In Bangkok

กทม.อำนวยความสะดวก-ความปลอดภัย นักท่องเที่ยวบริเวณท่าเรือท่าเตียน



กรุงเทพฯ-นายไทภัทร ธนสมบัติกุล ผู้อำนวยการสำนักการจราจรและขนส่ง (สจส.) กทม. กล่าวกรณีมีข้อกังวลความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวจำนวนมากที่ยืนเข้าแถวบนทางเท้า เพื่อรอลงเรือข้ามฟากบริเวณท่าเรือท่าเตียนไปวัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหารว่า สจส.ได้ดำเนินมาตรการดูแลความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกให้แก่นักท่องเที่ยวบริเวณท่าเรือท่าเตียน โดยร่วมลงพื้นที่และประสานความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กรมเจ้าท่า ดำเนินการก่อสร้างท่าเทียบเรือใหม่รองรับเรือข้ามฟากและเรือด่วน ทดแทนท่าเทียบเรือเดิม (ท่าเตียน) ที่มีขนาดเล็กและมีสภาพชำรุด ซึ่งปัจจุบันกรมเจ้าท่าอยู่ระหว่างประสานผู้ให้บริการเดินเรือข้ามฟากโพธิ์-อรุณ ให้ย้ายมาอยู่ที่ท่าเทียบเรือแห่งใหม่ ซึ่งมีเรือให้บริการ จำนวน 4 ลำ สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ อยู่ระหว่างเร่งพัฒนาปรับปรุงอาคาร เพื่อใช้เป็นทางเข้า-ออก สำหรับท่าเตียนหลังใหม่ให้เรียบร้อยภายใน 1 เดือน ขณะที่สำนักงานเขตพระนคร จะช่วยจัดระเบียบการเข้า-ออกท่าเทียบเรือของประชาชนและนักท่องเที่ยวในการยืนเข้าแถวให้เรียบร้อย เพื่อซื้อตั๋วเรือข้ามฟาก โดยแนะนำให้เตรียมเงินค่าโดยสารให้พอดี เพื่อลดระยะเวลาลงเรือ รวมทั้งติดตั้งร่ม หรือเต็นท์ให้เป็นที่พักคอยชั่วคราว ทั้งนี้ สจส.จะนำข้อเสนอการเดินรถ BMA Feeder รับ-ส่งนักท่องเที่ยวจากสถานีรถไฟฟ้า MRT สถานีอิสรภาพ ไปยังวัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหารไปพิจารณากำหนดเส้นทางเดินรถ เพื่ออำนวยความสะดวกการเดินทางของประชาชนให้เหมาะสมต่อไป

นายสุริยชัย รวิวรรณ รองผู้อำนวยการสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (สปภ.) รักษาราชการแทนผู้อำนวยการสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กทม. กล่าวว่า สปภ.มีมาตรการดูแลความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนและนักท่องเที่ยวที่สัญจรทางน้ำบริเวณท่าเรือริมแม่น้ำเจ้าพระยา โดยบูรณาการการปฏิบัติงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมเจ้าท่า ตำรวจน้ำ กองบัญชาการกองเรือลำน้ำ กองทัพเรือ สำนักเทศกิจ หน่วยแพทย์กู้ชีวิต มูลนิธิ และอาสาสมัครอย่างต่อเนื่อง นอกจากนั้น ยังได้จัดเตรียมกำลังเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการกู้ภัยทางน้ำ ทีมประดาน้ำ เรือท้องแบน เรือสกู๊ตเตอร์ และอุปกรณ์สำหรับช่วยคนตกน้ำ เพื่อดูแลความปลอดภัยและพร้อมช่วยเหลือประชาชนและนักท่องเที่ยวได้อย่างรวดเร็วและทันท่วงที ทั้งนี้ หากประชาชนพบเหตุอุบัติภัยทางน้ำหรือเหตุสาธารณภัยอื่น ๆ สามารถขอความช่วยเหลือผ่านสายด่วน 199 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง