ 7 ก.พ. 67 น.ส.เกณิกา อุ่นจิตร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า กระทรวงยุติธรรม นำโดย พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้ติดตามการดำเนินงานด้านการป้องกัน ปราบปราม และแก้ไขปัญหายาเสพติดที่ถือเป็นวาระแห่งชาติ โดยรัฐบาลภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรี นายเศรษฐา ทวีสิน ได้ให้ความสำคัญและเน้นย้ำขอให้ทุกภาคส่วน เอาจริงเอาจัง ในการช่วยเหลือลูกหลานให้พ้นจากยาเสพติดให้ได้ โดยต้องดำเนินการอย่างจริงจังและเด็ดขาด

น.ส.เกณิกา กล่าวต่อว่า กระทรวงยุติธรรมได้ตั้งเป้าหมายในการจัดการยาเสพติดโดยต้องเริ่มที่แหล่งต้นตอ ซึ่งมีการลักลอบนำเข้าตามแนวชายแดน การจับกุมยึดทรัพย์เครือข่ายกลุ่มนักค้า การจัดการเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้อง การแก้ไขปัญหาด้านจิตเวชจากยาเสพติด และการจัดการแหล่ง แพร่ระบาดในหมู่บ้านและชุมชน การเปลี่ยนผู้เสพเป็นผู้ป่วย ให้เข้ารับการบำบัดรักษา และการป้องกันในกลุ่มต่าง ๆ  ทุกระดับ

ทั้งนี้ การดำเนินการต่อปัญหายาเสพติดในระดับกระทรวง กรม สำนักงาน ป.ป.ส. ได้มีการบูรณาการร่วม 27 หน่วยงาน เช่น กระทรวงมหาดไทย กระทรวงกลาโหม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงยุติธรรม สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน และกรมสรรพากร เป็นต้น เข้ามาร่วมอย่างจริงจัง ในส่วนพื้นที่ ให้มีการจัดตั้งกลไกการอำนวยการและขับเคลื่อนในพื้นที่ระดับจังหวัด มี 5 ภาคีร่วม ได้แก่ ผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด ฝ่ายทหาร กอ.รมน.จังหวัด และนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด เป็นกลไกในการดำเนินการ

น.ส.เกณิกา กล่าวต่ออีกว่า รัฐบาลได้กำหนดแผนปฏิบัติการ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายภายใต้นโยบายและแผนระดับชาติว่าด้วยการป้องกัน ปราบปราม และแก้ไขปัญหายาเสพติด ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ซึ่งได้กำหนดเป้าหมายของแผนปฏิบัติ ไว้ใน 4 ลด คือ 1. ลดความรุนแรงจากภาวะทางจิตเวชในสังคม 2. ลดผู้เสพ/ผู้ติด 3. ลดการค้ายาเสพติดที่แพร่ระบาดในหมู่บ้าน/ชุมชน และ 4. ลดปัจจัยเสี่ยงที่ส่งผลต่อการแพร่ระบาดยาเสพติด

“นโยบายของรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้ความสำคัญในการใช้กลไกชุมชน เป็นฐาน สร้างความเข้มแข็งและการมีส่วนร่วมของชุมชนในการแก้ไขปัญหายาเสพติด และให้ผู้ว่าราชการจังหวัดบูรณาการร่วมกับหน่วยงานภาคีภายในจังหวัด จัดการแก้ไขปัญหายาเสพติดในพื้นที่จังหวัดแบบเบ็ดเสร็จ”