In News
นายกฯเดินทางร่วมประชุมอาเซียน-ออสซี่ สู่ออสเตรเลียถกจุดยืนไทย/ดึงนักลงทุน
กรุงเทพฯ-นายกฯ เผยหลังกลับออสเตรเลีย คาดอาจมีแถลงผลการทำงานรัฐบาล 6 เดือน ย้ำภารกิจรัฐบาลยังมีอีกมาก เรื่องใดยังไม่ดีพอต้องดำเนินการต่อไป ส่วนการเดินทางร่วมประชุมสุดยอดอาเซียน-ออสเตรเลีย สมัยพิเศษ จะมีการหารือประเด็นสำคัญกับผู้นำหลายประเทศ และเตรียมความพร้อมโครงการของไทยไปแสดงในงาน The MIPIM Awards ในปีหน้า
วันนี้ (4 มีนาคม 2567) เวลา 08.10 น. ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จังหวัดสมุทรปราการ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์ก่อนเดินทางไปร่วมประชุมสุดยอดอาเซียน-ออสเตรเลีย สมัยพิเศษ (2024 ASEAN-Australia Special Summit) ว่า ภารกิจของรัฐบาลยังมีอีกมาก บางเรื่องยังทำได้ไม่ดีพอ แต่เราก็ต้องดำเนินการกันต่อไป โดยระหว่างเดินทางมาสนามบินได้โทรสั่งงานตลอด เรื่องของความมั่นคง เรื่องของชายแดนที่ต้องดำเนินการอยู่ เชียงใหม่ก็เริ่มมีปัญหาเรื่องไฟป่า ซึ่งเมื่อวานที่ประชุมครม. ได้มีการอนุมัติงบกลางไปช่วยเหลือเพื่อนำงบไปจ้างบุคลากรเพิ่มสำหรับการดูแลป้องกันเรื่องตรงนี้ให้ดี
ทั้งนี้นายกฯ ได้ย้ำว่าให้ผลงานเป็นตัวพิสูจน์บางเรื่องต้องมีการดำเนินการไปก่อนและสิ่งต่าง ๆ ก็จะทยอยเป็นรูปธรรมออกมา ทั้งนี้ภายหลังเดินทางกลับจากการประชุมสุดยอดอาเซียน-ออสเตรเลีย สมัยพิเศษ (2024 ASEAN-Australia Special Summit) คาดว่าประมาณวันที่ 15 หรือ 16 มีนาคม2567 จะมีการแถลงผลการทำงานของรัฐบาลในระยะเวลา 6 เดือน ที่เราได้ไปพบกับบริษัทใหญ่ต่าง ๆ มานั้น ผลสำเร็จเป็นอย่างไร และใครกำลังอยู่ในขั้นตอนไหนบ้าง เพราะได้รับเสียงสะท้อนมาว่าแค่เดินทางไปต่างประเทศแล้วยังไม่มีอะไรเป็นรูปธรรม ซึ่งนายกฯ พร้อมรับฟังและจะได้มาชี้แจงให้รับทราบ ส่วนเรื่องไหนที่ยังไม่ชัดเจนก็ให้แจ้งมา หากสามารถดำเนินการได้ก็จะดำเนินการให้ เพราะไม่อยากถูกต่อว่าโดยไม่เป็นความจริง หากดำเนินการแล้วยังไม่ดีพอก็ให้แจ้งมา รัฐบาลจะพยายามดำเนินการปรับปรุงในหลาย ๆ ด้าน ทั้งนี้ จากที่นายกฯ ได้ลงพื้นที่ไปพบปะกับคนที่อยู่ชายขอบของสังคมซึ่งต้องการการช่วยเหลืออยู่มาก แต่ก็ยังมีอีกหลายพื้นที่ที่ยังไม่ได้ลงพื้นที่ไป เช่น ชุมชนแออัดในกรุงเทพมหานคร ซึ่งนายกฯ กำลังให้ทีมงานของกรุงเทพมหานครเตรียมแผนให้อยู่ว่าจะลงพื้นที่ในโซนไหน
สำหรับปัญหาที่ดินทับซ้อนระหว่างส่วนราชการนั้น นายกฯ ย้ำว่า วันนี้ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จะมีการเรียกประชุมภายใน โดยขอให้เอาเรื่องที่ดินทำกินของประชาชนเป็นที่ตั้ง การจะดำเนินการเรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน ประเด็นกฎหมายมีความซับซ้อน ซึ่งจะต้องยึดแผนที่ทหารในมาตราส่วน 1 : 4,000 เป็นหลัก หากแผนที่ทหารสามารถสืบทราบได้อย่างชัดเจน ถ้าเกิดเป็นพื้นที่ป่าก็ปล่อยให้เป็นพื้นที่ป่าต่อไป ยืนยันว่าไม่มีการแทรกแซงใด ๆ ทั้งสิ้น เอาความต้องการของประชาชนเป็นที่ตั้ง และให้การดำเนินการทุกอย่างชัดเจน ถูกต้องตามกฎหมาย
นายกฯ เผยการเดินทางร่วมประชุมสุดยอดอาเซียน-ออสเตรเลีย สมัยพิเศษ
นายเศรษฐา ให้สัมภาษณ์ก่อนเดินทางไปออสเตรเลียว่า การเดินทางไปต่างประเทศครั้งนี้เป็นภารกิจการประชุมสุดยอดอาเซียน-ออสเตรเลีย สมัยพิเศษ (2024 ASEAN-Australia Special Summit) ประเทศอาเซียนหลายประเทศก็เดินทางเข้าร่วมด้วย ซึ่งจะมีการนัดพูดคุยกันหลายเรื่องกับหลาย ๆ ผู้นำ เช่น สมเด็จมหาบวรธิบดี ฮุน มาแนต นายกรัฐมนตรีราชอาณาจักรกัมพูชา นายดาโตะ เซอรี อันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย โดยจะพูดคุยเรื่องที่ยังค้างคาอยู่เกี่ยวกับการอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนสองประเทศในการเดินทางระหว่างประเทศ เรื่อง PM2.5 เรื่องพื้นที่ซับซ้อน ส่วนการคุยกับมาเลเซียจะเป็นเรื่องของ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เรื่องการเปิดพรหมแดนให้มีการค้าขายสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น ส่วนออสเตรเลียนั้นเป็นผู้ค้ารายใหญ่ที่สำคัญ ซึ่งจะมีการพูดถึงการแลกเปลี่ยนเรื่องการศึกษา การที่เขาจะมาให้ความช่วยเหลือเรื่องเกษตรแม่นยำ
นายกฯ กล่าวต่อว่า วันพุธที่ 6 มีนาคม 2567 ก็จะเดินทางต่อไปยังกรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี ไปกล่าวสุนทรพจน์ที่การประชุม ITB Berlin 2024 ซึ่งเกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว ช่วงบ่ายอาจจะมีการพูดคุยกับทางบริษัท Volkswagen เกี่ยวกับเรื่องของโรงงาน โดยเขาอาจจะมาตั้งโรงงานที่ประเทศไทย นอกจากนั้น จะเดินทางต่อไปยังกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ซึ่งจะมีการพบปะกับนักธุรกิจที่ฝรั่งเศส เช่น ดูเรื่องนิวเคลียร์ บริษัทแฟชั่นต่าง ๆ อีกทั้งจะพูดคุยเกี่ยวกับการนำรถ Formula one มาที่ประเทศไทยด้วย
รวมถึง นายกฯ กล่าวว่า วันจันทร์ที่ 11 มีนาคม จะพบกับเอมมานูเอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส เพื่อพูดคุยระดับทวิภาคี จากนั้นจะเดินทางต่อไปยังเมืองคานส์ ประเทศฝรั่งเศส เพื่อไปดูงาน The MIPIM Awards เป็นเวทีประกวดระดับโลกด้านอสังหาริมทรัพย์และค้าปลีก ที่จะมีการนำเมืองต่าง ๆ มาโชว์ Infrastructure โครงการ Megaproject เพราะว่าในปีหน้าประเทศไทยจะไปแสดงเรื่องของสนามบิน รวมไปถึงเรื่องอื่น ๆ ที่เรากำลังดำเนินการอยู่เพื่อเชิญชวนนักลงทุนหรือประกาศให้ประเทศต่าง ๆ ทราบว่าเราดำเนินการอะไรไปบ้าง นอกจากนั้น จะเดินทางกลับไปที่เยอรมนีอีกครั้ง เพื่อพูดคุยระดับทวิภาคีกับนายกรัฐมนตรีของเยอรมนี และจะเดินทางกลับประเทศไทยในวันพฤหัสบีดีที่ 14 มีนาคม โดยช่วงเย็น จะมีการประชุมสำคัญกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐอเมริกาด้วย
นายกฯ เน้นย้ำบทบาทไทยผสานความร่วมมือในภูมิภาค และแก้ไขทุกปัญหาความท้าทายร่วมกัน
ขณะที่นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเปิดเผยว่า วันนี้ เวลา 08.30 น. นายกรัฐมนตรีจะออกเดินทางจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ไปยังนครเมลเบิร์น เครือรัฐออสเตรเลีย (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 8 ชม. 55 นาที) เดินทางถึงท่าอากาศยานเมลเบิร์นเวลา 21.25 น. (เวลาท้องถิ่นนครเมลเบิร์น ซึ่งเร็วกว่าไทย 4 ชม.) เพื่อเข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน-ออสเตรเลีย สมัยพิเศษ (2024 ASEAN-Australia Special Summit) เพื่อฉลองวาระครบรอบ 50 ปี ความสัมพันธ์ ระหว่างวันที่ 4 – 6 มีนาคม 2567
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีระบุว่า ในการร่วมการประชุมครั้งนี้ นายกรัฐมนตรีจะหยิบยกประเด็นสำคัญที่เป็นประโยชน์กับไทยในการประชุมฯ ที่เกี่ยวข้องกับความร่วมมือ ได้แก่ ความเชื่อมโยงอย่างไร้รอยต่อ (Seamless Logistics) ทั้งด้านการลงทุน โครงสร้างพื้นฐาน และความเชื่อมโยงระหว่างประชาชน ซึ่งรวมถึง การใช้ประโยชน์จากข้อตกลงการค้าเสรี การลงทุนในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน (ท่าเรือ โครงการ Landbridge และ โครงการ EEC) เศรษฐกิจดิจิทัล และการอำนวยความสะดวกด้านวีซ่า รวมทั้ง วาระสีเขียว (Green Agenda) ที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม
โดยรวมถึงการผลักดันเพื่อแก้ไขปัญหาในระดับภูมิภาคและระหว่างประเทศ อาทิ การแข่งขันเชิงยุทธศาสตร์ ยืนยันย้ำท่าทีไทยในการเจรจาจัดทำประมวลการปฏิบัติในทะเลจีนใต้ (Code of Conduct in the South China Sea) ที่มีประสิทธิภาพ การให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมในเมียนมา ความมั่นคงด้านอาหารและสุขภาพ โดยเฉพาะการนำเสนอบทบาทที่สร้างสรรค์ของไทย โดยเฉพาะการผลักดันการจัดตั้ง ศูนย์อาเซียนว่าด้วยสาธารณสุขฉุกเฉินและโรคอุบัติใหม่ (ACPHEED) ให้เป็นรูปธรรม และร่วมกันต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เน้นความร่วมมือด้านการลงทุนและนวัตกรรมสีเขียว และการใช้นวัตกรรมในการรับมือกับการเปลี่ยนแปลง สภาพภูมิอากาศ
ซึ่งในโอกาสนี้นายกรัฐมนตรีมีกำหนดการพบหารือกับนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย นายกรัฐมนตรี สปป.ลาว นายกรัฐมนตรีเครือรัฐออสเตรเลีย และ นายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์ รวมทั้ง มีกำหนดการพบหารือกับผู้บริหารสำคัญของบริษัทระดับโลก อาทิ บริษัท Fortescue (เหมืองแร่และพลังงานสีเขียว) Linfox (คมนาคมและโลจิสติกส์) Redflow (ระบบกักเก็บ พลังงานจากสังกะสีและโบรมีน) ANCA (การพัฒนา software) NextDC (การบริหารข้อมูล) และ Hesta (กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ)
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีจะเสร็จสิ้นภารกิจที่นครเมลเบิร์นช่วงเย็นวันที่ 6 มีนาคม 2567 ตามเวลาท้องถิ่น และจะออกเดินทางจากท่าอากาศยานเมลเบิร์น ไปยังกรุงเบอร์ลิน สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี เพื่อร่วมงาน ITB Berlin 2024 ต่อไป และโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีจะประชาสัมพันธ์ข่าว ภาพ และวิดีโอจากการปฏิบัติภารกิจของนายกรัฐมนตรีอย่างต่อเนื่องต่อไป