In News

ภารกิจนายกฯหารือบริษัทชั้นนำฝรั่งเศส พร้อมประเด็นให้สัมภาษณ์สื่อที่น่าสนใจ



นายกฯ ให้สัมภาษณ์ สื่อมวลชนถึงประเด็นทางการเมืองที่เป็นที่สนใจในขณะนี้ และนายกยังได้สรุปผลหารือเอกชน 12 บริษัทชั้นนำ เชื่อมั่นเปิดโอกาส ดึงดูดการลงทุน พัฒนาศักยภาพไทย

เมื่อ(8 มีนาคม 2567) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังยังให้สัมภาษณ์ถึงการจะลงพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ระหว่างวันที่ 15-16 มีนาคมนี้ด้วย โดยจะไปพูดคุยแก้ปัญหาเกี่ยวกับสถานการณ์ไฟป่า กับผู้ว่าราชการจังหวัด ฝ่ายความมั่นคง รวมถึงเรื่องยาเสพติด และโครงการในพระราชดำริ นอกจากนี้ เนื่องจากเป็นการเดินทางไปเชียงใหม่ในช่วงเวลาเดียวกัน ถ้ามีโอกาสก็จะไปพบพูดคุยท่านทักษิณ 

ในส่วนการอภิปรายรัฐบาลแบบไม่ลงมติ นายกฯ กล่าวว่าถือเป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่ต้องตอบคำถาม ชี้แจงประชาชน ไม่ได้กังวลอะไร ทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมาย ไม่ได้ก้าวก่าย เป็นไปตามกลไก ซึ่งหากนายกฯ อยู่ก็จะไปตอบด้วยตนเอง ประชาชนจะได้ได้รับความกระจ่าง พร้อมกันนี้กล่าวว่า รัฐบาลเดินหน้าทำงาน นอกจากนี้จะมีการแถลงและรายงานต่อ ครม. โดยคณะกรรมการนส่งเสริมการลงทุน เกี่ยวกับแผนการลงทุนจากต่างประเทศที่ผ่านมา เพื่อให้เตรียมการรองรับการลงทุนที่อาจเกิดขึ้น 

ทั้งนี้ นายกฯ เชื่อว่า รัฐบาลมีผลงาน และให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสิน การเดินทางต่างประเทศเพื่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ทั้งการประชุมเอเปค ASEAN-AUS ASEAN-JAPAN แต่จะใช้โอกาสนี้ในการพยายามพบปะนักธุรกิจ เพื่อดึงดูดการลงทุนเพิ่มมากขึ้นด้วย

ส่วนนายกฯ สิงคโปร์ นั้น หากทุกคนได้ฟังที่นายกฯ พูดจะทราบว่า นายกฯชื่นชมนายกฯสิงคโปร์ ไม่ขอให้นำมาบิดเบือนทางการเมือง ได้คุยกันอย่างตรงไปตรงมาในหลายเรื่อง หลายหนกับ นายกฯ สิงคโปร์ ไม่มีปัญหา ไม่มีประเด็นใดที่ไม่เป็นมิตร นายกฯ ถือว่าเป็นความชาญฉลาดในการบริหารประเทศ มีวิสัยทัศน์ โดยที่ได้พูดคุยกันเพื่อทำงานร่วมกันในการพัฒนาภูมิภาค ทั้งในประเด็นเมียนมา ปัญหาทะเลจีนใต้ และการท่องเที่ยว

นายกฯ ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนสรุปผลหารือเอกชน 12 บริษัทชั้นนำ เชื่อมั่นเปิดโอกาส ดึงดูดการลงทุน พัฒนาศักยภาพไทย

วันนี้ ( 8 มีนาคม 2567) นายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์ สื่อมวลชนถึงภารกิจในวันแรกที่กรุงปารีส สาธารณรัฐฝรั่งเศส นายกฯ กล่าวว่า วันแรกของการพบภาคธุรกิจในประเทศฝรั่งเศส ทั้ง 12 ราย ครอบคลุมทุกภาคธุรกิจ ตั้งแต่ ยานยนต์ แฟชั่น โรงแรม เครื่องบิน อาหาร โรงงานอุตสาหกรรม

1. ACCOR group เป็นกลุ่ม chain โรงแรมใหญ่ที่สุดในโลก มีกว่า 100 โรงแรมในไทย โดยต้องการเข้ามาวางแผนการทำแผนการท่องเที่ยวร่วมกับรัฐบาล และอยากที่จะร่วมทุนกับกองทุนไทย เช่น pension fund เพื่อขยายธุรกิจ – การสร้างโรงแรมในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้

2. บริษัท Michelin โดยบริษัทใช้ยางพาราในไทยมาก มีโรงงานในไทยทำธุรกิจมานาน หวังที่จะให้ไทยช่วยในเรื่อง ease of doing business

3. Federation Haute Couture สมาคมแฟชั่นชั้นสูง เป็นสมาพันธ์เพื่อส่งเสริมนักออกแบบรุ่นใหม่โดยอยากทำกิจกรรมร่วมกับไทย ทั้งอีเว้นท์ แฟชั่นโชว์ และสร้างสถาบันให้ความรู้กับนักเรียนไทย นายกฯ เชิญมาทำอีเว้นท์ในไทยช่วงเมษายนนี้ ให้จัดกิจกรรมคล้าย Paris Fashion Show ในกรุงเทพฯ 

4. Comité Colbert เป็นองค์กรที่พยายามผลักดันให้แบรนด์ต่างๆ ทั่วโลกได้ทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ และเป็นองค์กรที่ให้ความรู้แก่แบรนด์ และนักออกแบบทั่วโลก รวมไปถึงในด้าน soft power ด้วย โดยนายกฯ ได้เชิญองค์กรดังกล่าวให้เข้าไปให้ความรู้ โดยผ่านความร่วมมือกับคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ

5. Michelin guide บริษัทเห็นว่า ไทยมีศักยภาพมากด้านอาหาร พร้อมส่งเสริมอุตสาหกรรมอาหารภายในประเทศไทย เพื่อดึงดูดให้นักท่องเที่ยวเข้ามาหาประสบการณ์ในด้านอาหารในประเทศไทยมากยิ่งขึ้น ไทยหวังที่จะยกระดับความร่วมมือกับ Michelin เพื่อช่วยส่งเสริมในการร่วมจัดงานอีเวนท์ต่างๆ ทั้งในไทย และต่างประเทศ เพื่อเป็นการเสริมสร้างศักยภาพของประเทศไทย โดยไตรมาสนี้ ช่วงปลายพฤศจิกายนถึงธันวาคม 2567 จะมาจัดงานเทศกาลอาหารระดับโลกที่จังหวัดเชียงใหม่

6. บริษัท Richemont เป็นกลุ่มบริษัทฯที่เป็นเจ้าของแบรนด์ดังระดับโลก อาทิ Cartier, Van Cleef & Arpels, IWC โดยประเทศไทยมียอดการขายเป็นอันดับต้น ๆ ของโลก ซึ่งนายกฯ ได้ขอความร่วมมือในการทำ Collaboration กับแบรนด์ของไทย เพื่อส่งเสริมศักยภาพของนักออกแบบไทย รวมถึงวัตถุดิบไทย ที่มีคุณภาพ ตลอดจนเชิญชวนให้มาทำกิจกรรม อาทิ popup store, co-promotion กับกิจกรรมอื่นๆ ที่จะเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยว

7. Valeo บริษัทผู้เชี่ยวชาญในการออกแบบและการผลิตส่วนประกอบ ระบบบูรณาการ และโมดูล สำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์ มีชื่อเสียงในด้านนวัตกรรมในการพัฒนาและการผลิตเทคโนโลยี สำหรับเครื่องยนต์สันดาปแบบดั้งเดิมและยานพาหนะไฟฟ้า โดยนายกฯ เชิญชวนมาขยายการลงทุนในประเทศไทย ผลักดันการสร้างระบบนิเวศน์ให้กับรถ EV เป็นอีกหนึ่งก้าวที่ขยับเข้าใกล้ Future Mobility Hub และการเป็น Detroit ของเอเชีย

8. บริษัท Airbus ขับเคลื่อนเรื่อง Aviation Hub กับ Airbus Group โดยบริษัทมีเทคโนโลยีด้านความมั่นคงทางอากาศ ซึ่งไทยมีศักยภาพในการขยายศูนย์ความเป็นเลิศระดับภูมิภาคด้านการสนับสนุนและบริการ ปฏิบัติการบิน

9. บริษัท Forvia เป็นบริษัทที่ผลิตชิ้นส่วนอุปกรณ์ที่มีการนำเอานวัตกรรม และเทคโนโลยีใหม่ ๆ มาใช้ ซึ่งจะนำไปสู่การใช้พลังงานสะอาด สนับสนุนให้โรงงานผลิตที่ยังใช้ระบบ ICE ให้คำนึงถึงสิ่งแวดล้อมมากขึ้น เพื่อลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอน

10. บริษัท EssilorLuxottica ผลิตเลนส์แว่นตา โดยบริษัทชื่นชมแรงงานฝีมือของไทย และมีแผนที่จะเพิ่มพนักงานจาก 6,000 เป็น 12,000 คนจึงหวังให้รัฐบาลสนับสนุนด้าน Human resource development และอยากให้ไทยเดินหน้าเจรจา FTA กับสหภาพยุโรปให้เสร็จสิ้นโดยเร็ว

11. ได้พูดคุยหารือกับ Stellantis บริษัท ผลิตรถยนต์อันดับ 4 ของโลก ซึ่งได้พูดคุยเพื่อให้เกิดความร่วมมือ ซึ่ง บริษัทฯ สนใจจะลงทุนในไทย ซึ่งรัฐบาลพร้อมให้การสนับสนุน

12. YOUTUBE นายกรัฐมนตรีได้พูดคุยกับผู้เชี่ยวชาญ Global Head of Music ของ youtube ซึ่งเป็นผู้ค้นพบและพัฒนา ศิลปินชั้นนำ อาทิ Jay z Bon Jovi Mariah Carey เเละเป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่องธุรกิจดนตรี มาเชิญชวนนายกฯ ให้มีช่อง YouTube เป็นของตัวเองโดยจะส่งหนังสือและส่งลิสต์มาให้ว่ามีผู้นำที่มีช่อง YouTube เป็นของตัวเองแล้วกว่า 20 คนมีใครบ้างและต้องทำอะไรบ้าง 

โอกาสนี้ ทั้งสองฝ่ายได้พูดกันเกี่ยวกับเป้าหมายที่รัฐบาลไทยกำหนดให้ปีหน้าเป็นปีของมิวสิค festival แนวทางที่จะจัดงานและเชิญนักร้องระดับ A list มาร่วมงาน festival ในไทย