In Thailand

พม.สุราษฎร์ฯลงพื้นที่ให้ความช่วยคุณตา ขี่รถซาเล้งเก็บของเก่าขายประทังชีพ



สุราษฏร์ธานี-พม.สุราษฎร์ธานี ลงพื้นที่ให้ความช่วยเหลือคุณตา วัย 80 ใช้ชีวิตบนรถซาเล้ง เก็บของเก่าขายประทังชีพ

16 กุมภาพันธ์ 2567 นางสาวชลลดา ชนะศรีรัตนกุล พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดสุราษฎร์ธานี  มอบหมาย นางประภาพรรณ เกตุแก้ว นักพัฒนาสังคมชำนาญการพิเศษ หัวหน้ากลุ่มการพัฒนาสังคมและสวัสดิการ นางสาว อภิตา ฤทธิ์เลื่อน นักพัฒนาสังคมปฏิบัติการ สิบเอกสัจจะ อาวุธ นักพัฒนาสังคม นายสิทธิเณฑ เห้งทับ และนายชัยวุฒิ ศิวายพราหมณ์ ที่ปรึกษาโฆษกสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์  พร้อมด้วยอาสาสมัครพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (อพม) ลงพื้นที่สอบข้อเท็จจริงเพิ่มเติม เพื่อให้ความช่วยเหลือ นายตุ่นหยก แซ่อุ่ย อายุ 80 ปี ใช้ชีวิตอยู่บนรถซาเล้ง หาเลี้ยงตัวเองด้วยการเก็บของเก่าขาย เพื่อเลี้ยงชีพ โดยมีพลเมืองดีนำเสนอผ่านสื่อออนไลน์ เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2566

จากการลงพื้นที่สอบข้อเท็จจริงพบว่า นายตุ่นหยก  แซ่อุ่ย อาศัยอยู่ลำพังในพื้นที่สาธารณะ บริเวณห้างลิโด้เก่า ถนนราษฎร์อุทิศ ตำบลตลาด อำเภอเมืองสุราษฎร์ธานี จังหวัดสุราษฎร์ธานี ลักษณะที่อยู่อาศัยเป็นเพิงพักทำด้วยเต็นท์สี่เสาสีแดง พื้นที่ประมาณ 4 ตารางเมตร มีของใช้จำพวก ตู้เฟอร์นิเจอร์ไม้เก่า จำนวน 4 ตู้ ซึ่งนายตุ่นหยก ฯ มีรถมอเตอร์ไซค์พ่วงข้าง จำนวน 1 คัน มีเสื้อผ้า ชุดเครื่องนอน ผ้ายางกันฝน และของเก่าบางส่วน อยู่ในรถมอเตอร์ไซค์พ่วงข้างโดยได้อาศัยจอดรถในเพิงพักและนอนบนรถมอเตอร์ไซค์พ่วงข้างของตน   นายตุ่นหยก  แซ่อุ่ย ประกอบอาชีพเก็บขวดและของเก่าขาย บริเวณตลาดสำเภาทองมีรายได้ประมาณวันละ 100 - 200 บาท ได้รับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ เดือนละ 800 บาท เบี้ยความพิการ เดือนละ 800 บาท และบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เดือนละ 300 บาท นายตุ่นหยกฯ มีภาระค่าใช้จ่ายอุปโภคบริโภค และค่าเช่าเต็นท์  เดือนละ 500 – 600 บาท และค่าใช้จ่ายในการเติมน้ำมัน ประมาณวันละ 40 บาท นายตุ่นหยก  แซ่อุ่ย ได้รับการช่วยเหลือจากนางสาวอังคณา  เนตร์ตระวัน อายุ 52 ปี อาศัยอยู่บ้านเลขที่ 223/68 หมู่บ้านสมบูรณ์วิลเลจ ตำบลตลาด อำเภอเมืองสุราษฎร์ธานี จังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นผู้ให้การช่วยเหลือ

ด้านการเก็บเอกสารสำคัญ การนำพาไปรักษาพยาบาล ด้านอาหารและสิ่งของเครื่องใช้จักได้รับการช่วยเหลือจากชาวบ้านที่อาศัยอยู่บริเวณใกล้เคียงกับที่นายตุ่นหยกฯ พักอาศัย นอกจากนี้ยังได้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า มีคนใจบุญให้ที่พักอาศัยแก่นายตุ่นหยกฯ ซึ่งอยู่บริเวณหลังตลาดสำเภาทอง อำเภอเมืองสุราษฎร์ธานี จังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย แต่เนื่องด้วยนายตุ่นหยกฯ ไม่สามารถ นำรถมอเตอร์ไซค์พ่วงข้างของตน ไปจอดในที่พักได้ และมีความรู้สึกเป็นห่วงรถ จึงไม่อาศัยที่บ้านหลังดังกล่าว ต่อมาได้มาอาศัยอยู่ที่บริเวณเพิงพักใกล้ห้างลิโด้เก่า หน้าบริษัทศรีธรรมสิทธิ์ จำกัด ตามเดิม โดยนายตุ่นหยกฯ ได้ให้ค่าเช่า เดือนละ 500-600 บาท แต่ไม่มีห้องน้ำ ซึ่งผู้ให้เช่าอนุเคราะห์ให้ใช้ห้องน้ำ แต่นายตุ่นหยกฯ ม่สะดวกในการใช้ห้องน้ำดังกล่าว จึงไปใช้ห้องน้ำบริเวณตลาดสำเภาทอง

 ในการลงพื้นที่ครั้งนี้ ได้พูดคุยทำความเข้าใจกับเจ้าของที่ดิน เพื่อขอความอนุเคราะห์ ให้นายตุ่นหยก ได้มีที่พักอาศัยในบริเวณที่ดิน โดยทาง พม.สุราษฎร์ธานี และเทศบาลนครสุราษฎร์ธานี ได้วางแผนดำเนินการปรับปรุงสภาพแวดล้อมที่พักอาศัยดังกล่าวให้เหมาะสมสำหรับผู้สูงอายุรายนี้ตามลำดับต่อไป