In News
ภารกิจนายกฯลงพื้นตรวจงานที่อุดรธานี รับร้องเหมืองโพแทช/เงินดิจิทัลแจกพ.ค.นี้
อุดรธานี-นายกฯ ตรวจติดตามสภาพพื้นที่ก่อสร้างเหมืองใต้ดิน และจุดเจาะอุโมงค์เหมืองแร่โพแทช จ.อุดรธานี ย้ำติดตามดูแลการดำเนินการต่าง ๆ ให้เป็นไปตามขั้นตอนที่โครงการชี้แจงไว้ ยืนยันรัฐบาลรับฟังเสียงประชาชนทุกคน นายกฯ ย้ำ การปรับลดดอกเบี้ย ช่วยแบ่งเบาภาระประชาชน คาดงบประมาณฯ ใช้เร็วสุด 1 เมษายน 67 เดินหน้าเร่งโครงการ Digital Wallet ให้เกิดขึ้นภายใน พ.ค. หวังกระตุ้นเศรษฐกิจและยังย้ำ พักโทษ อดีตนายกฯ“ทักษิณ”เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม ไม่มีนิติรัฐแบบอภิสิทธิ์ชน หรือสองมาตรฐาน ระบุยังไม่มีการปรับ ครม. ก่อนหน้านี้นายกฯ ประชุมหารือแผนพัฒนาของ จ.อุดรธานี ย้ำทุกหน่วยงานบูรณาการทำงานร่วมกัน ใช้งบประมาณคุ้มค่า ไม่ให้เกิดการทุจริต เตรียมความพร้อมทุกด้านเพื่อดูแลประชาชนอย่างเต็มที่และเตรียมหารือการบินไทย พิจารณาเพิ่มเที่ยวบินรัสเซีย- กรุงเทพ หลังรับรายงานนักท่องเที่ยวรัสเซียเดินทางมาไทยเป็นจำนวนมาก เพราะนโยบายวีซ่าฟรี คาดปี 67 นักท่องเที่ยวฯ เดินทางเข้าไทยกว่า 1 ล้านคน และก่อนหน้านี้นายกฯ มอบสัญญาที่ราชพัสดุให้กับผู้เช่าที่ราชพัสดุตามโครงการ “หนองวัวซอโมเดล” ตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล สร้างความมั่นคง ด้านที่อยู่อาศัย-ที่ดินทำกิน ยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน
วันนี้ (19 ก.พ. 67) เวลา 14.50 น. ณ โครงการเหมืองแร่โพแทช ต.หนองไผ่ อ.เมืองอุดรธานี จ.อุดรธานี นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ตรวจติดตามสภาพพื้นที่ก่อสร้างเหมืองใต้ดินและจุดเจาะอุโมงค์มีสาระสำคัญสรุปดังนี้
นายกฯ รับฟังแผนการดำเนินงานของเหมืองแร่ และรับชมสภาพพื้นที่ก่อสร้างเหมืองใต้ดินและจุดเจาะอุโมงค์ โดยได้มีการพิจารณาในประเด็นมาตรการป้องกันผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาโครงการและแผนการฟื้นฟูเหมืองแร่โพแทชหลังสิ้นสุดการทำเหมือง โดยนายกฯ ได้สอบถามถึงแหล่งเงินทุนที่จะนำมาบริหารจัดการในโครงการ รวมถึงความปลอดภัยของโครงการว่าเมื่อเริ่มดำเนินการจะส่งผลกระทบหรือผลเสียอะไรต่อพื้นที่ชุมชนหรือไม่ ทั้งนี้ นายกฯ กำชับให้ตัวโครงการ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามดูแลการดำเนินการต่าง ๆ ให้เป็นไปตามขั้นตอนที่โครงการได้ชี้แจงไว้
นายกฯ ยังได้พบปะกลุ่มประชาชนผู้คัดค้านเหมืองโพแทช รับฟังถึงความกังวลใจจากการก่อสร้างเหมืองโพแทช รวมถึงข้อเสนอแนะให้กลับไปทบทวนตัวโครงการอีกครั้ง ให้ศึกษาจากเหมืองด่านขุนทดก่อน ทั้งนี้ นายกฯ รับหนังสือพร้อมกล่าวว่า รับเรื่องไว้พิจารณา ขอกลับไปพูดคุยกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก่อน ยืนยันรัฐบาลรับฟังเสียงของประชาชนทุกคน จากนั้นนายกรัฐมนตรีได้แวะถ่ายภาพร่วมกับกลุ่มลูกเสือ ณ ร้านสามข้าวแฟคตอรี่ ก่อนเดินทางต่อไปยังท่าอากาศยานทหารกองบิน 23 อ.เมืองอุดรธานี เพื่อเดินทางกลับกรุงเทพมหานคร
นายกฯย้ำคาดงบประมาณฯใช้เร็วสุด 1เม.ย. Digital Wallet ให้เกิดขึ้นภายในพ.ค.
เวลา 14.00 น. ณ ห้องประชุมโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษากุมภวาปี ตำบลเวียงคำ อำเภอกุมภวาปี จังหวัดอุดรธานี นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนถึงกรณีรายงานจาก สภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติในประเด็น GDP ของประเทศไทยว่าไตรมาสสุดท้ายต่ำไปอยู่ที่ 1.7% โดยรวมได้ 1.9% ว่าเรื่องนี้ได้พูดไปหลายรอบแล้ว เมื่อ 10 ปีที่ผ่านมา GDP ประเทศไทยโตเฉลี่ยกว่า 2.2% ต่ำมาโดยตลอด ต่างกว่าเพื่อนบ้านมาก อันดับ GDP โลก ประเทศไทยก็ลงมาเรื่อย ๆ ตรงนี้ รัฐบาลนยังไม่สามารถใช้งบประมาณได้ งบประมาณยังไม่ผ่าน เร็วที่สุดน่าจะเป็น 1 เมษายน 2567 แต่ทุก ๆ กระทรวงใช้นโยบายเป็นตัวขับเคลื่อน เช่น นโยบายพักหนี้ นโยบายแก้ไขหนี้นอก และในระบบ นโยบายฟรีวีซ่า หลายๆ เรื่องพยายามใช้อยู่ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ เพื่อให้ชีวิตความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนดีขึ้น แต่วันนี้เราต้องยอมรับว่ายังไม่มีเม็ดเงินใหม่เข้าไปในระบบเลย
นายกฯ กล่าวว่า ทุก ๆ หน่วยงานได้มีการปรับ GDP ลดลงตลอดเวลาทุก ๆ เดือนที่ออกมา ซึ่งจริง ๆ แล้วน่าจะมีการทำนายที่ชัดเจนมากกว่านี้ ไม่ใช่ปรับลดทุก ๆ เดือน ซึ่งปัจจัยเกิดจากหลายๆ อย่าง เม็ดเงินใหม่ไม่มี ไม่ใช่ GDP เพียงอย่างเดียว Capacity Utilization ก็ต่ำ หมายความว่าการที่เรามีโรงงานผลิตสินค้าออกมาก็ต่ำมาก ใช้ประมาณกว่า 50% ถ้าเกิดมีโรงงาน 100 แต่ใช้ประมาณ 60% แล้วกำไรจะอยู่ตรงไหน ทุก ๆ โรงงานที่มีการอัพเกรดอยู่ตอนนี้ไม่มียอดสั่งซื้อเข้ามา เพราะกำลังซื้อต่ำ เนื่องจากหนี้ครัวเรือนสูง รายได้ไม่มี เงินในกระเป๋าไม่มี รายจ่ายสูง รัฐบาลได้ช่วยไปแล้ว เช่น ลดค่าน้ำมัน ลดค่าไฟ พักหนี้ อะไรที่ไม่มี อะไรที่ทำได้รัฐบาลทำตลอด แต่อย่างหนึ่งที่ขอฝาก นโยบายดอกเบี้ยซึ่งต้องใช้งบประมาณ ดอกเบี้ยอยู่ที่ประมาณ 2.5% ถ้าลดไปครึ่งหนึ่งจะเหลือ 2.25% ก็จะช่วยบรรเทาภาระของพี่น้องประชาชนคนไทยทุกคนได้
ผู้สื่อข่าวถามว่า ส่วนที่นายกรัฐมนตรีได้พูดเรื่องนี้มาตลอดแต่ไม่ได้รับการตอบรับจากธนาคารแห่งประเทศไทยนั้น นายกรัฐมนตรีถามกลับสื่อว่าดอกเบี้ยนโยบายใครเป็นคนควบคุม ก็คือธนาคารแห่งประเทศไทย ตนพูดคุยกับเลขาธิการสภาพัฒนาฯ ก็บอกว่าเราได้ทำทุกวิถีทางแล้ว และมีความเห็นอย่างไรเกี่ยวกับการลดอัตราดอกเบี้ยซึ่งเลขาธิการสภาพัฒนาฯ ระบุว่าได้คุยกับผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย ว่าถึงเวลาที่จะต้องลด ตนเองจึงบอกว่าทำไมไม่พูดคุยต่อหน้าสาธารณชนบ้าง และพูดคุยในภาษาที่ชัดเจน ซึ่ง เลขาสภาพัฒน์ ผู้ว่าฯ ธนาคารแห่งประเทศไทย และตนเองก็จบเศรษฐศาสตร์มา ตรงนี้เราไม่ได้มาเอาชนะกันแต่ถึงเวลาแล้วหรือยังที่จะมีการลดดอกเบี้ยเกิดขึ้น เพื่อรองบประมาณที่จะนำออกมาใช้ ทั้งนี้ ได้สอบถามกับเลขาธิการสภาพัฒนาฯ ว่าสามารถทำอะไรได้อีก หากมีอะไรที่ทำได้ก็ขอให้เสนอมา ตนเองไม่ได้จมปลักอยู่กับการลดดอกเบี้ยอย่างเดียว แต่การลดดอกเบี้ยเป็นการแบ่งเบาภาระของประชาชนคนไทยทุกคน ซึ่งเห็นอยู่แล้วสำหรับตัวเลขที่ออกมา อย่างเช่นนโยบายดิจิทัล วอลเล็ต ก็พยามที่จะออกมาให้เร็วที่สุด
ส่วนกรณีที่หลายฝ่ายกังวลว่าการเติมเงินเข้าไปในระบบจำนวน 500,000 ล้านบาท จะทำให้เงินเฟ้อ นายกรัฐมนตรีชี้แจงว่า ปัจจุบันนี้ตัวเลขเงินเฟ้อติดลบอยู่แล้ว หากจะบอกว่าติดลบจากการที่รัฐบาลช่วยเหลือประชาชนผ่านมาตรการลดราคาน้ำมัน หรือพยุงราคาไฟฟ้า ซึ่งหากถอดดัชนีตรงนี้ออกไปเงินเฟ้อขึ้นมาไม่ถึง 1% ยังไม่ถึงกรอบต่ำสุด หลายเรื่องที่รัฐบาลทำต้องใช้เวลารวมไปถึงโครงการ Digital Wallet ด้วย หากทุกคนเห็นด้วยและพิสูจน์ให้ได้ว่าไม่มีการทุจริต และประพฤติมิชอบ ก็จะพยามทำให้เร็วที่สุด อยากจะให้เกิดขึ้น ภายในเดือนพฤษภาคม และนโยบายอื่นก็พยายามดำเนินการอยู่ ซึ่งรัฐบาลพยายามดำเนินการทุกอย่างที่สามารถทำได้ ณ วันนี้ ยินดีรับฟังว่าอยากให้รัฐบาลทำอะไร แต่ต้องคำนึงว่างบประมาณสามารถใช้ได้หรือไม่ อย่างเร็วที่สุด 1 เมษายน ซึ่งพยามเร่งอยู่แล้ว
นายกฯ ย้ำ พักโทษ อดีตนายกฯ“ทักษิณ”เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม ไม่มีนิติรัฐแบบอภิสิทธิ์ชน
นายเศรษฐา ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนถึงกรณีการพักโทษของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี สะท้อนให้เห็นถึงหลักนิติรัฐแบบอภิสิทธิ์ชน หรือแบบสองมาตรฐานหรือไม่ว่า ตอนที่นายทักษิณ ถูกคำพิพากษาก็มีการเรียกร้องจาก ทั้งฝ่ายที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย แต่หากย้อนเมื่อ 10 ปีที่แล้ว จนถึงวันนี้ก็มีการเรียกร้องให้ท่านกลับเข้าสู่กระบวนการ และเมื่อเดือนสิงหาคม 2566 ท่านก็กลับเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม เมื่อท่านกลับเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมแล้ว กรมราชทัณฑ์ก็มีการตรวจสอบ โรงพยาบาลตำรวจก็มีการตรวจสอบ รวมถึงคณะกรรมาธิการของสภาผู้แทนราษฎรก็มีการตรวจสอบ ขณะที่กระทรวงยุติธรรมก็มีมาตรฐานในการตรวจสอบอยู่แล้ว ดังนั้น เมื่อท่านถูกพิพากษาไป เราก็เชื่อในระบบ แล้ววันนี้ เมื่อท่านเข้าสู่กระบวนการที่จะรับโทษและได้รับการพักโทษตามเงื่อนไข ซึ่งเป็นไปตามที่กฎหมายเขียนไว้ เราจะต้องมาพูดกันเรื่องนี้ทุกวันหรือไม่ตนไม่ทราบ แต่ทุกอย่างก็เป็นไปตามกฎหมาย
ผู้สื่อข่าวถามว่า ถึงแม้รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะมีการชี้แจงแต่ก็ยังเชื่อว่าเป็นสองมาตรฐานอยู่ดี นายกฯกล่าวว่า เป็นความเห็นต่าง เมื่อเราอยู่ในสังคมที่เห็นต่างกัน หลายเรื่องก็มีคนไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่เราทำอยู่ รวมถึงเห็นด้วยกับสิ่งที่เราไม่ทำ แต่เราก็ต้องอยู่ร่วมกันด้วยกฎหมาย เพราะวันนี้กฎหมายเป็นเรื่องสำคัญ เมื่อท่านเข้าสู่กระบวนการตามกฎหมายแล้ว ตนเองมองว่าเราก็ควรเดินหน้าดีกว่า เพราะวันนี้บ้านเมืองต้องการเดินหน้าอะไรอีกหลายอย่างจากรัฐบาลและทุกภาคส่วน เรื่องความขัดแย้งก็ต้องบริหารจัดการกันไป แต่ต้องตั้งอยู่บนความสงบ เพราะเรามีพื้นที่ มีสภาฯ มี สส. และมีนักวิชาการ และควรใช้เวทีที่ปลอดภัยในการหาทางออกร่วมกัน
ผู้สื่อข่าวถามว่าเรื่องที่มีการเสนอแนวคิดเข้ามามากมาย ท่านนายกจะเดินหน้าโดยไม่ต้องพะว้าพะวังได้หรือยัง เรื่องเงิน Digital Wallet นายกรัฐมนตรีตอบกลับว่า ตามที่บอกไปมีทั้ง ป.ป.ช. และคณะกรรมการกฤษฎีกาเสนอมา นายกฯ ก็รับฟัง ถ้าไม่รับฟังเดี๋ยวก็มาบอกอีกว่าไม่รับฟัง พยายามรับฟังอยู่ในกรอบเวลาให้เร็วมากที่สุด ทางผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยพึงเห็นจึงขอเวลา นายกฯ เองก็ยินดี และหากมีอะไรให้บอกมา ยินดีรับฟัง
นายกฯ เตรียมหารือการบินไทย พิจารณาเพิ่มเที่ยวบินรัสเซีย- กรุงเทพ
นายกรัฐมนตรี ยังให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน กรณีนักท่องเที่ยวชาวรัสเซียเดินทางเข้าประเทศไทยเป็นจำนวนมาก แต่ติดปัญหาเรื่องเที่ยวบิน ว่าได้รับรายงานเรื่องดังกล่าวแล้วเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา อย่างที่ทราบอยู่แล้วว่า นโยบายด้านการท่องเที่ยวเป็นนโยบายหลักของทางรัฐบาล เมื่อปลายปีที่แล้วก็ได้มีการขยายระยะเวลาวีซ่าให้กับนักท่องเที่ยวชาวรัสเซีย จากระยะเวลา 30 วัน เป็น 90 วัน เพราะว่าช่วงระเวลาของประเทศรัสเซียฤดูหนาวมีระยะเวลายาวนาน ส่วนมากนักท่องเที่ยวรัสเซียที่เข้ามาพำนักอยู่ในประเทศไทยระยะเวลามากกว่า 1 เดือน ถ้าไม่อย่างงั้นต้องเสียเวลาออกไป และกลับเข้ามาต่อวีซ่าอีก รัฐบาลจึงอำนวยความสะดวกให้เพิ่มระยะเวลาเป็น 90 วัน
นายกฯ กล่าวว่า จากนโยบายดังกล่าว มีนักท่องเที่ยวแสดงความต้องการที่เข้ามาประเทศไทยมากขึ้น คาดการณ์ว่าจะเข้ามาประเทศไทยในปี 67 ประมาณ 1 ล้านคน ถือเป็นเรื่องน่ายินดี แต่ในเรื่องของการเดินทางยังไม่สะดวก ทั้งนี้ รับทราบว่ามีการเหมาเที่ยวบินจากประเทศตุรกีและบินเหมาเข้ามาประเทศไทย ซึ่งในสมัยก่อนสายการบินไทยเคยมีเที่ยวบิน บินตรงไปมอสโกในทุก ๆ วัน ตรงนี้คิดว่าจะพูดคุยกับการบินไทยลองดูว่ามีเที่ยวบิน ระหว่างมอสโก - กรุงเทพฯ อีกครั้งได้หรือไหม โดยหวังให้เที่ยวบิน รัสเซีย – กรุงเทพฯ เพื่อส่งเสริมเรื่องของการท่องเที่ยว
นายกฯ เผย กรณีชาวเมียนมาจำนวนมากขอวีซ่าเดินทางเข้าประเทศไทย ขอเดินทางมาอย่างถูกต้อง หากลักลอบเข้ามาต้องดำเนินการเอาผิดตามกฎหมาย ระบุอัตราว่างงานแรงงานไทยต่ำกว่า 1% ขอย่ากังวลเรื่องการแย่งงานคนไทย
นายเศรษฐา ได้ให้สัมภาษณ์ กรณีชาวเมียนมาจำนวนมากขอวีซ่าเพื่อเดินทางเข้าประเทศไทย กังวลว่าจะมีการลักลอบเข้ามาประเทศไทยหรือไม่ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ต้องแยกประเด็นดังกล่าวออกเป็น 2 ประเด็น คือ เรื่องของการขอวีซ่า ถ้าหากเข้ามาอย่างถูกต้อง เราก็ยินดีต้อนรับ ถ้าเกิดลักลอบเข้ามา ก็ต้องดำเนินการตามกฎหมาย ซึ่งได้มีการพูดคุยหารือกับฝ่ายมั่นคงไว้แล้ว
ส่วนข้อกังวลเรื่องการเข้ามาแย่งงานคนไทยนั้น นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า จุดมุ่งหมายที่ชาวเมียนมาเดินทางมาประเทศไทยแตกต่างกันไป หนึ่งในเหตุผลที่เดินทางมาคือหนีทหาร สำหรับข้อกังวลเรื่องแย่งงานคนไทย ขอชี้แจงว่าปัจจุบันอัตราการว่างงานของแรงงานคนไทยมีอยู่ต่ำกว่า 1% และประเทศไทยยังต้องการแรงงานอีกจำนวนมากไม่ว่าจะเป็นแรงงานจากลาว พม่า และกัมพูชา ซึ่งทั้งหมดขึ้นอยู่กับความถูกต้อง
นายกฯ ประชุมหารือแผนพัฒนาของ จ.อุดรธานี
เวลา 13.15 น. ณ โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษากุมภวาปี ต.เวียงคำ อ.กุมภวาปี จ.อุดรธานี นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ประชุมหารือแผนพัฒนาของจังหวัดอุดรธานี ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเปิดเผยสาระสำคัญสรุป ดังนี้
นายกฯ รับทราบภาพรวมของจังหวัดอุดรธานี โดยที่ประชุมมีการพิจารณาประเด็นการพัฒนาที่สำคัญของจังหวัดอุดรธานี อาทิ 1) แนวทางการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวทะเลวัวแดง และการกำจัดวัชพืช ได้แก่ โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษากุมภวาปี รายงานแนวทางการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวทะเลบัวแดง การจำจัดวัชพืช โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาห้วยหลวง รายงานประเด็นการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่เขื่อนห้วยหลวง 2) การป้องกันและปราบปรามยาเสพติดจังหวัดอุดรธานี (ด้านการป้องกัน ปราบปราม การบำบัดฟื้นฟู) 3) การเตรียมการจัดงานพืชสวนโลกจังหวัดอุดรธานี พ.ศ. 2569 (เช่น การขอใช้พื้นที่สาธารณประโยชน์ การจัดงานมหกรรมพืชสวนโลกจังหวัดอุดรธานี ทุกอย่างมีความพร้อมและดำเนินการถูกต้องตามกฎหมาย) 4) กรมราชทัณฑ์ เรือนจำกลางอุดรธานี นำเสนอข้อมูลการดำเนินงานจัดหาพื้นที่สำหรับก่อสร้างเรือนจำกลางอุดรธานีแห่งใหม่ ทดแทนเรือนจำแห่งเดิม 6) แผนพัฒนาโรงพยาบาลอุดรธานี ลดความแออัด (จัดทำแผนคำของบฯ ปี พ.ศ. 2568 ก่อสร้างอาคารผู้ป่วยนอก 9 ชั้น
นายกฯ กล่าวดีใจที่ได้มาพบกับทุกคน ซึ่งจังหวัดอุดรธานีเป็นจังหวัดที่ใหญ่และมีโอกาสอยู่มาก โดยเรื่องแนวทางการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวทะเลวัวแดงและการกำจัดวัชพืช ขอให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องบูรณาการทำงานร่วมกันให้ดี รวมถึงเรื่องของการใช้งบฯ ในการบำรุงรักษา ซึ่งในส่วนของการกำจัดวัชพืชนั้นขอให้ทำต่อเนื่อง รวมทั้งในการนำวัชพืชมาทำปุ๋ยอินทรีย์ก็ขอให้ทำเรื่องนี้ให้ถูกต้องตามกฎหมาย เพราะสถานที่แห่งนี้ถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่ดีและเป็นสถานที่ท่องเที่ยวระดับอินเตอร์ มีนักท่องเที่ยวต่างประเทศมาท่องเที่ยวด้วย และมีสนามบินรองรับทำให้สามารถดึงดูดคนมาท่องเที่ยวได้มาก
เรื่องการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่เขื่อนห้วยหลวง นายกฯ ย้ำว่าเรื่องแหล่งน้ำเป็นเรื่องที่รัฐบาลให้ความสำคัญ ซึ่งเรื่องการเพาะปลูก จังหวัดอุดรธานีมีพี่น้องเกษตรกรอยู่จำนวนมาก ขอให้บริหารจัดการระหว่างการใช้อุปโภค บริโภค การเกษตร และอุตสาหกรรมให้มีความสมดุลกัน โดยให้กรมชลประทานพิจารณาความเหมาะสมในการดำเนินการเรื่องงบประมาณในการบริหารจัดการน้ำให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชน รวมถึงการดูแลเรื่องของ Public safety เป็นเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญเช่นกัน
ส่วนการเตรียมการจัดงานพืชสวนโลกนั้น ขอขอบคุณคณะกรรมการฯ และทุกหน่วยงานที่สามารถดำเนินการอยู่ในงบประมาณที่วางแผนไว้ และมอบให้กระทรวงคมนาคมช่วยวางแผนการดำเนินการระยะยาว ในการทำให้การเดินทางสะดวกสบาย และให้กรมทางหลวง กรมทางหลวงชนบท กรมการปกครอง และส่วนท้องถิ่นดูแลความเรียบร้อยของโครงข่าย เชื่อมโยงกับสถานที่จัดงาน ไฟส่องสว่าง และจัดเตรียมโครงข่ายบรรเทาการจราจรติดขัดบริเวณจัดงานพืชสวนโลก ทั้งนี้ นายกฯ ย้ำเรื่องการใช้งบฯ เป็นเรื่องสำคัญ ต้องเกิดความคุ้มค่าและไม่ให้เกิดการทุจริต
สำหรับเรื่องการแก้ปัญหายาเสพติดถือเป็นเรื่องใหญ่ที่รัฐบาลให้ความสำคัญและกำหนดเป็นนโยบายวาระแห่งชาติของรัฐบาลนี้ ซึ่งเรื่องนี้ต้องร่วมมือทั้งฝ่ายปกครอง ทหาร ตำรวจ ขอให้มีการดำเนินการต่อเนื่องเพื่อช่วยกันทำให้สถานการณ์ดีขึ้น ขณะที่เรื่องเรือนจำกลางอุดรธานี ที่จะมีการดำเนินงานจัดหาพื้นที่สำหรับก่อสร้างเรือนจำกลางอุดรธานีแห่งใหม่ ทดแทนเรือนจำแห่งเดิมนั้น นายกฯ กล่าวว่ารัฐบาลพร้อมยินดีสนับสนุนเรื่องนี้
ส่วนเรื่องพัฒนาโรงพยาบาลอุดรธานี ลดความแออัด นายกฯ กลา่วว่ารัฐบาลให้ความสำคัญกับเรื่องชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน ซึ่งการพัฒนาโรงพยาบาล นอกจากจะต้องเตรียมความพร้อมด้านอุปกรณ์ต่าง ๆ แล้ว เรื่องของการเตรียมบุคลากรทางการแพทย์ให้มีความพร้อมและเพียงพอก็มีความสำคัญ เพราะเป็นปัญหาใหญ่ของประเทศไทยในเรื่องของการขาดแคลนบุคลากรทางการแพทย์ ไม่ว่าจะเป็นแพทย์ พยาบาล รวมถึงเตียงผู้ป่วยด้วย ดังนั้นต้องเตรียมความพร้อมทุกด้านเพื่อดูแลประชาชนอย่างเต็มที่
นายกฯมอบสัญญาที่ราชพัสดุให้กับผู้เช่าที่ราชพัสดุตามโครงการ “หนองวัวซอโมเดล”
เวลา 10.00 น. ณ ที่ว่าการอำเภอหนองวัวซอ ต.หนองอ้อ อ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานี นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง มอบสัญญาที่ราชพัสดุให้กับผู้เช่าที่ราชพัสดุตามโครงการ “หนองวัวซอโมเดล” ตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล พร้อมเยี่ยมชมนิทรรศการวิสาหกิจชุมชนในการพัฒนาการเกษตรสมัยใหม่ และจับคู่ความร่วมมือระหว่างภาคเอกชนและวิสาหกิจชุมชน โดยมีรัฐมนตรีว่ากระทรวงกลาโหม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี ผู้บัญชาการทหารบก ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 อธิบดีกรมธนารักษ์ ห้วหน้าส่วนราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมงานมีสาระสำคัญสรุป ดังนี้
นายกฯ เยี่ยมชมบอร์ดนิทรรศการข้อมูลเกี่ยวข้องกับโครงการฯ ประกอบด้วย ความเป็นมาของโครงการฯ และข้อมูลของผู้รับสัญญาเช่า การบริหารจัดการพื้นที่ในความครอบครองของกองทัพบก และแผนการใช้พื้นที่ในการฝึก การส่งเสริมพัฒนาอาชีพให้กับประชาชนที่ได้รับสัญญาเช่า แนวทางการพัฒนาพื้นที่ที่ประชาชนได้รับสัญญาเช่า จากนั้นนายกฯ รับชม VTR ความเป็นมาของโครงการฯ
โอกาสนี้ นายกฯ กล่าวรู้สึกเป็นเกียรติที่ได้มามอบสัญญาเช่าที่ดินราชพัสดุในวันนี้ โดยที่มาของการดำเนินการดังกล่าว สืบเนื่องจากรัฐบาลให้ความสำคัญกับที่ทำกินของประชาชนทุกคน และได้รับทราบว่าทางกองทัพมีที่ดินอยู่ในการดูแลจำนวนมาก ซึ่งนายกฯ ได้มีการพูดคุยกับผู้ที่เกี่ยวข้องและมีการศึกษาข้อมูลในเชิงลึก ในการที่จะพิจารณานำที่ดินดังกล่าวมาใช้ประโยชน์ให้กับประชาชน โดยนายกฯ ยังคำนึงถึงการให้ความสำคัญเรื่องของภารกิจของกองทัพในการดูแลด้านความมั่นคง รักษาความปลอดภัยและรักษาเอกราช โดยมีการดำเนินการให้เกิดความสมดุลกัน ซึ่งตรงนี้ทางกองทัพก็ไม่เคยลืมเช่นกันว่าประชาชนต้องการพื้นที่ทำกิน โดยที่ในแต่ละพื้นที่ที่กองทัพดูแลร่วมกับกระทรวงการคลัง มีพื้นที่บางส่วนที่ไม่ใช้ประโยชน์ ซึ่งกองทัพตระหนักดีว่าประชาชนต้องการพื้นที่ทำกินตรงนี้ รัฐบาลนี้ตั้งแต่วันแรกที่นายกฯ เข้ามาเป็นนายกรัฐมนตรี ได้มีการพบปะกับแม่ทัพทุกท่าน รวมถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังในฐานะกำกับกรมธนารักษ์ซึ่งเป็นเจ้าของที่ดิน จึงได้มีการพูดคุยกันที่จะนำที่ดินพื้นที่เหลือและไม่ได้ใช้การดูแลด้านความมั่นคง มาเป็นที่ทำกินให้กับประชาชน ซึ่งเรื่องนี้รัฐบาลให้ความสำคัญอย่างยิ่ง โดยภายในระยะเวลา 4 - 5 เดือน ทางกองทัพและกระทรวงการคลังทำงานได้รวดเร็วมาก พื้นที่กว่า 9,000 ไร่ มีประชาชนได้รับประโยชน์ 500 ครอบครัว ทั้งที่อยู่อาศัย และเป็นที่ทำมาหากิน
นายกฯ กล่าวอีกว่า การที่ได้มายืนอยู่ในวันนี้ ณ ตรงนี้เป็นการทำงานร่วมกันของทุกภาคส่วนทั้งภาคประชาชนและกองทัพไทย และจะไม่หยุดยั้งในการที่จะทำงานต่อไป โดยจะมีการขยายการดำเนินการไปในจังหวัดนครพนม สมุทรปราการ กาญจนบุรี และขยายการดำเนินการต่อไปในพื้นที่อื่นทุกจังหวัดด้วย ทั้งนี้ การดำเนินการดังกล่าวนอกจากกองทัพบกแล้ว ทางกองทัพอากาศ กองทัพเรือ ก็มีส่วนร่วมที่จะแบ่งปันให้กับพี่น้องประชาชนทุกคน
นายกฯ ย้ำว่าพื้นที่เหล่านี้กองทัพไม่ส่งมอบแค่ที่ดินเพียงอย่างเดียว โดยกองทัพตระดีว่าประชาชนต้องเอาที่ดินเหล่านี้ไปทำมาหากิน ทำพื้นที่ทางการเกษตร เพื่อสร้างรายได้ให้กับครอบครัว ทั้งนี้ปัญหาใหญ่คือระบบชลประทานซึ่งหากไม่บริหารจัดการให้ดีก็จะมีน้ำท่วมน้ำแล้ง ซึ่งเมื่่อสักครู่ดีใจได้รับการทราบว่าพื้นที่หนองวัวซอ มีพื้นที่ที่มีน้ำเพียงพอขึ้นอยู่กับการบริหารจัดการเท่านั้น ซึ่งกองทัพร่วมกับรัฐบาลก็ได้มีการจัดการเรื่องระบบชลประทานมาอย่างต่อเนื่อง โดยให้ความมั่นใจว่าทุกพื้นที่ที่มอบให้กับประชาชนมีน้ำกินน้ำใช้เพียงพอ ตรงนี้เป็นเรื่องสำคัญไม่ใช่แค่ให้พื้นที่อย่างเดียว แต่มีการดูแลให้ครบให้ประชาชนมีสิทธิทำมาหากินได้อย่างเต็มที่ รวมทั้งสิทธิทำกินเหล่านี้สามารถนำไปกู้เงินและสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญในการหาแหล่งเงินทุนมาเป็นต้นทุนทำหลาย ๆ อย่างได้ในอนคต
“วันนี้ที่มารับมอบสัญญาเช่าฯ มีหลายครอบครัว แต่ยังไม่สิ้นสุด จะมีการมอบสัญญาเช่าฯ เพิ่มอีก ขอแสดงความยินดีกับประชาชนทุกคนที่ได้รับมอบสัญญาเช่าฯ สิทธิทำกินดังกล่าว และขอบคุณทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วนที่ทำให้มีวันนี้ได้ เพราะรัฐบาลเองทำงานคนเดียวไม่ได้ ฝ่ายความมั่นคง กองทัพ มีส่วนช่วยให้เกิดขึ้น ยืนยันว่ารัฐบาล กองทัพ เข้าใจถึงปัญหาของประชาชน และจะดำเนินการขับเคลื่อนไปด้วยกันต่อไป” นายกฯ กล่าว
จากนั้น นายกฯ ได้แสดงสัญลักษณ์เปิดงานด้วยการปักหมุดลงบนแท่นเพื่อเปิดงานอย่างเป็นทางการ ต่อจากนั้น นายกฯ ได้มอบสัญญาเช่าที่ราชพัสดุให้กับผู้เช่าที่ราชพัสดุตามโครงการ “หนองวัวซอโมเดล” จำนวน 434 ราย โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ปลัดกระทรวงกลาโหม ปลัดกระทรวงการคลัง ผู้บัญชาการทหารบก อธิบดีกรมธนารักษ์ ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก และผู้เกี่ยวข้อง ร่วมมอบสัญญาเช่าฯ ด้วย โดยวันนี้มีผู้เช่าที่ราชพัสดุที่มารับมอบสัญญาเช่าฯ จำนวน 299 ราย จากนั้น นายกฯ ได้เดินพบปะทักทายประชาชนที่มาร่วมงานอย่างเป็นกันเอง
สำหรับการทำพิธีมอบสัญญาที่ราชพัสดุให้กับผู้เช่าที่ราชพัสดุตามโครงการ “หนองวัวซอโมเดล” วันนี้ เกิดจากสำนักงานธนารักษ์พื้นที่อุดรธานีได้ดำเนินการบริหารจัดการที่ราชพัสดุในความครอบครองของกระทรวงกลาโหม โดยกองทัพบก “หนองวัวซอโมเดล” บนที่ดินราชพัสดุแปลงหมายเลขทะเบียนที่ อด. 1816 (บางส่วน) ตำบลหมากหญ้า อำเภอหนองวัวซอ จังหวัดอุดรธานี โดยมีผลการดำเนินงานสำคัญ ได้แก่ การจัดทำสัญญาเช่าที่ราชพัสดุ จำนวน 434 ราย 584 แปลง จำแนกเป็นเพื่ออยู่อาศัย 105 แปลง เนื้อที่ประมาณ 39-2-87 ไร่ และเพื่อการเกษตร 479 แปลง เนื้อที่ประมาณ 3,133-2-97 ไร่ นอกจากนี้ ยังได้มีการนำเสนอเกี่ยวกับวิสาหกิจชุมชนในการพัฒนาเกษตรสมัยใหม่ร่วมกับภาคธุรกิจ เพื่อส่งเสริมขีดความสามารถของกลุ่มเกษตรกรในการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมในการทำการเกษตร รวมถึงการสร้างเครือข่ายความร่วมมือกับหน่วยงานและภาคธุรกิจที่เกี่ยวข้อง เพื่อการขับเคลื่อนการปรับเปลี่ยนภาคเกษตรของไทยสู่เกษตรสมัยใหม่ด้วย
ทั้งนี้ กอ.รมน. จะร่วมบูรณาการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อขยายผลการบริหารจัดการที่ดินในความครอบครองของกองทัพให้ประชาชนใช้ประโยชน์ โดยยึด “หนองวัวซอโมเดล” เป็นต้นแบบ ในพื้นที่อื่น ๆ ของกองทัพ ซึ่งในระยะแรก นอกเหนือจากโครงการหนองวัวซอแล้ว ยังมีพื้นที่อื่น ได้แก่ พื้นที่ของกองบัญชาการกองทัพไทย บริเวณบ้านแก่งประลอมและบ้านพุราด อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี พื้นที่ของกองทัพอากาศ บริเวณสนามบินนครพนม จ.นครพนม และพื้นที่ของกองทัพเรือ บริเวณป้อมพระจุลจอมเกล้า จ.สมุทรปราการ ทั้งนี้ เพื่อให้การใช้ที่ดินของประเทศเกิดประโยชน์สูงสุดตามนโยบายของรัฐบาลต่อไป