Authority & Harm

อธิบดีกรมคุกได้เปิดสถานฝึกทักษะอาชีพ ผู้ต้องขังเรือนจำอ.ไชยาก่อนปล่อยตัว



สุราษฏร์ธานี-อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เปิดสถานฝึกทักษะอาชีพผู้ต้องขังและเตรียมความพร้อมก่อนปล่อย เรือนจำอำเภอไชยา ภายใต้แนวคิด Give Me a Chance : โอกาสสู่ ฅ.หลังกำแพง

เมื่อ(4 มี.ค.67) ที่เรือนจำอำเภอไชยา จังหวัดสุราษฎร์ธานี นายสหการณ์ เพ็ชรนรินทร์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เป็นประธานเปิดสถานฝึกทักษะอาชีพผู้ต้องขังและเตรียมความพร้อมก่อนปล่อย เรือนจำอำเภอไชยา ภายใต้แนวคิด Give Me a Chance : โอกาสสู่ ฅ.หลังกำแพง โดยมี นางสาวสาธิกา สามศรี ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาข้าราชการราชทัณฑ์ รักษาราชการแทน ผู้บัญชาการเรือนจำอำเภอไชยา พร้อมด้วย นายวิชาญ ศรีวิเศษ ผู้บัญชาการเรือนจำกลางสุราษฎร์ธานี ข้าราชการ เจ้าหน้าที่เรือนจำไชยา ร่วมต้อนรับ โดยก่อนเริ่มพิธีเปิด ได้มีการมอบประกาศเกียรติคุณแก่ส่วนราชการ ภาคเอกชน ที่สนับสนุนการดำเนินโครงการดังกล่าวและภารกิจต่างๆ ของเรือนจำไชยา จากนั้น ได้เปิด ไชยาคาร์แคร์ ซึ่งเป็นสถานฝึกอบรมทักษะอาชีพเพื่อเตรียมความพร้อมแก่ผู้ต้องขังก่อนปล่อยตัว และเยี่ยมชมการดำเนินงาน รวมถึง พบปะผู้ต้องขังชมรมทูบีนัมเบอร์วันและเยี่ยมชม ร้านกาแฟหับเผย คาเฟ่หน้าคุก @เรือนจำอำเภอไชยา จากนั้น ได้เข้าตรวจเยี่ยมการดำเนินงานทั้งการฝึกทักษะอาชีพให้กับผู้ต้องขังในเรือนจำ การแสดงความสามารถของผู้ต้องขัง ตลอดจน การดูแลคุณภาพชีวิตให้กับผู้ต้องขัง ซึ่งเรือนจำอำเภอไชยา สามารถดำเนินการได้ตามมาตรฐานของกรมราชทัณฑ์กำหนดและได้ดึงจุดแข็งจากความเป็นอัตลักษณ์ด้านศิลปะวัฒนธรรมเฉพาะของเมืองไชยา มาเป็น Soft Power ในการสร้างงาน สร้างอาชีพ อาทิ การทำไข่เค็มสูตรไชยา การทำผัดไทยไชยาและการสืบสานมวยไทยไชยา เป็นต้น

อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวว่า การเปลี่ยนเรือนจำ ให้เป็นโรงเรียนชีวิต หรือเป็นสถานฝึกทักษะอาชีพผู้ต้องขังและเตรียมความพร้อมก่อนปล่อย เป็นการสร้างโอกาสสำหรับคนหลังกำแพงที่จะได้ฝึกฝนทักษะอาชีพ รวมถึงเพื่อยกระดับการรับรู้ของประชาชน สังคม ได้ตื่นตัว เชื่อมั่น และสร้างวัฒนธรรมของการเปิดใจ มอบโอกาสเพื่อคืนคนดีมีคุณภาพสู่สังคม อีกครั้ง

สำหรับ เรือนจำอำเภอไชยา เป็นเรือนจำขนาดเล็กแดนเดียว มีอำนาจการควบคุมผู้ต้องราชทัณฑ์ทั้งชายและหญิง ไม่เกิน 10 ปี โดยได้วางยุทธศาสตร์ในการขับเคลื่อนภารกิจด้านการแก้ไขและพัฒนาพฤตินิสัยผู้ต้องขังในทุกมิติ น้อมนำ สืบสานโครงการพระราชทาน อย่างต่อเนื่อง มุ่งเน้นดูแลสุขภาวะทางกายควบคู่กับกิจกรรมจิตบำบัด ให้การช่วยเหลือสงเคราะห์ยกระดับความเป็นอยู่ตามหลักมาตรฐานสากล รวมไปถึงส่งเสริมด้านอาชีวะบำบัด ซึ่งจะเป็นต้นทุนชีวิตให้ผู้ก้าวพลาดหลังกำแพง สามารถนำไปต่อยอดเป็นอาชีพ และดำรงชีวิตได้อย่างมีคุณภาพหลังพ้นโทษ ไม่กลับมากระทำผิดซ้ำอีก