Authority & Harm

ปปส.สกัดจับเครือข่ายยานรกถึง9คดีใหญ่ เบื้องต้นยึดยาบ้า,ไอซ์,เฮโรอีน'คีตามีนอื้อ



กรุงเทพฯ-ตำรวจปราบปรามยาเสพติดสกัดจับเครือข่ายยานรกพบการลำเลียงลงภาคใต้จำนวนมากคาดมาทดแทนยาเสพติดที่ถูกจับได้ก่อนหน้านี้ เบื้องต้นยึดยาบ้า  ล้านเม็ด, ไอซ์ 150 กก., เฮโรอีน 157 กก. และ คีตามีน 250 กก.

ตามนโยบายการปราบปรามยาเสพติดของ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เน้นใช้มาตรการทางกฎหมาย เพื่อทำลายเครือข่ายยาเสพติดอย่างจริงจังทั้งระบบ ประกอบกับนโยบายของ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร./ผอ.ศอ.ปส.ตร. และ พล.ต.ท.สำราญ นวลมา, พล.ต.ท.นิรันดร เหลื่อมศรี, พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี ผู้ช่วย ผบ.ตร. ในฐานะ รอง ผอ.ศอ.ปส.ตร. มุ่งเน้นให้เดินหน้าเชิงรุกปราบปรามจับกุมผู้ค้ายาเสพติดในพื้นที่และขยายผลการเครือข่ายที่จับกุมได้ทุกระดับ รวมทั้งสืบสวนขยายผลเพื่อยึดทรัพย์สินที่ได้มาจากการค้ายาเสพติดทั้งของผู้ค้ายาเสพติด รวมทั้งผู้ช่วยเหลือและสนับสนุนเครือข่ายทั้งหมดมาตรวจสอบ                         

วันนี้ 14มี.ค.67 เวลา 10.00 น.พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร./รอง ผอ.ศอ.ปส. พร้อมด้วย พล.ต.ท.คีรีศักดิ์ ตันตินวะชัย ผบช.ปส., พล.ต.ต.สมเกียรติ วัฒนพรมงคล, พล.ต.ต.สมบูรณ์ เทียนขาว, พล.ต.ต.ออมสินตรารุ่งเรือง, พล.ต.ต.พลัฎฐ์ วิเศษสิงห์ รอง ผบช.ปส., พล.ต.ต.พรพิทักษ์ รู้ยืนยงรอง ผบช.ฯ, พล.ต.ต.นพสิทธิ์ มิตรภักดี ผบก.ปส.1,พล.ต.ต.ธนรัชน์
สอนกล้า ผบก.ปส.2, พล.ต.ต.อดิศ เจริญสวัสดิ์ ผบก.ปส.3, พล.ต.ต.พรศักดิ์ สุรสิทธิ์ ผบก.ปส.4, พล.ต.ต.อิทธิพล จันทร์ศรีบุตร ผบก.ขส.และพล.ต.ต.วิทัศน์ บริรักษ์ ผบก.สกส. ร่วมแถลงผลการจับกุมเครือข่าย 9 เครือข่าย ผู้ต้องหารวม 19 คน ตรวจยึดยาบ้ารวม22 ล้านเม็ด, ไอซ์150 กก., เฮโรอีน 157 กก. และ คีตามีน 250 กก. พร้อมของกลางรถที่ใช้ก่อเหตุ 18 คัน

คดีที่ 1 สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 10 ก.พ.67 ตำรวจ กก.3 ปส.2ร่วมกับบก.ขส. บช.ปส. จับกุมนายสมพงษ์  พร้อมยาบ้า 12 กระสอบ จำนวน 5 ล้านเม็ด จึงร่วมกันขยายผลและวิเคราะห์ข้อมูล พบเครือข่ายนี้มีนายสมพงษ์ และนายสุรพล ยังคงลอบนำยาเสพติดเข้าสู่พื้นที่ตอนใน อย่างต่อเนื่อง จนวันที่4 มี.ค.67สายลับแจ้งว่า นายสุรพล กับพวก จะนำยาเสพติดจากพื้นที่แนวชายแดน ด้าน จว.บึงกาฬไปส่งให้ลูกค้าในเขต กทม. โดยใช้รถยนต์กระทั่งช่วงค่ำของวันเดียวกันพบรถยนต์เป้าหมายวิ่งเกาะกันเป็นขบวน บนถนนหมายเลข 212 (ถนนชยางกูร)ในพื้นที่ อ.บุ่งคล้า-อ.บึงโขงหลง จว.บึงกาฬ ต่อเนื่อง จว.นครพนม - จว.สกลนคร -จว.กาฬสินธุ์และจว.มหาสารคาม เมื่อถึงสี่แยกไฟแดงบายพาสกาฬสินธุ์(ชุมชนทุ่งศรีเมืองกลาง) ต.เหนือ อ.เมือง จว.กาฬสินธุ์ ชุดจับกุมจึงสกัดจับพร้อมแสดงตัวขอตรวจสอบรถยนต์ทั้ง 3 คัน คือ รถยนต์ HONDA ACCORD หมายเลขทะเบียน กย67xx กาญจนบุรี พบนายสุนันเป็นผู้ขับขี่ ตรวจสอบไม่พบสิ่งของผิดกฎหมายส่วนรถยนต์ HONDA CITY หมายเลขทะเบียน 4กล57xx กทม. และรถยนต์ TOYOTA VIOS หมายเลขทะเบียน กธ 26xx สระแก้ว ผู้ขับขี่พยายามขับหลบหนีมุ่งหน้า จว.มหาสารคาม ก่อนที่ทะเบียน สระแก้ว ถูกนำไปจอดทิ้งไว้ที่ลานจอดโรงพยาบาลจังหวัดมหาสารคาม ส่วนคนขับวิ่งขึ้นรถอีกคันเพื่อหลบหนี เมื่อขับมาได้ระยะหนึ่งจึงจอดรถทิ้งและวิ่งหนีไปคนละทิศละทางทั้งนี้ ตำรวจสามารถติดตามจับกุมคนขับรถทั้ง 2 คัน คือ นายขจรเกียรติ์ได้บริเวณสถานีขนส่งจังหวัดมหาสารคามส่วน นายสุรพลถูกควบคุมตัวได้บริเวณริมถนนวรบุตร ใน อ.เมือง จว.มหาสารคาม ก่อนจะนำทั้งสองมาที่จุดทิ้งรถเพื่อตรวจค้น เบื้องต้นไม่พบสิ่งของผิดกฎหมาย จากนั้นคุมตัวทั้ง 3 คน มาตรวจค้นรถที่ถูกจอดบริเวณลานจอดโรงพยาบาลจังหวัดมหาสารคามพบกระสอบต้องสงสัยวางอยู่เบาะหลังภายในห้องโดยสาร 2 กระสอบ และท้ายกระโปรงรถ 2 กระสอบตรวจสอบเป็นยาบ้าประมาณ 1,500,000เม็ด นอกจากนี้ยังพบเฮโรอีน20 แท่ง น้ำหนัก7 กิโลกรัม

คดีที่ 2จากการสืบสวนและวิเคราะห์ข้อมูลของ ตำรวจ กก.2 บก.ปส.3 พบเครือข่ายยาเสพติดมีพฤติการณ์ลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่ชายแดน เพื่อส่งต่อในพื้นที่ตอนในของ จว.เชียงใหม่ โดยใช้รถกระบะสีเทาลำเลียงและมักนำยาเสพติดอำพรางมากับพืชผลทางการเกษตรอยู่อย่างต่อเนื่องกระทั่งช่วงสายของวันที่ 5 มี.ค.2567 ชุดจับกุมตรวจสอบพบรถเป้าหมายเป็นรถกระบะติดคอกเหล็ก หมายเลขทะเบียน ยน-79xx เชียงใหม่ ขับมุ่งหน้าไปยัง อ.แม่แตงจว.เชียงใหม่ จึงติดตามและสกัดจับไว้ได้บริเวณโรงเรียนสบเปิงวิทยา ต.สบเปิง อ.แม่แตง จว.เชียงใหม่ มีนายอรรถพลเป็นคนขับรถ ภายในห้องโดยสารและท้ายกระบะมีกระสอบต้องสงสัยถูกวางอยู่จำนวน 30 กระสอบ ตรวจสอบเป็นยาบ้ารวม 6,000,000 เม็ดเบื้องต้น จับกุม นายอรรถพลพร้อมของกลางนำส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย.

คดีที่ 3เมื่อวันที่ 1 มี.ค.67 เวลา 15.00 น. ตำรวจ บก.ปส.4 ร่วมกับตำรวจภูธรจังหวัดชุมพร สนธิกำลังตั้งด่านตรวจบริเวณริมถนนเพชรเกษม หน้าด่านตรวจยานพาหนะชุมพร ขณะปฏิบัติหน้าที่พบรถกระบะ ยี่ห้ออีซูซุ สีขาว หมายเลขทะเบียน 3ฒน 1xxxกทม. เป็นรถยนต์ที่อยู่ในบัญชีเฝ้าระวังขับผ่านมา ชุดจับกุมจึงเรียกให้หยุด เพื่อตรวจสอบ พบ นายปราการ เป็นผู้ขับขี่ จากนั้นตำรวจจึงนำรถเข้าเครื่องเอกซเรย์พบวัตถุมีลักษณะเป็นก้อนๆ บริเวณกระบะท้าย จึงตรวจค้นอย่างละเอียดพบยาบ้า 6 แสนเม็ด ซุกซ่อนอยู่บริเวณหลังกระบะท้ายโดยมีผ้าใบสีดำคลุมปิดทับไว้สอบสวน นายปราการ สารภาพว่าถูกว่าจ้างจากนายเป้ ให้ลำเลียงยาบ้าจำนวนนี้มาจาก อ.ลาดหลุมแก้ว จว.ปทุมธานีไปส่งลูกค้าใน อ.หาดใหญ่ จว.สงขลา

คดีที่ 4 สืบเนื่องจากการจับกุมไอซ์  1,000 กก. ที่ผ่านมา ตำรวจ บก.ปส.4 ได้สืบสวนขยายผล จนพบเส้นทางการเงินของกลุ่มเครือข่ายนี้ มีความเชื่อมโยงกับกลุ่มบุคคลที่ใช้รถกระบะISZUSU สีเทา หมายเลขทะเบียน ผพ – 2xx สงขลา และรถกระบะหมายเลขทะเบียน ผค-6xxx สงขลา ตำรวจจึงได้เฝ้าระวัง กระทั่งวันที่ 9 มี.ค.67 เวลา 17.30 น.พบความเคลื่อนไหวของรถทั้ง 2 คัน เคลื่อนตัวจากภาคใต้ไปยังพื้นที่ภาคกลาง และขับกลับเข้ามาในพื้นที่ภาคใต้ พร้อมรถยนต์อีก 1 คัน ในลักษณะขับนำหน้าและขับตามกัน ชุดจับกุมจึงประสานตำรวจทางหลวงพัทลุงตั้งจุดตรวจบริเวณหน่วยบริการประชาชนเมื่อรถต้องสงสัยขับผ่านมาจึงเรียกเพื่อทำการตรวจค้น พบ น.ส.ปรียานุชเป็นผู้ขับขี่ เบื้องต้นไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย ต่อมารถกระบะลักษณะตีคอกสูง หมายเลขทะเบียน ผค-6xxx สงขลา ขับมาถึงจุดตรวจ พบนายธวัชชัยเป็นผู้ขับขี่ตรวจค้นพบเฮโรอีน น้ำหนัก 150 กก. และ คีตามีน น้ำหนัก250 กก. ถูกซุกซ่อนอำพรางมากับพืชผลทางการเกษตร สอบสวนสารภาพว่าได้รับการว่าจ้างให้ลำเลียงยาเสพติดทั้งหมดนี้มาจาก จว.อ่างทอง ไปส่งยังจังหวัดชายแดนภาคใต้ ส่วน น.ส.ปรียานุชรับว่าได้ขับรถนำทางมาเพื่อสำรวจเส้นทางล่วงหน้า

คดีที่ 5ก่อนการจับกุม ตำรวจ บก.สกส. ได้รับแจ้งมีเครือข่ายจะลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่ภาคกลาง ไปส่งลูกค้าในภาคใต้ โดยจะใช้รถยนต์ 2 คัน กระทั่งวันที่ 29 ก.พ.67 ช่วงเที่ยงต่อเนื่องถึงเย็น พบความเคลื่อนไหวของรถยนต์เป้าหมาย จึงจัดกำลังสะกดรอยติดตาม จนสามารถจับกุมนายมนตรีพร้อมรถยนต์หมายเลขทะเบียน กน 50xx ประจวบคีรีขันธ์ ตรวจสอบพบยาบ้าจำนวน 100แพ็ค รวม 1,000,000เม็ดได้ที่บริเวณถนนเอเชีย หมายเลข 41 กม.ต.นาขา อ.หลังสวน จว.ชุมพร ส่วน นายปฐม และ นายสุวรรณได้ที่บ้านเลขที่ 245 หมู่ที่ 5 ต.อ่าวน้อยอ.เมือง จว.ประจวบคีรีขันธ์พร้อมรถยนต์หมายเลขทะเบียน กค 18xx ประจวบคีรีขันธ์ ที่ทำหน้าที่สำรวจด่านตรวจ

คดีที่ 6เมื่อวันที่ 2 มี.ค. 67ตำรวจ บก.สกส. ร่วมกับบก.ปส.4, บก.ขส.บช.ปส., ภ.จว.สุพรรณบุรี และ บก.ทล. จับกุม 2 ผู้ต้องหา สืบเนื่องจากตำรวจ บก.สกส.บช.ปส. รับแจ้งจากสายลับว่ากลุ่มบุคคลซึ่งมีพฤติการณ์ลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เพื่อนำมาส่งลูกค้าที่ จว.สุพรรณบุรีจะใช้รถกระบะ และ รถยนต์ ลำเลียงยาเสพติดจำนวนมากผ่าน จว.สกลนคร - อ.ภูพาน - จว.กาฬสินธุ์ - จว.มหาสารคราม - จว.ขอนแก่น -วิ่งเส้นถนนมิตรภาพ เจ้าหน้าที่จึงเฝ้าระวังและติดตามรถเป้าหมายทั้ง 2 คัน กระทั่งวันที่ 2 มี.ค.67 พบความเคลื่อนไหวของกลุ่มรถยนต์ จึงจัดกำลังสะกดรอยติดตาม แต่ผู้ต้องหารู้ตัวจึงทิ้งรถและแยกย้ายกันหลบหนี พบรถกระบะติดหลังคาแครี่บอย หมายเลขทะเบียน 2 ฒช 16xx กทม. ได้หน้าบ้าน เลขที่ 99/9 หมู่ 2 ต.บ้านโพธิ์ อ.เมืองจว.สุพรรณบุรีพบกระสอบต้องสงสัย 6 กระสอบ ตรวจสอบภายในเป็นยาบ้ารวม 2,400,000 เม็ด ซุกซ่อนอยู่หลังกระบะต่อมาจับกุม นายเกรียงศักดิ์ได้บริเวณ 4 แยกกำนันดิเรก ตำบลบ้านใหม่ อำเภอพระนครศรีอยุธยา จว.พระนครศรีอยุธยา พร้อมรถยนต์ Hondaหมายเลขทะเบียนฆบ 69xx กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นสำรวจเส้นทาง ก่อนจะจับกุมนายพชร ได้ริมถนนพหลโยธิน (ขาเข้า) หน้าค่ายอดิศร ตำบลปากเพรียว อำเภอเมืองสระบุรี จว.สระบุรี

คดีที่ 7วันที่ 2มี.ค.67 ตำรวจบก.สกส., ภ.จว.ตาก , ภ.จว.ลำปาง และเจ้าหน้าที่ทหาร ร่วมกันจับกุม 2 ผู้ต้องหาสาว สืบเนื่องจากตำรวจ บก.สกส. รับแจ้งว่ากลุ่มบุคคลมีพฤติการณ์ลักลอบนำยาเสพติดจากพื้นที่ทางภาคเหนือ มาส่งให้ลูกค้าในพื้นที่ จว.ตากโดยใช้รถยนต์ กท 14xx พะเยา กระทั่งวันเกิดเหตุพบรถเป้าหมายขับมุ่งหน้า จว.ตาก ชุดจับกุมจึง ประสานงานกับตำรวจ สภ.วังประจบ ภ.จว.ตาก เพื่อเรียกตรวจค้นรถยนต์คันดังกล่าวบริเวณด่านตรวจ พบ น.ส.ทักษอร แซ่ซ้ง เป็นผู้ขับขี่ และ น.ส.สุมาลี ผาด่าน เป็นผู้โดยสาร สอบถามพบพฤติการณ์น่าสงสัย จึงเชิญตัวและนำรถยนต์ไปที่ด่านตรวจยาเสพติดแม่พริก เพื่อ X-Ray พบวัตถุต้องสงสัย เมื่อเปิดตรวจสอบดูพบเป็นยาบ้า211 มัด รวม 422,000 เม็ด ซุกซ่อนในช่องลับที่ถูกดัดแปลงใต้ช่องเก็บของท้ายรถยนต์

คดีที่ 8สืบเนื่องจากบก.สกส. ได้รับแจ้งว่ามี นายนพดล เครือข่ายยาเสพติดยังมีพฤติการณ์เคลื่อนไหวรับจ้างขนลำเลียงยาเสพติดอยู่อย่างต่อเนื่อง ล่าสุด ทราบว่าจะลักลอบนำยาเสพติดจากพื้นที่ชายแดนไทย-เมียนมาด้าน จว.เชียงรายไปส่งให้กับลูกค้าในเขตพื้นที่ กทม. และปริมณฑลกระทั่งวันที่ 6 มี.ค.67 ได้รับแจ้งว่า นายนพดล จะใช้รถตู้ และ รถยนต์ในการลำเลียงจึงสะกดรอยติดตาม พบรถตู้ หมายเลขทะเบียน นจ 41xxกทมเข้าเติมน้ำมันที่ปั๊มในพื้นที่ จ.สิงห์บุรี ชุดจับกุมจึงเข้าควบคุมตัว นายนพดล คนขับรถ และมี น.ส.สิรีธรโดยสารมาด้วยหลังจากซักถามทั้ง2คนให้การไม่ตรงกับเส้นทางที่เดินทางมา จึงเชิญตัวและนำรถยนต์เข้าเครื่องเอกซเรย์ ที่ด่านตรวจยาเสพติดพยุหะคีรี ผลการตรวจสอบ พบไอซ์จำนวน 150 ห่อ ถูกซุกซ่อนอยู่ในรถตู้ รวม 150 กก. จากนั้นได้ขยายผลจับกุมนายวัชรพล ซึ่งทำหน้าที่รับช่วงต่อจากนายนพดลฯ เพื่อนำยาเสพติดไปส่ง  ได้ที่ลานจอดรถห้างโลตัส สาขาศรีนครินทร์ อ.เมือง จว.สมุทรปราการ

คดีที่ 9ตำรวจ บก.สกส., บก.ปส.3, บก.ขส.บช.ปส., ป.ป.ส.และ บก.ทล.ร่วมจับกุม 2 สามีภรรยาลำเลียงยาเสพติด หลัง บก.สกส. ได้รับแจ้งว่ามี นายอดิสรณ์,นางกันยา 2 สามีภรรยา พร้อมพวก จะใช้รถบรรทุกเสริมข้างพร้อมลูกพ่วง, รถยนต์ 3 คัน และ รถกระบะ 1 คัน เพื่อลักลอบลำเลียงยาเสพติด จาก อ.ภูซาง จว.พะเยา จึงจัดกำลังเฝ้าติดตามกระทั่งวันที่11 มี.ค.67ระหว่างที่รถยนต์ หมายเลขทะเบียน กต 41xx พะเยาซึ่งเป็นรถนำเส้นทาง มีนางกันยา เป็นคนขับ มาถึงด่านตรวจยาเสพติดพยุหะคีรี ขณะเดียวกันรถบรรทุกหมายเลขทะเบียน 71 24xx เชียงใหม่ มีนายอดิศรณ์เป็นคนขับก็ได้แวะจอดที่ปั๊มน้ำมัน อย่างมีนัยยะ ตำรวจจึงเข้าตรวจสอบและนำรถเข้าเครื่องเอกซเรย์ที่ด่านตรวจยาเสพติดพยุหะคีรี พบยาบ้า50 กระสอบรวม 10,000,000 เม็ดซุกซ่อนอยู่ภายในกระบะของลูกพ่วง ของรถบรรทุกดังกล่าว

ทั้งนี้ตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2566 – 12 มีนาคม 2567 กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) สามารถจับกุมขบวนการค้ายาเสพติด รายสำคัญได้126 คดีผู้ต้องหา 219 คน ของกลางเป็นยาบ้า 166,697,573 เม็ด, ไอซ์4,296 กก., เฮโรอีน 250 กก.,คีตามีน 1,451 กก. และ ยาอี 498 เม็ด ยึดอายัดทรัพย์สินไว้เพื่อตรวจสอบมูลค่าประมาณ 709 ล้านบาท