In News
'สมศักดิ์'แนะเขตตรวจราชการที่12,17,18 รวบรวมโครงการนำเสนอสทนช.โยกงบฯ
"สมศักดิ์” แนะ เขตตรวจราชการที่12,17,18 รวบรวมโครงการน้ำ เสนอ สทนช.จะได้โยกงบไปพัฒนาด้านอื่นแทน ย้ำ จะช่วยแก้จน ด้วยโครงการโคแสนล้าน เชื่อ เลี้ยง 4 ปี จะมีมูลค่า 5 แสนล้านบาท เตรียมดัน สัตวบาลอาสา ตำบลละ 1 คน
วันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2567 นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตนได้มีโอกาสร่วมประชุมและติดตามการปฏิบัติราชการในเขตตรวจราชการ ที่ต้องรับผิดชอบ โดยมีเขตตรวจราชการที่ 12 กลุ่มภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนกลาง จังหวัดกาฬสินธุ์ ขอนแก่น มหาสารคาม ร้อยเอ็ด เขตตรวจราชการที่ 17 ตาก พิษณุโลกเพชรบูรณ์ สุโขทัย อุตรดิตถ์ และเขตตรวจราชการที่ 18 กำแพงเพชร นครสวรรค์ พิจิตร อุทัยธานี โดยในส่วนนี้ ตนมีอำนาจในการอนุมัติการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบกลาง รายการเงินสำรองจ่าย เพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นให้แก่หน่วยงานของรัฐ
นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า ขอขอบคุณผู้ว่าราชการจังหวัด ทั้ง 13 จังหวัด ที่ได้ร่วมประชุม และเสนอโครงการมา ซึ่งเป็นเรื่องของอาชีพ เรื่องของโครงสร้างพื้นฐาน เช่นถนน แหล่งน้ำ โดยทั้งสองสิ่งนี้ ตนอยากทำให้มากที่สุด พร้อมมองว่า เรื่องน้ำ สามารถของบประมาณจาก สทนช.ได้ ซึ่งจะทำให้งบประมาณในส่วนนี้ สามารถนำไปพัฒนาด้านอื่นได้อีก ดังนั้น ขอให้ผู้ตรวจราชการ ช่วยกันรวบรวมโครงการที่เกี่ยวกับน้ำทั้งหมด เพื่อผลักดันเข้าสู่เว็ปไทยวอเตอร์แพลน ให้ สทนช.พิจารณาตามขั้นตอนต่อไป
“ส่วนการส่งเสริมอาชีพ เพื่อแก้ปัญหาความยากจน ผมได้ผลักดันโครงการโคแสนล้าน ซึ่งในแต่ละจังหวัดอย่างน้อยต้องมีประมาณ 5,000 ครอบครัว โดยทางผู้ว่าราชการจังหวัด และทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ต้องช่วยกันพิจารณาว่า ครอบครัวไหนบ้างที่มีความพร้อม และมีศักยภาพในการเลี้ยงวัว โดยจากการทำโครงการนำร่อง 4 ปี ถือว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก จึงขอให้ทางจังหวัด ช่วยอบรมในเรื่องผสมเทียม จะได้มีสัตวบาลอาสา ซึ่งผมอยากให้มีตำบลละ 1 คน จะได้เพียงพอต่อการดูแลสมาชิกที่เลี้ยงวัว โดยกองทุนหมู่บ้านฯ มีสมาชิก 13 ล้านคน หากเริ่มต้นเลี้ยง 2 ตัว ผ่านไป 4 ปี จะมีรายได้รวมทั้งหมดถึง 5 แสนล้านบาท” รองนายกรัฐมนตรี กล่าว
นายสมศักดิ์ กล่าวต่อว่า ส่วนครอบครัวที่ยากจน ตนอยากให้มีการจัดอบรมการทำบัญชีครัวเรือน เพื่อจะได้รู้การใช้จ่ายและการอดออม รวมถึงการหารายได้เพิ่ม ตนจึงเสนอโครงการวัว เพื่อเป็นรายได้เสริม ส่วนเกษตรฯด้านอื่น ตนก็ยินดีที่จะส่งเสริมอาชีพให้ พร้อมมั่นใจว่า หากเราไม่ทำในเรื่องของปศุสัตว์ ประชาชนจะไม่สามารถหลุดพ้น จากความยากจนได้ ตนจึงผลักดันอย่างเต็มที่ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชน