Authority & Harm
หนุ่มหัวงูสร้างเฟซปลอมจีบเด็กนร.ม.ต้น แชทขู่เด็กถอดเสื้อผ้าลวงกระทำชำเรา
สิงห์บุรี-หนุ่มใหญ่หื่น สร้างเฟซปลอม ไล่จีบเด็กนักเรียน ม.ต้น แชทให้เด็กถอดเสื้อผ้าโชว์ ทั้งข่มขู่ และลวงจะกระทำชำเรา
วันที่ 6 มีนาคม 2567 พ.ต.อ.สราวุฒิ ปรีดากรณ์ ผู้กำกับสถานีตำรวจภูธรอำเภอท่าช้าง จ.สิงห์บุรี ได้จัดการแถลงข่าวกรณี การจับกุม นายสมชาย (นามสมมุติ) อายุ 41 ปี ภูมิลำเนาอยู่ที่ ตำบลถอนสมอ อำเภอท่าช้าง จังหวัดสิงห์บุรี เมื่อวันที่ 4 มีนาคม 2567 เวลาประมาณ 16.00 น. ที่ผ่านมา เนื่องจาก เมื่อวันที่ 1 มี.ค. 67 เวลา 13.30 น. มีผู้เสียหายชื่อ ด.ญ.เอ (นามสมติ)ได้มาร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนว่า ได้มีคนร้ายใช้เฟซบุ๊กชื่อว่า "เหงา เฝ้ารอ" โดยใช้รูปโปรไฟล์แทนตัวเป็นรูปตัวการ์ตูนรูปหมู ได้แอดเฟซบุ๊กของ ด.ญ.เอ และทักเข้ามาในช่องแชทเพื่อพูดคุยด้วยโดยใช้คำพูดในลักษณะลามกอนาจารส่อไปในการล่วงละเมิดทางเพศ และข่มขู่ ด.ญ.เอ ให้ส่งภาพอนาจารมาให้ เมื่อ ด.ญ.เอ หลงเชื่อส่งให้ นายสมชายก็ข่มขู่ให้ส่งภาพมาเพิ่มเติม โดยให้ ด.ญ.เอ ถ่ายภาพเปลือยกายทั้งตัวมา หากไม่ทำตามจะโพสต์ภาพที่ส่งมาก่อนหน้านี้ประจานในเฟซบุ๊กให้เกิดความอับอาย ด.ญ.เอ เริ่มเกิดความหวาดกลัว จึงปรึกษาคุณครูในโรงเรียน เมื่อคุณครูทราบเรื่องจึงพา ด.ญ.เอ ไปหาผู้ปกครองเล่าเหตุการณ์ให้ฟัง แล้วพากันมาแจ้งความที่ สภ.ท่าช้าง จ.สิงห์บุรี
หลังจากได้รับแจ้ง เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.ท่าช้าง ได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบและได้ประสานกับเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.อินทร์บุรี ที่เคยมีผู้เสียหายได้มาแจ้งความ โดย พ.ต.อ.มงคล อ่อนแก้ว ผกก.สภ.อินทร์บุรี ได้ให้ความสำคัญกับคดีนี้มาก และได้สั่งการเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสภ.อินทร์บุรี ให้หาข้อมูลและหลักฐานอย่างรัดกุม จนเมื่อทางชุดสืบสวน สภ.ท่าช้าง ประสานมาว่ามีผู้เสียหายที่เจอเหตุการณ์ในลักษณะเดียวกัน จึงร่วมกันโดยมีชุดสืบสวน ภ.จว.สิงห์บุรี ชุดสืบสวน สภ.อินทร์บุรี และชุดสืบสวน สภ.ท่าช้าง เข้าร่วมประชุมวางแผนจับกุมคนร้ายร่วมกับผู้เสียหาย ผู้ปกครอง และครูในโรงเรียนที่ ด.ญ.เอ เรียนอยู่ในอำเภอท่าช้าง เพื่อติดต่อนัดเจอกับคนร้าย บริเวณริมถนนสาธารณะลานวัดพิกุลทอง ม.3 ต.พิกุลทอง โดยให้ ด.ญ.เอ นั่งรอตรงจุดนัดพบ แล้วเจ้าหน้าที่ตำรวจได้กระจายกำลังกันซุ่มดู และเมื่อถึงเวลากำหนดนัด ได้มีรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อมิตซูบิชิ สีขาว หมายเลขทะเบียน 1กว 3425 กทม มาวนตรงจุดที่นัดพบผู้เสียหาย และได้ขับวนไปวนมาแล้วจึงหยุดรถตรงจุดที่นัด เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนเชื่อว่าเป็นผู้ต้องสงสัยที่นัดไว้จึงให้สัญญาณกัน พร้อมขับรถออกจากจุดที่ซุ่มดูและขับรถปิดหัวท้ายรถผู้ต้องสงสัยเพื่อกันผู้ต้องสงสัยขับรถหนี จากนั้นได้แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจบอกให้เปิดประตูรถยนต์ แต่ผู้ต้องสงสัยยังไม่เปิด เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สังเกตเห็นผู้ต้องสงสัยทำการลบข้อมูลในเครื่องโทรศัพท์ และถอดซิมโทรศัพท์มือถือทิ้งภายในรถคันดังกล่าว หลังจากนั้นผู้ต้องสงสัยได้เปิดประตูรถและลงมาจากรถ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบถามชื่อทราบว่าชื่อ นายสมชาย (นามสมมติ) จึงได้ขอทำการตรวจค้นตัวพบ โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อ samsung สีขาว อยู่ในกระเป๋ากางเกงข้างขวา จึงได้ยึดเป็นของกลาง และได้ตรวจสอบบันทึกการโทรออกพบเป็นหมายเลขโทรศัพท์ของ ด.ญ.เอ ที่ได้มีการติดต่อพูดคุยกัน จากนั้นภายในรถค้นพบซิมโทรศัพท์ซุกซ่อนอยู่ใต้คันเกียร์ภายในรถยนต์คันดังกล่าว สอบถาม นายสมชาย แล้วยอมรับว่าซิมโทรศัพท์ที่พบเป็นของตนเองซึ่งได้ซุกซ่อนก่อนที่จะเปิดประตูรถออกมา
จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำตัว นายสมชาย ไปบ้านพักที่นายสมชายพักอยู่ เมื่อตรวจค้นภายในห้องนอนของ นายสมชายพบคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ ยี่ห้อ black magic สีดำ เมื่อตรวจสอบข้อมูลภายในคอมพิวเตอร์ พบภาพถ่ายโป๊เปลือยเด็กผู้หญิงบันทึกอยู่ภายในของเครื่องคอมพิวเตอร์เป็นจำนวนมาก และมีภาพถ่ายโป๊เปลือย ของ ด.ญ.เอ ผู้เสียหายคนที่ 1 และ ด.ญ.บี ผู้เสียหายคนที่ 2 และ ด.ญ.ซี ผู้เสียหายที่ 3 เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงทำการตรวจยึดคอมพิวเตอร์เป็นของกลาง จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การยอมรับว่า "ตนได้แอดเฟซบุ๊ก "เหงา เฝ้ารอ" ที่ไม่ใช่ตัวตนที่แท้จริงกับ ด.ญ.เอ พูดคุยลามกและหลอกให้ส่งรูปภาพโป๊เปลือย เมื่อ ด.ญ.เอ หลงเชื่อได้ส่งภาพโป๊บางส่วนไป ตนก็ได้ข่มขู่ให้ส่งภาพโป๊เปลือยเพิ่มเติมมาให้ ถ้าไม่ทำตามจะประจานบนเฟซบุ๊กเพื่อให้ ด.ญ.เอ อับอาย ด.ญ.เอ เกิดความกลัวจึงยอมส่งภาพเปลือยกายให้เพื่อสนองความต้องการทางเพศของตนเอง และได้ทำลักษณะนี้กับ ด.ญ.บี และ ด.ญ.ซี เช่นเดียวกัน"
นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบพบภาพถ่ายโป๊เปลือยบุคคลอื่นที่อยู่ในคอมพิวเตอร์เครื่องดังกล่าวอีกหลายคน และ นายสมชาย ยังให้การเพิ่มเติมว่าได้ไปกระทำผิดกับเด็กผู้หญิงในลักษณะเดียวกัน ในท้องที่ สภ.อินทร์บุรี อีกด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงทราบว่า นายสมชาย ได้สร้างเฟซบุ๊กที่ไม่ใช่ตนเองถึง 3 เฟซด้วยกันเพื่อใช้ทักไปจีบ พูดคุยลามก อนาจาร และลวงให้เด็กสาวเปลื้องผ้าให้ดู หรือบางครั้งก็หลอกล่อโดยการเติมเงินให้ทางวอลเล็ต โดยเฟซบุ๊กแรกใช้ชื่อว่า "เจอาร์ ฟ้าใส" ใช้รูปโปรไฟล์เป็นเด็กผู้หญิง เฟซที่ 2 ใช้ชื่อว่า "Imyour Pandy" ใช้รูปโปรไฟล์เป็นกลุ่มเด็กหลายคน และเฟซที่ 3 ใช้ชื่อว่า "เหงา เฝ้ารอ" ใช้รูปโปรไฟล์เป็นรูปหมู่ โดยมีเด็กหญิงที่ตกเป็นเหยื่อของ นายสมชาย ที่ไปแจ้งความที่ สภ.อินทร์บุรี จำนวน 3 คน และ 1 ในนั้นได้เคยเจอหน้า นายสมชาย และได้ถูก นายสมชาย ทำอนาจารอีกด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.อินทร์บุรี จึงได้นำเด็กที่เคยพบ นายสมชาย มาชี้ตัว และชี้รถของ นายสมชาย เพื่อยืนยัน ซึ่งก็ปรากฎว่าเป็นคนร้ายรายเดียวกัน จึงนำตัว นายสมชาย มาทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่ นายสมชาย ได้ล่อลวงผู้เสียหายขึ้นมาทำอนาจารบนเบาะหลังของรถ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ฝากประชาสัมพันธ์ว่า ใครที่เคยตกเป็นเหยื่อ นายสมชาย ในลักษณะแบบนี้ สามารถมาแจ้งความเพิ่มเติมได้เลย ซึ่งขณะนี้มีผู้เสียหายที่มาแจ้งความรวมทั้งหมด 6 คน
หลังจากที่ครอบครัวและญาติๆ ของ นายสมชาย ทราบข่าวการกระทำผิดที่เกิดขึ้นต่างตกใจและคาดไม่ถึงว่า นายสมชาย จะมีพฤติกรรมแบบนี้ เนื่องจากปกติ นายสมชาย จะเป็นคนเงียบๆ ไม่เจ้าชู้ ทำมาหากินเก่ง เป็นคนเรียบร้อย ไม่มีใครคาดคิดเลยว่าในมุมมืดของ นายสมชาย จะเป็นไปได้ถึงขนาดนี้ โดย นายสมชาย ยอมรับสารภาพในการกระทำผิดทุกข้อกล่าวหา จึงได้นำตัวส่งพนักงานสอบสวนสภ.ท่าช้าง ในข้อหา 1.ครอบครองสื่อลามกอนาจารเด็กเพื่อแสวงหาประโยชน์ในทางเพศสำหรับตนเองหรือผู้อื่น 2.ผู้ใดกระทำด้วยประการใดๆ ต่อผู้อื่น อันเป็นการรังแก ข่มเหง คุกคามหรือ กระทำให้ได้รับความอับอายหรือเดือดร้อนรำคาญ 3.นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใดๆ ที่มีลักษณะอันลามกและข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้ และทาง เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.อินทร์บุรี จะได้หาหลักฐานเพิ่มเติมทางคดีต่อไป
จินตนา ปานมี ผู้สื่อข่าวประจำ จ.สิงห์บุรี