In Thailand
จิตอาสาอำเภอต้นแบบ'ประสงค์โมเดล' แก้ไขปัญหาความเดือดร้อนประชาชน
สุราษฏร์ธานี-(โรงเรียน ตชด.ราชพิทักษ์ อ.ท่าชนะ)-จิตอาสาขับเคลื่อนโครงการจิตอาสาอำเภอต้นแบบจัดตั้งตำบลโมเดล ภายใต้ชื่อ“ประสงค์โมเดล” แก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน โดยมีโรงเรียนเป็นศูนย์กลาง และมีเด็กเป็นแกนกลาง เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของพี่น้องประชาชน ให้อยู่ดี กินดี มีความสุข และเพื่ออนาคตของประเทศชาติ
เมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2567 เวลา 1330 ณ โรงเรียน ตชด.ราชพิทักษ์ หมู่ที่ 11 ตำบลประสงค์ อำเภอท่าชนะ จังหวัดสุราษฎร์ธานี พันเอกภัทรชัย แทนขำ รองเลขานุการ ศูนย์อำนวยการจิตอาสาพระราชทานภาค 4 เป็นประธานการประชุมขับเคลื่อนโครงการจิตอาสาอำเภอต้นแบบ พร้อมด้วย น.ส.สวาท สิทธิไทย
ผู้อำนวยการโรงเรียน ตชด.ราชพิทักษ์ นายเสาวพจน์ รัตนบุรี รองศึกษาธิการจังหวัดสุราษฎร์ธานี นายชัยณรงค์ วจนะเสถียร ปลัดอำเภออาวุโสผู้แทนนายอำเภอท่าชนะ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 11 หน.จิตอาสาภาคประชาชนตำบลประสงค์ คณะทำงานหมู่ 4 เข้าร่วมประชุม หารือขับเคลื่อน ประเด็นการพัฒนาคุณภาพชีวิตของชุมชนและสร้างความเข้มแข็งของครอบครัว โดยเริ่มจากปัญหาของเด็กจากการลงเยี่ยมบ้านของครู ได้แก่ปัญหาความเป็นอยู่ของเด็กนักเรียน ปัญหาครอบครัว ปัญหาชุมชน ปัญหายาเสพติด ปัญหาภัยแล้ง ปัญหาคุณภาพชีวิต เป็นต้น
เวลา 1500 ลงพื้นที่เยี่ยมบ้านเด็กนักเรียน เรียนดีแต่ขาดโอกาส จำนวน 1 ราย ด.ช.ธีระภัทร์ จักนามน อายุ 11 ปี
บ้านเลขที่ 130 ม.11 ต.ประสงค์ อ.ท่าชนะ จ.สุราษฎร์ธานี ชั้น ป.5 ซึ่งอาศัยอยู่กับตายาย ซึ่งมีรายได้ไม่แน่นอน ตาป่วยเป็นโรค และน้องป่วยเป็นโรคสมาธิสั้น ภูมิคุ้มกันบกพร่อง โรคไต ไม่สามารถนั่งเรียนเป็นเวลานานได้ และได้ลงพื้นที่ในการสร้างฝายมีชีวิตเพื่อใช้ในการเกษตร ตามที่ชุมชนประสบปัญหาภัยแล้ง ทั้งนี้ ทางคณะทำงานจะสรุปในการหาแนวทางการช่วยเหลือต่อไป เพื่อให้เด็กมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นจะส่งเสริมคุณภาพการศึกษาที่ดีขึ้นตามมาด้วย
พันเอก ภัทรชัย แทนขำ กล่าวว่า“ การขับเคลื่อนโครงการจิตอาสาอำเภอต้นแบบเพื่อต้องการสร้างตำบลโมเดลให้เป็นแบบอย่าง และขยายผลไปยังตำบล อำเภออื่นๆ โดยตำบลโมเดล คือ ตำบลจิตอาสา ที่มีคุณภาพชีวิตที่ดี ประชาชนอยู่ด้วยกันด้วยความรักความสามัคคี มีความสุข ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน มีการตื่นตัวในการรับมือปัญหาต่างๆ ที่จะเกิดขึ้น ทำให้ชุมชนเข้มแข็ง โรงเรียนเข้มแข็ง ด้วยความมีจิตอาสาของทุกภาคส่วน ประชาชน ภาครัฐ เอกชน และสถาบันการศึกษา”