Authority & Harm

เครือข่ายผู้ได้รับผลกระทบจากช้างป่า7จ. บุกรัฐสภาจี้กมธ.เกษตรทำงานแก้ปัญหา



ปราจีนบุรี ระวังภัย!ชาวบ้านตกใจช้างป่าบุกมาหาถึงบ้านค่อนรุ่งเขย่าขวัญ ขณะเครือข่ายผู้ได้รับผลกระทบจากช้างป่าภาคประชาชนทั่วประเทศ 7จว. เตรียมบุกรัฐสภา ยื่นรายชื่อเพื่อเข้าร่วมประชุมกับคณะกรรมาธิการการเกษตรและสหกรณ์  วันพฤหัสบดีที่ 14 มีนาคม 2567  เวลา 09.30 น. ณ ห้อง N 403 ชั้น 4 อาคารรัฐสภาในการการแสวงหาความร่วมมือจากรัฐบาล-ทุกภาคส่วนให้เข้ามามีบทบาทในการแก้ปัญหาช้างป่าอย่างจริงจัง    ด้วยเห็นว่าตัวเลขความเสียหาย  และ  การตายสูงขึ้นเรื่อยๆ ทั่วประเทศ   ลำพังกลไกภาครัฐไม่สามารถแก้ไขได้แล้ว…

เมื่อเวลา 16.40 น.วันนี้ 12 มี.ค.67ผู้สื่อข่าวจังหวัดปราจีนบุรีรายงานว่า   ได้รับร้องทุกข์ชาวบ้าน   ที่หมู่บ้านไทรย้อยหมู่ที่ 5 ต.วังท่าช้าง อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ชวงค่อนรุ่งประมาณตี 2 (02.00 น.)วันนี้   ชาวบ้านตกใจตื่นกลางดึกเนื่องจาก   มีช้างป่าจากเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน จ.ฉะเชิงเทรา  (ในป่าราบต่ำผืนสุดท้ายของไทยในเขตป่ารอยต่อ 5 จังหวัดภาคตะวันออก จ.ฉะเชิงเทรา,จ.สระแก้ว,จ.จันทบุรี,ระยอง,จ.ชลบุรี)  ที่อพยพข้ามฝั่งจาก จ.ฉะเชิงเทราเข้ามาหากิน แล้วไม่กลับคืนถิ่น  เดินบุกมาหาถึงบ้าน 

ขณะที่เปิดหน้าต่างออกมาเห็นช้างป่าตัวใหญ่มีงายาวมายืนอยู่บนถนนหน้าบ้าน   และเดินเข้ามาบริเวณหน้าบ้าน จึงส่งเสียงร้องไม่ให้เข้ามากินต้นกล้วยที่อยู่ข้างบ้าน ช้างป่าตัวดังกล่าวจึงเดินจากไป   และเดินออกจากบ้านหลังดังกล่าว แวะเข้าบ้านของเพื่อนบ้านที่อยู่ห่างกัน 10 เมตร    ผู้ที่พบเห็นได้เดินออกมาส่องดูช้างป่าตัวใหญ่   ซึ่งมีไฟฟ้าส่องสว่างเผยให้เห็น ช้างป่าตัวใหญ่เข้าบ้านตนเองและเพื่อนบ้าน อย่างตกตะลึง

ป้าลำไย นันทะแสง อายุ 60 ปี อยู่บ้านเลขที่ 2/7 หมู่ 16 ต.วังท่าช้าง กล่าวว่า เมื่อเวลาประมาณตี 2 เมื่อค่อนรุ่งนี้   ขณะที่ตนกำลังนอนหลับสบายอยู่ในบ้าน ได้ยินเสียงหมาเห่าจึงลุกขึ้นมาส่องหน้าต่างดูพบว่า มีช้างป่าตัวใหญ่เดินอยู่บนถนนซึ่งอยู่ห่างจากตัวบ้าน 3 เมตร

ช้างป่าตัวดังกล่าวแวะเข้ามาที่หน้าบ้านเดินตรงมายังหน้า   เพื่อที่จะกินต้นกล้วยที่อยู่ข้างรั้ว จึงร้องบอกช้างไปว่า "พ่อใหญ่อย่ากินต้นกล้วยมันมีมดแดงเยอะ"   ช้างป่าตัวดังๆเดินออกไป    จึงเปิดประตูเดินออกมาดูช้างเดินข้ามถนนไปยังเพื่อนบ้านที่อยู่ห่างกัน 10 เมตร   ซึ่งเป็นพื้นที่หมู่ที่ 5

 ช้างป่าตัวดังกล่าวได้มาอยู่ที่หน้าบ้านเลขที่ 25 หมู่ที่ 5 ซึ่งเป็นบ้านของป้าเรณู พาลี อายุ 50 ปี จึงส่งเสียงเรียกช้าง  ช้างได้มาหยุดอยู่ที่หน้าบ้านของป้าเรณู จากนั้นช้างเดินเข้าไปในตัวบ้านซึ่งเป็นบ้านปูนชั้นเดียว ช้างมาหยุดอยู่ในบ้านเดินออกจากบ้านหลังดังกล่าว จากนั้นช้างได้เดินไปหักต้นหมากที่อยู่ข้างบ้าน 1 ต้น แล้วเดินเข้าป่าข้างบ้านหายไปในความมืด

ป้าเรณู พาลี กล่าวว่า ช่วงค่อนรุ่งวนนี้    ขณะนอนหลับอยู่ตกใจตื่น ได้ยินเสียงเพื่อนบ้านส่งเสียงเรียก เมื่อส่องออกมาดูที่หน้าบ้าน รู้สึกตกใจเพราะมีช้างป่าตัวใหญ่มายืนอยู่ที่ประตูหน้าบ้าน    อึดใจใหญ่ ตกใจทำอะไรไม่ถูก จึงยืนดูอยู่เงียบๆ อึดใจต่อมาช้างจึงเดินออกจากบ้านไปยังข้างบ้าน ไปหักต้นหมากที่ปลูกอยู่ลงมา เพราะช้างคิดว่าต้นหมากมีลูก แต่ต้นหมากยังไม่เป็นลูกจึงใช้งวงคาบช่อดอกลูกหมากเดินออกไปในป่าข้างบ้าน    เมื่อปีที่แล้ว ช้างป่าหลายตัวมาที่ป่าปาล์มข้างบ้านแต่ไม่ได้เข้ามาถึงในบ้านเหมือนกับครั้งนี้

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมในขณะที่   เครือข่ายผู้ได้รับผลกระทบจากช้างป่าภาคประชาชนทั่วประเทศ   เตรียมบุกรัฐสภา   ยื่นรายชื่อเพื่อเข้าร่วมประชุมกับคณะกรรมาธิการการเกษตรและสหกรณ์  วันพฤหัสบดีที่ 14 มีนาคม 2567  เวลา 09.30 น. ณ ห้อง N 403 ชั้น 4 อาคารรัฐสภา     ในการการแสวงหาความร่วมมือจากรัฐบาล-ทุกภาคส่วนให้เข้ามามีบทบาทในการแก้ปัญหาช้างป่าอย่างจริงจัง    ด้วยเห็นว่าตัวเลขความเสียหาย  และ  การตายสูงขึ้นเรื่อยๆ ทั่วประเทศ   ลำพังกลไกภาครัฐไม่สามารถแก้ไขได้แล้ว…

โดยผู้แทนจากจังหวัดต่าง ๆ  ได้แก่  จ. จันทบุรี  นายมานะ ชนะสิทธิ์   ร.ต.เสกสรรค์ ทองศรี ร.น.    นางณิชชา สุวรรณาคะนายสุวิชาณ สุวรรณาคะ    จ.ชลบุรี   นายตระกูล สว่างอารมย์ นายวิชัย มะณี   นางสาว จุฑาทิพ จิตรหาญ   นายสมศักดิ์ เดชอุดมไพศาล   นายศรายุทธ์ สุระกุล   จ.ปราจีนบุรี   นายธนเกียรติ  ไชยราษฎร์   นายวัฒนพงษ์  ชูพงษ์ธเนศ    นายชูศักดิ์ แต่งตั้งรัมภ์    จ.  ประจวบคีรีขันธ์   นายดิเรก จอมทอง   นายมลศักดิ์ พงศ์สุพัฒน์   นายวินัย หมวกเมือง   นายคณิศร สว่าง   นายพันธุ์พงษ์ โพธิ์จินดา   จ.ระยอง    นายสมพร วงษ์ประดิษฐ์    นายนวรานนท์ อนัณวรณกร   จ.นครราชสีมา   นายดนัย สุคันธชาติ  และ    จ.กาญจนบุรี  นายวสันต์ สุนจิรัตน์   น.ส.คณัสนันท์ น้อยทิพย์

มานิตย์  สนับบุญ-ข่าว/ทองสุข   สิงห์พิมพ์ –ภาพ/ปราจีนบุรี