Authority & Harm

ทร.ภ.ที่๒/ศรชล.๒จับเรือประมงต่างชาติ รุกล้ำเข้าทำการประมงเขตทะเลไทย



สงขลา-พลเรือตรีโชคชัย เรืองแจ่ม เสนาธิการทัพเรือภาคที่ ๒ ได้แถลงข่าวการจับกุมเรือประมงต่างชาติสัญชาติเวียดนาม ซึ่งสามารถจับกุมได้โดยเรือหลวงเทพา ณ.ท่าเทียบเรือฐานทัพเรือสงขลา มีรายละเอียดการแถลงข่าวดังนี้

ในจันทร์ที่ ๔ มี.ค. ๖๗ ทัพเรือภาคที่ ๒ ได้รับแจ้งเบาะแสจากแหล่งข่าวในพื้นที่ว่ามีเรือประมงต่างชาติ เข้ามาทำการประมงผิดกฎหมายในน่านน้ำไทย บริเวณแบริ่ง ๑๗๐ ระยะ ๗๗.๕ ไมล์ จากปากร่องน้ำสงขลา ซึ่งอยู่ในเขตน่านน้ำภายใน

พลเรือโท พิจิตต ศรีรุ่งเรื่อง ผู้บัญชาการทั พเรือภาคที่ ๒ ได้สั่งการให้ เรือหลวงเทพาลาดตระเวนพิสูจน์ทราบ โดยในวันที่ ๓ มีนาคม ๒๕๖๗ เวลา ๑๗๓๐ เรือหลวงเทพา ตรวจพบเรือประมงสัญชาติเวียดนาม เป็นเรือคราดปลิง จำนวน ๑ ลำ ผู้ควบคุมพร้อมลูกเรือรวม ๕ คน บริเวณที่ได้รับแจ้งจากแหล่งข่าว กำลังลักลอบทำการประมง จึงได้ควบคุมเรือพร้อมลูกเรือทั้งหมด มายังท่เทียบเรือฐานทัพเรื่อสงขลา ทัพเรือภาคที่ ๒ เพื่อสอบสวนเพิ่มเติม และส่งดำเนินคดีตามกฎหมาย

การดำเนินคดีกับเรือประมงสัญชาติเวียดนามในครั้งนี้ เนื่องจากเป็นการจับกุมในพื้นที่เขตน่านน้ำภายในจึงได้ตั้งข้อกล่าวหาผู้กระทำความผิดไว้ ๓ ข้อหา ดังนี้

๑. ใช้เรือประมงไร้สัญชาติทำการประมงในเขตการประมงไทย (ตาม พ.ร.ก.การประมงพ.ศ.๒๕๕๘ ประกอบ มาตรา ๑๒๓)
๒. ร่วมกันทำการประมงพาณิชย์โดยไม่มีใบรับอนุญาตทำการประมง (ตาม พ.ร.ก.การประมงพ.ศ.๒๕๕๘ มาตรา ๓๖ ประกอบ มาตรา ๑๒๙)
๓. ทำการประมงในเขตการประมงไทยโดยทำหน้าที่ เป็นผู้ควบคุมเรือโดยไม่ได้รับอนุญาต(ตาม พ.ร.ก.ว่าด้วยสิทธิการประมงในเขตการประมงไทย พ.ศ.๒๔๘๒ มาตรา ๗ วรรคหนึ่ง ประกอบมาตรา ๑๑ วรรคหนึ่ง)

สำหรับการจับกุมเรือประมงต่างชาติในพื้นที่ทัพเรือภาคที่ ๒ ในปีงบประมาณ ๒๕๖๗ ตั้งแต่ตุลาคม ๒๕๖๖ จนถึงปัจจุบัน มีการจับกุมรวมในครั้งนี้แล้วจำนวน ๖ ครั้ง จับกุมเรือทั้งหมด ๗ สำ ผู้ควบคุมเรือพร้อมลูกเรือรวม จำนวน ๓๖ คนทั้งนี้การปฏิบัติดังกล่าว เป็นไปตามนโยบายผู้บัญชาการทหารเรือ ปี ๒๕๖๗ โดยร่วมกับ ศรชล.ภาค ๒ ในการประสานการปฏิบัติ ตั้งแต่ด้านการข่าว และจัดกำลังทางเรือ และอากาศนาวีลาดตระเวน เฝ้าตรวจ และคุ้มครองผลประโยชน์ของชาติทางทะเลอย่างต่อเนื่อง โดยเน้นย้ำการรุกล้ำน่านน้ำไทยของเรือประมงต่างชาติ เพื่อเข้ามาทำการประมงโดยผิดกฎหมาย จนประสบความสำเร็จในการจับกุมในครั้งนี้

ซัมซูดิน/รายงาน