Authority & Harm

ผบช.7รับคำสั่งนายกฯ'กาญจน์คือจุดอ่อน' ลั่นใช้ยาแรงปราบ3ม.'ม้า-ไม้-มอญ'



กาญจนบุรี-นายกรัฐมนตรี ลั่นต้องใช้ยาแรง  เรียก ผบช.ภาค 7 หารือบอกเมืองกาญน์ อ่อนมากๆ หากจุดใดอ่อนแอก็ต้องปรับเปลี่ยน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังนายกฯ เรียก ผบช.ภ.7 เข้าพบพูดคุยถึงมีข้าราชการรับผลประโยชน์ โดยเฉพาะมีอยู่ 3 ม. คือ ม้า ไม้ มอญ  จึงทำให้เมืองกาญจน์  อ่อน มากๆ เชิญหน่วยงานเกี่ยวข้อง ประชุมหารือนานกว่า 3 ชั่วโมง สนองคำสั่งนายกรัฐมนตรี รอง.ผบ.ตร. ผบช. ภาค 7 เชิญหน่วยงานเกี่ยวข้องร่วมประชุมให้ร่วมทำการบูรณาการเร่งด่วน  

โดยในที่ประชุมเน้นย้ำ 5 เรื่องประกอบด้วย 1. เรื่องการแก้ปัญหายางพาราเถื่อน  2.เรื่องการเผาป่าต้นตอฝุ่น PM 2.5  3.เรื่องเงินหนี้นอกระบบ  4.เรื่องยาเสพติด 5.เรื่องแรงงานต่างชาติ  นายกรัฐมนตรี ลั่นต้องใช้ยาแรง  บอกเมืองกาญน์เลาะมากๆ  หากจุดใดอ่อนแอก็ต้องปรับเปลี่ยนทันที 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าวันที่ 23 ก.พ. 2567 ที่ผ่านมา พล.ต.อ.กิตติรัฐ  พันธุ์เพ็ชร รอง ผบ.ตร. พล.ต. ท.นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต ผบช.ภ.7  พร้อม รอง ผบช.ภาค 7  นายรณภพ  เวียงสิมมา รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี  รอง ผอ.กอ.รมน.จังหวัดกาญจนบุรี  ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาญจนบุรี  ผู้กำกับสถานีตำรวจทั้ง 21 สภ. และหัวหน้าหน่วยงานเกี่ยวข้องทุกหน่วยประกอบด้วย สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมจังหวัดกาญจนบุรี 

โดยในที่ประชุมได้กล่าวถึงเรื่องที่นายกรัฐมนตรี ได้เชิญหัวหน้าส่วนราชการเข้าไปพูดคุย รวมถึงล่าสุดได้เชิญ พล.ต.ท นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต ผู้บัญชาการตำรวจภาค 7 เข้าไปพบช่วงบ่ายของวันที่ 22 ก.พ. 2567 ที่ผ่านมา ซึ่งทางผู้บัญชาการตำรวจภาค 7 ได้กล่าวในที่ประชุมว่า ท่านนายกรัฐมนตรี ได้พูดถึง 3 ม. ว่าในจังหวัดกาญจนบุรี มีข้าราชการเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับทางผู้ประกอบการเรียกรับเงิน ทำให้จังหวัดกาญจนบุรี เวลานี้เลาะมากๆ และเชิญหน่วยงานเกี่ยวข้อง ประชุมนานกว่า 3 ชั่วโมง สนองคำสั่งนายกรัฐมนตรี รอง.ผบ.ตร. ผบช. ภาค 7 เชิญหน่วยงานเกี่ยวข้องร่วมประชุมให้ร่วมทำการบูรณาการเร่งด่วน  

โดยในที่ประชุมเน้นย้ำ 5 เรื่องประกอบด้วย 1. เรื่องการแก้ปัญหายางพาราเถื่อน  2.เรื่องการเผาป่าต้นตอฝุ่น PM 2.5  3.เรื่องเงินหนี้นอกระบบ  4.เรื่องยาเสพติด 5.เรื่องแรงงานต่างด้าว ฝากให้ทุกหน่วยเป็นเจ้าภาพดูแลอย่างจริงจัง

จากนั้น พล.ต.อ.ก กิตติรัฐ  พันธุ์เพ็ชร รอง ผบ.ตร. ประธานในที่ประชุม ได้กล่าวว่าการลงพื้นที่ครั้งนี้ ไม่ได้มาในฐานะรัฐบาล แต่เนื่องจากรับทราบเรื่องที่นายกรัฐมนตรี ได้เชิญผู้บัญชาการภาค 7 เข้าไปพูดคุย ตนจึงต้องลงมาร่วมประชุมหารือในเรื่องนี้ด้วย และขอให้ทุกหน่วยงานเกี่ยวข้องเป็นเจ้าภาพ ช่วยกันแก้ไขปัญหาต่างๆ ตามที่นายกรัฐมนตรี พูดมาเช่นเรื่องสถานการณ์สภาพอากาศและปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5  เรื่องปัญหายางพาราเถื่อน  เรื่องเงินหนี้นอกระบบ  เรื่องยาเสพติด และเรื่องแรงงานต่างด้าวเข้าเมือง ทั้ง 5 เรื่อง สำคัญนี้

วันนี้ทุกหน่วยต้องมาบูรณาการร่วมกันอย่างจริงจัง ไม่เช่นนั้นบ้านเมืองเกิดปัญหาตามมาแน่นอน หลังจากนี้ไปจุดใดอ่อนแอก็ต้องมีการปรับเปลี่ยนเอาคนที่ทำงานเข้าไปทำงานต่อไป ผบช.ภาค 7 พูดถึงที่นายกรัฐมนตรีเรียกเข้าพบโดยตนเองไม่ได้โต้ตอบอะไรเลย ก่อนออกจากท่านมา แล้วเร่งดำเนินการทันที ปรับชุดเฉพาะกิจลงพื้นที่ตั้งจุดสกัดเพิ่มบริเวณแยก อำเภอทองผาภูมิ ทันที

หลังจากใช้เวลาประชุมร่วมนานกว่า 3 ชั่วโมง ทีมคณะ รอง ผบ.ตร. และ ผบช.ภาค 7 ได้ลงตรวจเยี่ยมเจ้าหน้าที่บริเวณด่านจุดตรวจร่วมทองผาภูมิ และด่านตรวจในอำเภอสังขละบุรี เพื่อเป็นขวัญกำลังใจแก่ผู้ปฏิบัติงานประจำด่านตรวจร่วมอีกด้วย 

มีรายงานข่าวว่า มีบริษุทรับจ้างนำแรงงานต่างด้าวเข้ามาทำงานในประเทศไทย ซึ่งจากการสืบสวนทางลับพบว่า มีเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง บางคน เล่นแร่แปรธาตุ และมีผลประโยชน์ในการนำแรงงานเถื่อน มาออกใบอนุญาติทำงาน มาทำให้มันถูกต้องซึ่งพอจะรู้เบาะแสแล้วว่า กระทำกันเป็นขบวนการนำแรงงานเถื่อนเข้ามาทำทะเบียนถูกต้อง