In News

แม่สายอ่วม!ติดโควิดนำโด่งเพิ่ม15ราย



เชียงราย-แม่สาย โควิดพุ่ง นำโด่ง สะสม 120 ราย เพิ่ม 15 ราย คนงานก่อสร้างโอดครวญ กักตัวไร้เยียวยา ชี้ เพราะไม่ล็อกดาวน์ก่อนสงกรานต์ ทำให้มีผู้นำเชื้อเข้ามาแพร่กระจายในพื้นที่ ทางด้าน รพ.แม่สาย กักตัวหมอและบุคลากร 88 คน หลัง มีผู้ป่วยไวรัสโควิด -19  เข้าทำการรักษาจำนวนมาก  และมีผู้ป่วยรายหนึ่งซึ่งป่วยเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย นอนรักษาตัวอยู่แล้วต่อมาเสียชีวิตและตรวจพบเชื้อโควิด-19 ทำให้แพทย์ที่ตรวจคนไข้ 7 คน และบุคคลกรที่เกี่ยวข้อง  ต้องถูกกักตัว 14 วัน  จึงไม่สามารถหมุนเวียนบุคคลากรได้เพียงพอ ทางด้าน สาธารณสุข และ รพ.แม่สาย จะเปิดปฏิบัติการ “ปูพรมค้นหาผู้สัมผัสเชื้อเชิงรุก” (ACF) ที่ หอประชุมพระเจ้าพรหมมหาราช 1-2 พ.ค.อีกรอบ

เมื่อวันที่ 30 เม.ย.64 สาธารณสุข จังหวัดเชียงราย รายงวานว่า  จ.เชียงราย มีผู้ป่วยเพิ่มขึ้น 26 ราย รวมจำนวนผู้ป่วยสะสม 364 ราย และรักษาหายแล้ว 209 ราย ทำให้คงเหลือผู้ป่วยที่ยังรักษาตัวอยู่อีก 154 ราย เสียชีวิต 1 ราย แยกเป็น อ.แม่สาย ตัวเลขสะสมนำมากสุดในจังหวัด 120 ราย เพิ่มจากวานนี้ 15 ราย ,อ.เมืองเชียงราย 112 ราย เพิ่ม 1 ราย ,พาน 47 ราย (+7),แม่จัน 11 ราย ,แม่ลาว 10 ราย ,แม่ฟ้าหลวง 11 ราย(+1),เทิง 6 ราย, เชียงของ 6 ราย ,เวียงป่าเป้า 20 ราย(+1),เชียงแสน 5 ราย,แม่สรวย 6 ราย(+1),พญาเม็งราย 4ราย,ขุนตาล 3 ราย,เวียงแก่น 2 ราย,เวียงชัย 1 ราย โดยผู้ป่วยมีอาการจะส่งเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ ส่วนที่ไม่มีอาการก็ให้อยู่ที่ Hospitel และ โรงพยาบาลศูนย์การแพทย์มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง และเมื่อรักษาครบ 10 วันก็ให้กลับไปดูแลตัวเองที่บ้านอีก 14 วันหากไม่พบเชื้อก็ถือว่าหายขาด 

และ จากกรณีเมื่อวานที่ 29 เม.ย.นายมุ้ง อายุ 26 ปี เป็นคนงานก่อสร้างได้ไปตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-19 ผลออกมาเป็นบวก เจ้าหน้าที่สาธารณสุขอำเภอแม่สาย ได้ประสานมารับตัวไปรักษา นางนามตาล (ภรรยา)และลูกสาววัย 4 ขวบ ถูกกักตัวที่บ้านเช่า จากการสอบถามนางนามตาล ถึงสาเหตุของการติดเชื้อ ทราบว่าสามีมีอาชีพช่างก่อสร้างรายวัน ได้เดินทางไปทำงานที่เชียงรายทุกวันร่วมกับผู้รับเหมาและทีมงาน โดยมีผู้รับเหมานำรถยนต์กะบะมารับ นั่งไปกับทีมงาน 17-18 คน เพื่อไปทำงาน จากการที่พบว่า นายมุ้ง ช่างก่อสร้างติดเชื้อโควิด-19 และเคยนั่งกะบะท้ายรถปิกอัพไปกับทีมงาน จึงได้รับเชื้อไวรัสมาอย่างไม่ได้ตั้งใจ  นางนามตาล (ภรรยา) เล่าว่า ครอบครัวมีฐานะยากจน บ้านต้องเช่ารวมค่าน้ำค่าไฟ เดือนละ 1500 บาท และต้องกินต้องใช้ทุกวัน และในช่วงเช้าวันที่ 30 เม.ย. ทางโรงพยาบาลนัดให้ไปตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-19 ทั้ง 2 แม่ลูกมีเงินติดตัว 4,000 บาท สองแม่ลูกตรวจมีค่าใช้จ่ายคนละ 1,900 บาท สองคนรวม 3,800 บาท เหลือเงินติดตัว 200 บาท เนื่องจากตนเองไม่มีบัตรสถานะทางทะเบียน จึงมีค่าใช้จ่าย และยังรอผลการตรวจ ทั้งนี้ตนเองยังคิดว่า จะเอาเงินที่ไหนมาใช้เลี้ยงปากท้องสองแม่ลูก เพราะถูกกักตัว 14 วัน แต่ไม่มีหน่วยงานไหน หรือมีใครให้การช่วยเหลือ แต่ก็ต้องกักตัวให้ครบ เพื่อไม่ให้มีการเสี่ยงระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 

คนจนหลายคนที่ถูกกักตัว 14 วัน จากการไปสัมผัสผู้ป่วยติดเชื้อไวรัส อย่างไม่ได้ตั้งใจ เป็นคนหาเช้ากินค่ำ ไม่มีเงินต่อยอดการกักตัว 14 วันที่บ้าน บางรายไม่มีญาติพี่น้อง และไม่มีการเยียวยา ทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ ว่า ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ทำไมไม่มีการล็อกดาวน์จังหวัด จึงมี ปปช.จากต่างพื้นที่เดินทางเข้ามาพักเขตเชียงราย ทุกอำเภอ ทำให้เกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 มาถึงวันนี้ 

 ทำให้คนจนที่เป็นกลุ่มกักตัวอยู่บ้าน 14 วัน หมดหวังไร้การเหลียวแลไม่มีการเยียวยาดูแลปากท้องคนจน ไม่มีมาตรการรองรับคนจน ที่กักตัวอยู่บ้าน 14 วัน ต้องรอดูว่าผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมืองจะแก้ไขอย่างไรต่อไป

ทางด้าน ร.พ.แม่สาย ประกาศผ่านเพจ Maesai Hospital ว่า ตอนนี้บุคลากรทางการแพทย์ รพ.แม่สาย  รวม 88 คน ต้องกักตัว 14 วัน ประกอบด้วย แพทย์ 7 คน ,พยาบาล 43 คน, ผช.12 คน,พนง.เปล  รปภ.  แม่บ้าน  26 คน 

ดังนั้นช่วงนี้จึงงดรับผู้ป่วยทั่วไป ยกเว้นฉุกเฉิน และผู้ป่วยหนักด้านระบบทางเดินหายใจ โดยสาเหตุทราบว่า เนื่องจากมีผู้ป่วยไวรัสโควิด -19  เข้าทำการรักษาจำนวนมาก  และมีผู้ป่วยรายหนึ่งซึ่งป่วยเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย นอนรักษาตัวอยู่แล้วต่อมาเสียชีวิตและตรวจพบเชื้อโควิด-19 คาดว่าจะติดมาจากญาติที่มาเยี่ยมก็เป็นได้  ทำให้แพทย์ ที่ตรวจคนไข้ 7 คน และบุคคลกรที่เกี่ยวข้อง  ต้องถูกกักตัว 14 วัน  จึงไม่สามารถหมุนเวียนบุคคลากรได้เพียงพอ   

เช่นเดียวกับ ตลาดสดบ้านป่าเหมือด ต.เวียงพางคำ ประกาศปิด 14 วัน เพื่อดูสถานการณ์โควิด-19 และแจ้งว่าจะถือโอกาสปรับปรุงตลาดและหลังคาไปในตัว หลังจากมีผู้ป่วยเพิ่มขึ้นในพื้นที่ 

นายนรุตม์ชัย แก้วสอน สาธารณสุขอำเภอแม่สาย   เปิดเผยว่า ในวันที่ 1-2 พ.ค.64 นี้ ศูนย์ปฏิบัติการด้านการแพทย์และสาธารณสุขอำเภอแม่สาย และ และ รพ.แม่สาย นำโดย นายแพทย์ศิริศักดิ์ นันทะ ผ.อ.โรงพยาบาลแม่สาย  และ  นายนรุตม์ชัย แก้วสอน สาธารณสุขอำเภอแม่สาย  จะได้เปิด ปฏิบัติการ “ปูพรมค้นหาผู้สัมผัสเชื้อเชิงรุก” (Active cases finding : ACF) ที่ หอประชุมพระเจ้าพรหมมหาราช ด้านหลังที่ว่าการอำเภอแม่สาย  ตั้งแต่เวลา 09.00 น.-15.00 น. ปูพรมตรวจกลุ่มเสี่ยงในพื้นที่ ประมาณ 700 ราย โดยการ Swap ตรวจให้ฟรี แต่ต้องมาจากพื้นที่เสี่ยงที่มีการระบาดในพื้นที่ และเสี่ยงใกล้ชิดกับผู้ป่วยโควิด-19 หากไม่มีความเสี่ยงขอให้ผู้ที่เสี่ยงกว่าได้ตรวจก่อน และทางตนทราบแล้วว่า กรณีบุคลไหม่มีสถานะทางทะเบียนไปตรวจหาเชื้อโควิด-19 ต้องเสียค่าตรวจในสถานพยาบาลของรัฐ ประมาณ 1,900 บาท ซึ่งกำลังหาทางแก้ไขจึงเปิด ปฏิบัติการ “ปูพรมค้นหาผู้สัมผัสเชื้อเชิงรุก” ครั้งนี้ เป็นครั้งที่สอง หลังจากเคยตรวจไปเมื่อ วันที่ 19-23 เม.ย.ตรวจไปแล้ว 1,277 คน พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 15 คน    

ธีรวัฒน์ คำธิตา/เชียงราย