In News

ภารกิจของนายกฯวันที่4กรุงปารีสฝรั่งเศส พบหารือบริษัทLuxuryชั้นนำและLVMH



นายกให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนหลังพบหารือ บริษัท Luxury ชั้นนำฝรั่งเศส ก่อนหน้านี้นายกฯ พบหารือ Bernard Arnault Chairman and CEO of LVMH Group และJean-Marc Duplaix, Deputy CEO บริษัท Kering สองผู้นำด้านแฟชั่นระดับโลก

วันนี้ (11 มีนาคม 2567) เวลา 11:00 น. (เวลาท้องถิ่นกรุงปารีส) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนถึงภารกิจในฝรั่งเศส โดย นายกฯ กล่าวว่า วานนี้ เย็นวันที่ 10 มีนาคม 2567 นายกฯ ได้เดินทางไปพบกับ Mr. Jean Todt นักแข่งรถระดับโลก อดีตผู้บริหาร Ferrari และประธาน FIA  ที่บ้านพักชานกรุงปารีส เพื่อพูดคุยถึงวงการแข่งรถยนต์​ รวมถึงการต่อยอดเรื่องนำเอา Formula E ซึ่งเป็นการแข่งรถยนต์ไฟฟ้าเข้ามาจัดในประเทศไทย

โดยได้พูดคุยกันถึงโครงการ Road Safety ที่ได้รับการสนับสนุนจาก UN เพื่อลดอุบัติเหตุจากการใช้รถ โดยการสวมหมวกนิรภัย ซึ่งมีต้นแบบการผลิตหมวกนิรภัยให้มีราคาที่ต่ำประมาณ 700 บาท เพื่อให้ทุกคนได้เข้าถึงได้ นายกฯ ได้ชวน Mr.Todt เข้ามาร่วมทำกิจกรรมนี้ในเมืองไทยร่วมกับรัฐบาลไทย เพื่อสร้างความปลอดภัยในที่สาธารณะ (Public Safety) โดยที่ประเทศไทยมีอัตราการเสียชีวิต จากอุบัติเหตุทางถนนกว่า 250,000 คนต่อปี และบาดเจ็บ 800,000 คน โดยนายกจะร่วมมือเพื่อดำเนินโครงการนี้ในทุกจังหวัดของประเทศไทยโดยจะได้มีการหารือกับกระทรวงมหาดไทยและองค์การสหประชาชาติต่อไป

การหารือ LVMH ซึ่งเป็นบริษัทที่มีหลายแบรนด์ในการดูแล เช่น หลุยส์ วิตตอง เครื่องดื่มไฮเนสซี มีกิจการโรงแรม ได้พาลูกชายซึ่งเป็นผู้บริหารมาร่วมพูดคุยด้วย ร้านค้าในเครือมียอดขายอันดับต้นๆ โดยนายกฯ ได้เชิญชวนให้เข้ามาทำ pop up store ซึ่งในปีที่แล้วทางบริษัทฯ ได้มาร่วมมือดำเนินการแล้วที่จังหวัดภูเก็ตประสบความสำเร็จอย่างมาก โดยทั้งสองฝ่ายได้หารือเกี่ยวกับเรื่องภาษี และการอำนวยความสะดวกในการลงทุนเพิ่มเติม ซึ่งนายกฯ ได้เสนอ ว่าปี 2567 เป็นปีมหามงคล เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเจริญพระชนมพรรษา 6 รอบหรือ 72 พรรษา อยากให้ทั้งสองฝ่ายร่วมทำกิจกรรมพิเศษ เพื่อเฉลิมฉลองโอกาสดังกล่าว

ต่อมาได้พบหารือกับ บริษัท Kering ได้รับความนิยมอย่างมากในประเทศไทย และมีแผนจะย้ายเข้ามาในไทย จะมีการจ้างงานแรงงาน 300-400 คน โดยได้เชิญมาไม่ใช่แค่เฉพาะแค่ในเมืองใหญ่ แต่กระจายในหลายพื้นที่ ทั้งนี้บริษัทมีชื่อเสียงในเรื่องการใช้เครื่องหนัง เป็นอย่างมาก โดยชื่นชมฝีมือคนไทย แต่ยังขาดบุคลากรที่ยังมีไม่เพียงพอซึ่งในเสนอตั้ง joint venture โรงงาน เพื่อเพิ่มมูลค่าสำหรับคนไทย

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้กล่าวถึงภารกิจในช่วงบ่ายวันนี้  จะได้พบหารือกับประธานาธิบดีฝรั่งเศสซึ่งถือเป็นการเยือนอย่างเป็นทางการโดยจะได้มีการหารือ ในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับ FTA วีซ่าเชงเก้น แฟชั่น การเปิดสินค้าให้กับคนไทย จากนั้นจะเดินทางไปพบผู้บริหาร EDF เพื่อพูดคุยศึกษาเกี่ยวกับความปลอดภัยโรงงานไฟฟ้านิวเคลียร์ และในช่วงเย็นจะพบกับ ผู้บริหาร F1 โดยจะได้ เชิญให้จัดการแข่งขันในประเทศไทย 

ในวันพรุ่งนี้จะเดินทางไปเมืองคานส์ ซึ่งมีการจัดงานเกี่ยวกับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน โดยจะได้ไปดูงานสำหรับประเทศไทย และจะได้ร่วมกล่าวปาฐกถา และเมื่อเสร็จสิ้นภารกิจที่เมืองคานส์ จะเดินทางเยือนเยอรมนีในช่วงเย็น

โดยยังได้ตอบคำถามสื่อมวลชนว่า ยินดี ที่สนามบินสุวรรณภูมิติดอันดับ 7 สนามบินที่หรูหราที่สุดในโลก แต่อย่างไรก็ดีต้องกลับมาบริหารจัดการและเพิ่มประสิทธิภาพให้ดีมากยิ่งขึ้นโดยยินดีที่สนามบินมีฐานที่ดีอยู่แล้ว

และได้ตอบคำถามเกี่ยวกับประเด็นที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ ว่าการเดินทางมาต่างประเทศก็ถือเป็นการแก้วิกฤตอย่างหนึ่ง เช่น การลงนาม FTA การดึงดูดนักลงทุน ซึ่งถือเป็นการเดินหน้าทั้งในระยะกลาง และในระยะยาว เป็นการจับจ่ายใช้เงินลงทุนและนักลงทุนในโอกาสเดียวกัน โดยนายกพร้อมรับฟังทุกเรื่อง และพร้อมปรับปรุงในการทำงาน

นายกฯ พบหารือ Bernard Arnault Chairman and CEO of LVMH Group และJean-Marc Duplaix, Deputy CEO บริษัท Kering สองผู้นำด้านแฟชั่นระดับโลก

วันนี้ (11 มีนาคม 2567) เวลา 09.00 น. (เวลาท้องถิ่นกรุงปารีส) ณ ร้าน Dior สาขา Avenue Montaigne สถานที่ก่อตั้งห้องเสื้อ Christian Dior เมื่อปี 2849 (ค.ศ. 1946) นาย Bernard Arnault, Chairman and CEO of LVMH Group ซึ่งเป็นบุคคลสำคัญของโลกในภาคอุตสาหกรรมแฟชั่นและสินค้า Luxury พบหารือกับนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง

โดยนายกฯ เน้นย้ำว่าประเทศไทยเปิดแล้วสำหรับการลงทุน และเดินหน้าเพื่อเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมระดับโลก ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไปสู่การเติบโตที่สูงขึ้นและความยั่งยืนในภาคส่วนสำคัญต่างๆ รัฐบาลให้ความสำคัญกับการสร้างความสามารถในการแข่งขันระดับโลก สร้าง soft power เศรษฐกิจสร้างสรรค์ ซึ่งไทยมีความภาคภูมิใจในมรดกทางงานฝีมืออันยาวนาน เช่น ผ้าไหมไทยและเครื่องประดับที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลกทั้งความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว และมีเทคนิคที่ซับซ้อน 

นายกฯ เชื่อมั่นว่า งานฝีมืออันเป็นเอกลักษณ์และภูมิปัญญาท้องถิ่นโบราณนี้จะเป็นประโยชน์ร่วมกันของทั้งสองฝ่าย จึงอยากจะเชิญชวนกลุ่ม LVMH ร่วมกับประเทศไทยใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยมาเสริมสร้างเทคนิคและพัฒนาผ้าไทยให้ตอบสนองต่อความต้องการของตลาดต่างประเทศได้ดียิ่งขึ้น โดยไทยพร้อมต้อนรับนักออกแบบและทีมงานสร้างสรรค์จาก LVMH เพื่อหารือเกี่ยวกับความร่วมมือที่เป็นไปได้กับหน่วยงานไทยที่เกี่ยวข้องต่อไป 

ต่อจากนั้น เวลา 10.00 น. (เวลาท้องถิ่นกรุงปารีส) ณ ห้อง Chaillot ชั้น 1 โรงแรม PrincedeGalles นาย Jean-Marc Duplaix, Deputy CEO บริษัท Kering ซึ่งเป็นบริษัทประกอบธุรกิจสินค้าประเภทแฟชั่นและสินค้าLuxury รายใหญ่อันดับ 4 ของโลก เข้าพบนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง โดยได้หารือกันในประเด็นเพื่อขยายความร่วมมือ 

นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า บริษัทได้รับความนิยมอย่างมากในประเทศไทย เช่น Gucci และ Bottega ถือได้ว่ามียอดขายอันดับต้น ๆ ในไทย โดยนายกฯ กล่าวว่าปีหน้าจะ เป็นปียิ่งใหญ่ของการท่องเที่ยวไทย หากบริษัทพิจารณาเปิดสาขาเพิ่ม จะเป็นโอกาสอย่างมากสำหรับลูกค้าคนไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติ

บริษัทฯ รับทราบด้วยความยินดี และกล่าวชื่นชมว่า ลูกค้าชาวไทยเป็นลูกค้าคุณภาพ และขอบคุณที่ไทยให้ความสนใจ ทั้งนี้ บริษัทฯ มีความสนใจร่วมมือกับไทยในเรื่องการเพิ่มปริมาณสินค้าที่ส่งขายในประเทศไทย และธุรกิจ Luxury Cruise 

นอกจากนี้ นายกฯ กล่าวว่า รัฐบาลมุ่งส่งเสริมให้ไทยเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมระดับโลก ขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศสู่การเติบโตที่สูงขึ้นและความยั่งยืนในภาคส่วนสำคัญต่าง ๆ พร้อมกับเสริมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขัน เร่งสร้างเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ซึ่งนายกฯ ได้กล่าวเชิญชวนบริษัท Kering ร่วมมือกับไทย เปิด Regional Office ที่ประเทศไทย โดยรัฐบาลไทยจะแก้ไขประเด็นอุปสรรคทางการค้า เช่น มาตรการภาษี สินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ และการอำนวยความสะดวกในการดำเนินธุรกิจ (Ease of doing business)