Authority & Harm
สุดเวทนา!7ชีวิตคลุกฝุ่นอยู่เพิงพักโทรมๆ ลูกต้องหยุดเรียน/ขอจยย.ขับหาเลี้ยงชีพ
กระบี่-สุดเวทนา ครอบครัวยากจนอาศัยอยู่อย่างแออัดในเพิงพักเก่าๆพ่อแม่ลูก รวม7 ชีวิต ในพื้นที่ห้วยน้ำขาว อ.คลองท่อม จ.กระบี่ แม้จะมีอาชีพรับจ้างแต่รายได้ไม่พอจ่าย ลูกชายคนโตอายุ7ขวบ ไม่ได้ไปโรงเรียนนานเกือบปีเพราะไม่มีรถไปส่ง เผยอยากได้รถมอเตอร์ไซค์สัก1คัน ไว้ออกไปทำงาน
วันที่ 12 ก.พ. 67ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปตรวจสอบที่เพิงพัก ใกล้บ้านเลขที่ 16 ม.1 บ้านห้วยน้ำขาว ต.ห้วยน้ำขาว อ.คลองท่อม จ.กระบี่ หลังรับทราบว่า มีครอบครัวสองสามีภรรยาคือนายโยธิน สูทอก อายุ49ปี และนางสาวจินดา น้ำขาว อายุ 38 ปี มีฐานะยากจน อาศัยอยู่อย่างแออัด 7 ชีวิตประกอบด้วย พ่อแม่และลูกๆอีก 5 คน คนโตอายุ7 ขวบ คนสุดท้องเด็กเด็กหญิงอายุ 3 เดือนเศษ จากการตรวจสอบสถานที่พักครอบครัวนี้ พบว่าเป็นเพิงพักเก่า ปูพื้นไม้ ยกสูงจากพื้นประมาณ50 เซ็นติเมตร สภาพทรุดโทรม ความกว้างประมาณ 2 เมตร ยาว4 เมตร หลังคามุงกระเบื้องและสังกะสี ด้านข้างกันด้วยเศษไวนิล เศษผ้ายาง และเศษเมทัลชีท ไม่มีประตู หน้าต่าง เวลากลางคืนก็จะใช้ผ้ายางมาปิดไว้ ภายในเพิงพักไม่มีเครื่องใช้ไฟฟ้า มีเพียงหลอดไฟ1 ดวง ที่พ่วงมาจากบ้านข้างๆ และมีก้อนอิฐ 3 ก้อนไว้ก่อไฟหุงข้าว ปรุงอาหาร โดยใช้น้ำบ่อข้างๆบ้านญาติตักใส่ถังแล้วหิ้วมาใช้หุงต้มที่บ้าน และใช้ดื่ม ส่วนห้องส้วมก็ไม่มี ต้องใช้จอบขุดหลุมฝังกลบในป่าข้างบ้าน ชาวบ้านเห็นแล้วรู้สึกสงสารเด็กๆในครอบครัวดังกล่าว ก็แวะเวียนมาเยี่ยมและให้ความช่วยเหลือเป็นครั้งคราว
จากการสอบถามนายโยธิน หัวหน้าครอบครัว ทราบว่า ได้อาศัยอยู่กับภรรยา ที่เพิงพักดังกล่าวมานานกว่า 7 ปี แล้ว โดยมาสร้างเพิงพัก ติดกับบ้านแม่ของตน ประกอบอาชีพรับจ้างทั่วไป วันไหนได้งานก็จะมีรายได้เฉลี่ย 150-300 บาทต่อวัน ซึ่งบางวันก็พอค่าใช้จ่าย บางวันก็ไม่พอ เพราะต้องซื้อนมผง ซื้อแพมเพิทให้ลูกคนเล็กด้วย เวลาไปทำงานบางวันต้องเดินไปบ้าง โบกรถบ้าง เนื่องจากตนละภรรยาไม่มีรถมอเตอร์ไซค์ โทรศัพท์ก็ไม่มี เวลาลูกไม่สบายก็ต้องออกไปขอความช่วยเหลือชาวบ้าน ยืมรถญาติๆเพื่อหาลูกไปหาหมอ
ขณะที่นางสาวจินดา ภรรยา กล่าวว่า ตนอยู่บ้านดูแลลูกๆ หากวันไหนมีเพื่อนบ้านมาช่วยดูลูกให้ก็จะออกไปหาหอยขม หรือเก็บผลปาล์มร่วงตามโคนต้นที่ชาวบ้านอนุญาตให้เก็บ เพื่อเอามาขายเอาเงินมาจุนเจือครอบครัว แต่บางวันก็ไม่มีรายได้เลย เพราะต้องเฝ้าดูแลลูกๆ ส่วนอาหารการกินก็ไม่ถึงกับว่าอดมื้อกินมื้อ ก็ยังพอทนอยู่ได้ ถารู้จักประหยัด และตอนนี้ลูกชายคนโตอายุ7 ขวบเรียนอยู่ชั้นป.1 แต่ไม่ได้ไปโรงเรียนมาเกือบปีแล้ว เพราะไม่มีรถไปส่ง และอีกอย่างไม่มีเงินไปโรงเรียน
นางสาวจินดา กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาทางเทศบาลตำบลห้วยน้ำขาวก็ส่งเจ้าหน้าที่เข้ามาดูแลบ้าง บางครั้งก็ซื้อนม ซื้อผ้าอ้อมเด็กมาให้ ก็ต้องขอขอบคุณ ส่วนใหญ่เพื่อนบ้านที่เห็นสภาพครอบครัวจะช่วยเหลืออยู่บ่อยครั้ง บางคนก็ซื้อข้าวสารมาให้บ้าง ซื้อขนมมาให้เด็กๆบ้าง ทำให้ครอบครัวตนไม่ลำบากมากนัก แต่สิ่งที่จำเป็นตอนนี้อยากได้รถมอเตอร์ไซสักคัน จะได้ออกไปหาหอยมาขาย ไม่ต้องคอยฝากคนอื่นไปขาย เพราะบางทีไม่ได้เงิน เพราะหายไปทั้งหอยทั้งเงิน ส่วนโทรศัพท์มือถือตนละสามีก็ไม่มีใช้ เวลาลูกไม่สบายก็ต้องเดินไปขอความช่วยเหลือชาวบ้านให้ขับรถไปส่งหาหมอ ตนใช้ชีวิตอยู่อย่างนี้มา6-7ปีแล้ว ไม่อยากจะเรียกร้องอะไรมากมาย ...
กระบี่/ณัฏฐพงษ์ ศรีปล้อง รายงาน