In Bangkok
กทม.จัดหน่วยบริการสาธารณสุขเคลื่อนที่ แนะกลุ่มเสี่ยงป้องกันตัวเองฝุ่น PM2.5
กรุงเทพฯ-นายสุนทร สุนทรชาติ ผู้อำนวยการสำนักอนามัย (สนอ.) กทม.กล่าวถึงการดูแลประชาชนที่ได้รับผลกระทบทางสุขภาพจากฝุ่น PM2.5 ของสถานพยาบาลในสังกัด กทม.ว่า สนอ.ได้ขับเคลื่อนมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่น PM2.5 ในพื้นที่กรุงเทพฯ มาอย่างต่อเนื่อง โดยบูรณาการความร่วมมือกับสำนักงานเขตและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยให้ศูนย์บริการสาธารณสุข กทม.ทั้ง 69 แห่ง จัดทีมออกหน่วยบริการสาธารณสุขเคลื่อนที่และทีมปฏิบัติการลงพื้นที่ชุมชนและเยี่ยมติดตามผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยง เพื่อให้ความรู้และคำแนะนำในการดูแลและป้องกันตนเองจากฝุ่น PM2.5 รวมทั้งได้แจกหน้ากากอนามัยไปแล้ว 46,662 ชิ้น ขณะเดียวกันได้ติดตามเยี่ยมผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยงจากฝุ่น PM2.5 ได้แก่ ผู้ป่วยกลุ่มเด็ก 315 คน ผู้ป่วยกลุ่มผู้สูงอายุ 3,672 คน ผู้ป่วยกลุ่มโรคระบบทางเดินหายใจ 264 คน ผู้ป่วยกลุ่มโรคหัวใจและหลอดเลือด 1,090 คน และกลุ่มหญิงตั้งครรภ์ 17 คน
นอกจากนั้น ได้ส่งมอบหน้ากากอนามัยสำหรับผู้ใหญ่และเด็กให้ฝ่ายสิ่งแวดล้อมและสุขาภิบาล 50 สำนักงานเขต เพื่อนำไปแจกจ่ายให้ประชาชนกลุ่มเปราะบาง เช่น เด็ก ผู้สูงอายุ หญิงตั้งครรภ์ กลุ่มที่มีโรคระบบทางเดินหายใจและโรคหัวใจ และประชาชนกลุ่มเสี่ยง อาทิ ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์รับจ้าง ผู้ค้าริมถนน และประชาชนทั่วไปที่ใช้ชีวิตนอกอาคาร เพื่อป้องกันและดูแลสุขภาพจากปัญหาฝุ่น PM2.5 โดยได้แจกหน้ากากอนามัยไปแล้ว 703,510 ชิ้น รวมทั้งได้ส่งมอบเครื่องฟอกอากาศให้แก่สถานรับเลี้ยงเด็กกลางวัน (Day Care) ที่ตั้งอยู่ในศูนย์บริการสาธารณสุข กทม.เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนให้จัดทำห้องปลอดฝุ่นสำหรับเด็กเล็ก เพื่อลดโอกาสรับสัมผัสมลพิษทางอากาศภายในภาวะที่เกิดฝุ่น PM2.5 เพิ่มสูงขึ้นในบรรยากาศ นอกจากนี้ ได้ให้บริการรักษาพยาบาลผู้ป่วยกลุ่มโรคที่เกิดจากฝุ่น PM2.5 ที่มารับบริการที่ศูนย์บริการสาธารณสุขตั้งแต่เดือน พ.ย.66 จนถึงปัจจุบัน ซึ่งจำแนกตามโรค ดังนี้ โรคหืดเฉียบพลัน 825 คน โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง 4,228 คน โรคหัวใจขาดเลือดแบบเฉียบพลัน 410 คน โรคเยื่อบุตาขาวอักเสบ 3,579 คน โรคผื่นผิวหนังอักเสบ 6,484 คน และโรคผื่นลมพิษ 629 คน