In News
ชวนปชช.ร่วมรณรงค์ต้านภัยมะเร็งลำไส้ ตลอดมี.ค.นี้ด้วย'ริบบิ้นสีน้ำเงินเข้ม'
กรุงเทพฯ-“รัดเกล้า” เชิญชวน ปชช. ร่วมการรณรงค์ต้านภัยมะเร็งลำไส้ใหญ่และไส้ตรง ตลอดเดือนมีนาคม ด้วยสัญลักษณ์ “ริบบิ้นสีน้ำเงินเข้ม”
วันนี้ (12 มีนาคม 2567) นางรัดเกล้า อินทวงศ์ สุวรรณคีรี รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า มะเร็งลำไส้ใหญ่และไส้ตรงเป็นมะเร็งที่พบมากเป็นอันดับต้น ๆ ของหลายประเทศทั่วโลก ด้วยวิถีการดำเนินชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไปของประชากรส่งผลให้แนวโน้มอุบัติการณ์การเกิดมะเร็งลำไส้ใหญ่และไส้ตรงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง นำมาสู่สาเหตุการตายและปัญหาสาธารณสุขที่สำคัญซึ่งทวีความรุนแรงมากขึ้นทุกปี
รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า กล่าวว่า สำหรับประเทศไทย มะเร็งลำไส้ใหญ่และไส้ตรงเป็น 1 ใน 5 ของมะเร็งที่พบมากในคนไทย มีอัตราการเกิดโรคสูงขึ้นทุกปี ปัจจุบันพบมากเป็นอันดับ 3 ในเพศชาย และอันดับ 4 ในเพศหญิง แต่ละปีจะมีผู้ป่วยรายใหม่ 12,467 คน เป็นเพศชาย 6,874 และเพศหญิง 5,593 คน และมีผู้เสียชีวิตกว่า 4,700 คนต่อปี ทั้งนี้ ปัจจุบันวิถีชีวิตของคนไทยเปลี่ยนแปลงไปจากอดีตมากโดยเฉพาะพฤติกรรมการบริโภค เช่น รับประทานอาหารไขมันสูง อาหารฟาสต์ฟูดต่าง ๆ ที่ได้รับความนิยมมากขึ้น อาหารปิ้งย่างไหม้เกรียม อาหารจากน้ำมันทอดซ้ำ และเนื้อสัตว์แปรรูป ถือเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญต่อการเกิดโรค อีกทั้งยังมีปัจจัยเสี่ยงอื่น ๆ เช่น สูบบุหรี่ ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ขาดการออกกำลังกาย การมีภาวะอ้วนน้ำหนักเกิน ตลอดจนมีประวัติครอบครัวหรือตนเองเป็นติ่งเนื้อในลำไส้ เป็นต้น
“มะเร็งลำไส้ใหญ่และไส้ตรงเป็นมะเร็งที่สามารถตรวจคัดกรองเพื่อค้นหามะเร็งในระยะเริ่มแรกได้ ส่งผลให้การรักษาได้ผลดีและมีโอกาสหายจากโรคสูง ผู้ที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไป ควรรับการตรวจคัดกรองโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่และไส้ตรงโดยการตรวจหาเลือดแฝงในอุจจาระปีละครั้ง หากผิดปกติควรได้รับการส่องกล้องตรวจลำไส้ใหญ่ กรณีพบติ่งเนื้อหรือความผิดปกติในลำไส้ใหญ่แพทย์จะทำการตัดชิ้นเนื้อบริเวณดังกล่าวเพื่อวินิจฉัยต่อไป
ในการประชุม ครม. วันนี้ (12 มีนาคม 2457) กระทรวงสาธารณสุข กรมการแพทย์ โดยสถาบันมะเร็งแห่งชาติได้แจกริบบิ้นสีน้ำเงินเข้ม หรือ Dark Blue Ribnbon ให้แก่ผู้เข้าร่วมประชุมทุกคน เนื่องในเดือนมีนาคม ที่เป็นเดือนที่คนทั่วโลกพร้อมใจกันติดสัญลักษณ์ดังกล่าว เพื่อร่วมกันเชิญชวนประชาชนให้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการรณรงค์ต้านภัยมะเร็งลำไส้ใหญ่และไส้ตรง ให้ร่วมกันปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่เสี่ยงต่อการเกิดโรค เพื่อสุขภาพที่แข็งแรงของตัวเองและคนที่เรารัก และให้ร่วมกันย้ำเตือนต่อสังคมว่าภัยร้ายจากมะเร็งลำไส้ใหญ่และไส้ตรงที่อาจเกิดขึ้นได้กับทุกคน ” รองโฆษกรัดเกล้าฯ กล่าว